"เจ้าสัว" หรือ "CHAO" ประกาศผลงานปี 67 ทำรายได้ 1,567.1 ล้านบาท เติบโต 5% ปักธงปี 68 เดินหน้าขยายฐานธุรกิจต่อเนื่อง มุ่งสร้างการเติบโตครอบคลุมทุกมิติ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 26, 2025 13:48 —ThaiPR.net

'บมจ. เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี' หรือ CHAO ประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้จากการขาย 1,567.1 ล้านบาท เติบโต 5% จากยอดขายผลิตภัณฑ์ข้าวตัง และอาหารแปรรูปภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 133.4 ล้านบาท ลดลง 17.4% เนื่องจากค่าใช้จ่ายและต้นทุนขายสูงขึ้น จากการลงทุนล่วงหน้าเพื่อมุ่งสร้างการเติบโตทุกช่องทาง และการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อขยายฐานการเติบโตทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งแก่ผลการดำเนินงานในอนาคต ปักธงปี 68 ขยายฐานธุรกิจต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายรายได้ทะลุ 2,200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ฟากบอร์ดเคาะจ่ายปันผล 0.17 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 14 พฤษภาคมนี้

นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ "เจ้าสัว"เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 (ตุลาคม - ธันวาคม) บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 433.9 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และลดลงเล็กน้อย 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 ทำได้ 20 ล้านบาท ลดลง 62.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งเป็นไตรมาสที่มีรายได้สูงกว่าปกติ เนื่องจากการจัดส่งสินค้าทางเรือแก่ลูกค้าเกิดความล่าช้ามาจากไตรมาส 2/2567 และลดลง 54.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ 1,567.1 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากผลิตภัณฑ์ข้าวตังและอาหารแปรรูปภายในประเทศ โดยเฉพาะช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ที่มีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตรทางธุรกิจครอบคลุมทั่วประเทศ และยอดขายจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากการขยายฐานลูกค้าไปยังร้านค้าที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 133.4 ล้านบาท ลดลง 17.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักจากการการปรับกลยุทธ์ Mix Management เน้นการพัฒนาสินค้าบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าขนาดปกติเล็กน้อย เพื่อขยายฐานลูกค้าในช่องทางการค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่กดดันความสามารถในการทำกำไรส่วนหนึ่งเกิดจากการลงทุนล่วงหน้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตในทุกช่องทาง รวมถึงการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้า ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต และผลักดัน "เจ้าสัว" มุ่งสู่ผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวไทยชั้นนำระดับโลกอย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2567 ในอัตรา 0.17 บาทต่อหุ้น โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAO กล่าวว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้ 2,200 ล้านบาท ภายในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ (CAGR) 12% ต่อปี ผ่านกลยุทธ์ดังนี้ 1) ความเป็นเลิศด้านการตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย ตอกย้ำเอกลักษณ์ขนมขบเคี้ยวไทยคุณภาพ ผ่านแคมเปญการตลาดที่แข็งแกร่งทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 2) นวัตกรรมและความหลากหลาย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 15-20 SKU ต่อปี ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ขยายสู่ตลาดขนมเพื่อสุขภาพ Better-for- you snack และศึกษาโอกาสเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง 3) เสริมความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่าย พัฒนาช่องทางค้าปลีกดั้งเดิมและสมัยใหม่ ควบคู่กับช่องทางออนไลน์ ขยายไปยังช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ที่มีศักยภาพ ตลาดต่างประเทศเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ลูกค้าเดิม ขยายสู่ลูกค้าใหม่ โดยมีกลยุทธ์เฉพาะในสหรัฐอเมริกา แคนาดา จีน และประเทศในภูมิภาคเอเชีย และ 4) การขยายตลาดสู่ระดับสากล ขยายสู่ประเทศใหม่ 5-10 ประเทศ ในเอเชียและยุโรป มุ่งเน้นประเทศที่มีศักยภาพเติบโต รวมถึงตลาดฮาลาล วางแผนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ด้วยแนวคิด "Bring local to global" เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำแบรนด์ขนมขบเคี้ยวไทยชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ผ่านการจัดการต้นทุน ปรับปรุงกระบวนการอัตโนมัติ และการเพิ่มแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถอัตราการทำกำไรที่ดีต่อเนื่องและก้าวสู่ผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวไทยระดับโลกอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สำหรับคาดการณ์ตลาดขนมขบเคี้ยวไทยระหว่างปี 2567-2570 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 6.5% ต่อปี ด้วยแรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว การใช้จ่ายภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยว และอุปสงค์ในประเทศ อย่างไรก็ตาม เจ้าสัวมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จะเติบโตได้ดีกว่าตลาดขนมขบเคี้ยวโดยรวม โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลักในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะตลาดข้าวตังและผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ซึ่งเจ้าสัวครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งที่ 79% และ 62% ตามลำดับ คาดว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดรวมของข้าวตังจะอยู่ที่ 1,635 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์อยู่ที่ 732 ล้านบาท และคาดว่าตลาดภายในประเทศจะยังมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ หรือ Modern Thai Snacks ควบคู่ไปกับการนำเสนอขนมขบเคี้ยวทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค

"เจ้าสัวไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ความสำเร็จในประเทศ เราวางเป้าหมายที่จะก้าวสู่แบรนด์ระดับโลก ด้วยแนวคิด Bring local to global ผ่านการมุ่งเน้นการขยายตลาดไปยังประเทศที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น แม้ว่าการขยายตลาดต่างประเทศอาจยังไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่เราเชื่อมั่นว่าการลงทุนในด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในระดับโลก จะเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของเจ้าสัวในอนาคต" นางสาวณภัทร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ