
การเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการไม่เพียงเป็นทักษะสำคัญสำหรับนักเรียนแค่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับครูผู้สอนภาษาอังกฤษ นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียนเพื่อการสื่อสารทางวิชาการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพหลังสำเร็จการศึกษา หรือการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโทและปริญญาเอก ดังนั้น การเรียนรู้หลักการเขียนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น
มีเทคนิคการเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการที่น่าสนใจ ในงานสัมมนาวิชาการ ซึ่งจัดโดยสมาคมครูผู้สอนภาษาอังกฤษแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (Thailand TESOL) ร่วมกับ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยลินคอล์น (Lincoln University) ประเทศนิวซีแลนด์ ภายใต้หัวข้อเรื่อง "Academic Writing: Key Principles for Success (การเขียนเชิงวิชาการ: หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ)" โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาจากนิวซีแลนด์ได้แบ่งปันแนวทางสำคัญในการพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษให้ชัดเจน ถูกต้องแม่นยำ และเข้าใจง่าย
มร. เดริล สตรีท (Mr. Daryl Streat) จากมหาวิทยาลัยลินคอล์น ประเทศนิวซีแลนด์ อดีตประธานสมาคม TESOL ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนเชิงวิชาการ:หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ (Academic Writing: Key Principles for Success) ว่า การเขียนเชิงวิชาการภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากๆ ทั้งกับนักเรียนและคุณครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เนื่องจากนักเรียนต้องเตรียมพร้อมให้เชี่ยวชาญในการเขียนเชิงวิชาการให้พร้อมสำหรับการประกอบอาชีพหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย รวมถึงยังมีความสำคัญกับคุณครูผู้สอนเองด้วย เนื่องจากการเขียนเชิงวิชาการไม่ได้มีแค่ในโรงเรียน เช่น การเขียนรายงานและการเขียนงานวิจัยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นได้ทุกที่ เช่น การเขียนรายงานการประชุม ดังนั้นคุณครูจึงต้องเตรียมการเรียนการสอนและแบบฝึกหัดการเขียนเชิงวิชาการให้นักเรียนได้ฝึกฝนสม่ำเสมอ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งถ้าคุณครูสามารถสอนและหาแบบฝึกหัดการเขียนเชิงวิชาการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในอนาคตของนักเรียน เพราะการฝึกเขียนจะช่วยให้นักเรียนสามารถเขียนเรื่องราวได้กระชับ ชัดเจน และเป็นมืออาชีพ
"อย่างไรก็ตาม การเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ มักพบปัญหาที่นักเรียนหลายคนเข้าใจผิดบ่อยครั้ง นั่นก็คือ การที่พวกเขาพยายามใช้ภาษาอังกฤษที่มีความซับซ้อนมากเกินไป และพยายามใช้หลักไวทยากรณ์ยากๆ ในการถ่ายทอดสิ่งที่จะสื่อสารผ่านตัวอักษรออกมาให้ผู้อ่านรับทราบ ทำให้เข้าใจยาก ผู้อ่านงานเขียนชิ้นนั้นๆไม่เข้าใจว่า ผู้เขียนต้องการจะบอกหรือจะสื่ออะไรกับผู้อ่าน ประเด็นหรือใจความสำคัญของเรื่องนี้คืออะไรกันแน่ อ่านแล้วไม่รู้ว่าเขากำลังเขียนอะไร นอกจากนี้ ยังพยายามเขียนยาวเกินไป ซึ่งกลายเป็นน้ำมากกว่าเนื้อ ดังนั้น นักเรียนควรจะเขียนงานออกมาให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน สั้นกระชับได้ใจความจริงๆ เขียนสิ่งที่ต้องการบอกออกไปตรงๆ ง่าย ๆ จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจสิ่งที่เขียนง่ายมากขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้โครงสร้างไวทยากรณ์และภาษาที่ซับซ้อน อ่านแล้วเห็นแนวคิดของผู้เขียนได้ทันที" มร. เดริล สตรีท กล่าวและเสริมว่า
เทคนิคการเขียนเชิงวิชาการนั้นดูเหมือนจะยาก แต่ก็มีเทคนิคการเขียนงาน "Academic Writing: Key Principles for Success (การเขียนเชิงวิชาการ: หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ)" ให้ดีเยี่ยมทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน ซึ่งเป็น 4 เทคนิคการเขียนเชิงวิชาการจากประสบการณ์ที่ มร. เดริล สตรีท ได้แนะนำให้กับนักเรียน เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่
นอกจากนี้ มร. เดริล สตรีท ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับนักเรียนและคุณครูที่อยากเป็นคนเขียนเชิงวิชาการได้ยอดเยี่ยมและเป็นมืออาชีพ นั่นคือ ฝึกการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยหาแหล่งข้อมูลดีๆ ไม่ว่าจะบนออนไลน์ หรืออฟไลน์ ฝึกทดสอบทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ควรหาแบบทดสอบการเขียนมาฝึกบ่อยๆ รวมทั้งหมั่นฝึกเขียนบันทึกประจำวัน เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนการถ่ายทอดประเด็นให้ดีขึ้น และฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นไม่เพียงเฉพาะในงานเขียนเท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับการสื่อสารนอกห้องเรียน เพราะต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับผู้คนท้องถิ่นในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอีกด้วย
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติ รวมถึงนักเรียนไทยนิยมไปเรียนภาษาอังกฤษมากเป็นอันดับต้นๆของโลก เนื่องจากช่วยให้การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ด้วยวิธีการสอนที่เน้นการปฏิบัติ ฝึกฝนให้ใช้ในชีวิตจริง อีกทั้งผู้คนเป็นมิตร มีเพื่อนง่าย ทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันภาษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ครอบคลุมทุกระดับ สำหรับนักเรียนและผู้ใหญ่วัยทำงาน เพื่อการพัฒนาไปสู่การเรียนต่อ หรือการเพิ่มทักษะในการทำงานในหลายๆด้าน ทั้งพูด ฟัง อ่าน เขียน เพื่อให้มีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับผู้สนใจอยากจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพี่อการเรียนต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ มีโปรแกรมอบรมภาษาอังกฤษ Pathway โดยนักเรียนที่ยังสอบไม่ได้ระดับ IELTS เพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์สามารถเรียนจบและเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย และเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์ตอนนี้ยังสามารถผ่อน 0% ได้ 6 เดือนด้วยบัตรเครดิต KTC
ผู้สนใจโปรแกรมอบรมภาษาอังกฤษ Pathway นิวซีแลนด์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.learnenglishnewzealand.com