ขายปลีกเบนซินจำต้องปรับ 50 สตางค์ พรุ่งนี้ ผลจากราคาตลาดโลกสูงขึ้นไม่หยุด WTI ปรับตัวทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 20, 2008 17:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงผันผวนและมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อขายทำกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้าต่อเนื่อง และข่าวนาย Chakib Khelil ประธานกลุ่มโอเปค กล่าวว่า โอเปคไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการประชุมฉุกเฉินก่อนการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือน ก.ย. 51 และโอเปคจะไม่เพิ่มกำลังการผลิตเนื่องจากอุปทานในตลาดโลกมีเพียงพอ รวมถึงข่าวคนงานท่าขนส่งน้ำมัน Fos-Lavera ซึ่งเป็นท่าขนส่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส มีแผนหยุดงานประท้วงการแปรรูปกิจการเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่งผลให้วันนี้ (20 พ.ค.51) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวทำสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ระดับ 127.07 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 118.41 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซินขึ้นอยู่ที่ระดับ 130.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 160.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท. จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน (รวมถึงแก๊สโซฮอล์) ขึ้น 50 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.51) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เป็นดังนี้
น้ำมัน หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E20 พลัส 33.09 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 6 บาท ม.ค.-มิ.ย.51)
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 35.09 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 4 บาท)
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 34.29 (ถูกกว่าเบนซิน 91 ถึง 3.70 บาท)
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 39.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 37.99
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 34.74 (ถูกกว่าดีเซล ถึง 0.70 บาท)
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 35.44
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง เนื่องจากนักวิเคราะห์ Goldman Sachs ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบ WTI ในช่วงครึ่งหลังปี 2551 จากเดิมที่ระดับ 107 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 141 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากปริมาณน้ำมันตึงตัวและปริมาณสำรองน้ำมันลดลง รวมถึงคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันจากกลุ่ม Non-OPEC ที่ลดลงจากปีก่อน ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันของจีนยังอยู่ในระดับสูง โดยจีนวางแผนนำเข้าน้ำมันดีเซล ในเดือน มิ.ย.ศกนี้ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 373,000 บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 4.84 ล้านบาร์เรล ปตท. จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยลดใช้พลังงานเพื่อลดภาระของประเทศ ในฐานะประเทศไทยยังต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ