กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมสร้างพื้นที่ปลอดฝุ่น ส่งผลให้ขณะนี้ มีห้องปลอดฝุ่น จำนวนกว่า 12,000 แห่ง เตรียมจับมือสถานที่จำหน่ายอาหารยกระดับให้เป็นพื้นที่ปลอดฝุ่น ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 20,000 แห่ง เพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการ รวมทั้งพัฒนามาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่มีค่าสูงขึ้น และส่งกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา กรมอนามัยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการเพิ่มพื้นที่ปลอดฝุ่น ส่งผลให้ขณะนี้ มีจำนวนห้องปลอดฝุ่นมากกว่า 12,000 แห่ง กรมอนามัยยังคงมีนโยบายในการสร้างพื้นที่ปลอดฝุ่นเพิ่มเติม และเล็งเห็นว่าสถานที่ที่มีประชาชนนิยมใช้บริการเป็นจำนวนมาก คือ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ หรือ ห้างสรรพสินค้า กรมอนามัยจึงร่วมกับสมาคมผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร และสมาคมค้าปลีกไทย ยกระดับสถานที่จำหน่ายอาหารให้เป็นพื้นที่ปลอดฝุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีห้องปลอดฝุ่นในสถานที่จำหน่ายอาหาร จำนวน 266 แห่ง และจะเร่งขยายเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าหมายห้องปลอดฝุ่นให้ได้เพิ่มขึ้น เป็นจำนวน 20,000 แห่ง ภายใน 3 เดือน
นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาสถานที่จำหน่ายอาหารปลอดฝุ่น ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย อาทิ สมาคมผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร สมาคมค้าปลีกไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ในการพัฒนาสถานที่จำหน่ายอาหาร ให้มีการจัดการสุขลักษณะที่ดีผ่านเกณฑ์มาตรฐาน กรมอนามัยจึงได้จัดการประชุมขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาสถานที่จำหน่ายอาหารปลอดฝุ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสถานที่จำหน่ายอาหารตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหารภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ "สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน" (SAN & SAN Plus) พร้อมทั้งต่อยอดเป็นพื้นที่ปลอดฝุ่น รวมถึงการมีส่วนร่วมในการสื่อสารความรอบรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารที่ถูกต้องไปสู่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อช่วยให้การดูแลสุขาภิบาลอาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น