GULF เสนอขายหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 27 - 28 กุมภาพันธ์ และ 3 มีนาคม 2568 พร้อมเปิดปัจจัยที่สนับสนุนการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากความมั่นคงทางธุรกิจของ GULF ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในสภาวะที่ตลาดโดยรวมผันผวน อีกทั้งรุ่นอายุของหุ้นกู้ที่หลากหลาย ตั้งแต่ 4 ปี ถึง 10 ปี จ่ายดอกเบี้ยคงที่ทุก 6 เดือน ในอัตรา 3.00 - 3.55% ต่อปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ระดับ "A" และอันดับเครดิตองค์กร "A+" แนวโน้ม "บวก" (Positive) อีกทั้งบริษัทฯ ได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ที่ระดับ AAA สะท้อนทั้งความแข็งแกร่งของธุรกิจ และความเป็นเลิศด้านธรรมาภิบาล ขณะที่ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมั่นคง รวมถึงการขยายธุรกิจด้วยการควบรวมกับ INTUCH เพิ่มศักยภาพและโอกาสในการเติบโต
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF หรือ บริษัทฯ) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัล พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป จำนวน 4 ชุด ได้แก่ 1.หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี 2.หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี 3.หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.35% ต่อปี และ 4.หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.55% ต่อปี โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 27 - 28 กุมภาพันธ์ และ 3 มีนาคม 2568 ผ่านธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำรวม 10 แห่ง
สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ GULF เปิดเผยว่า หุ้นกู้ GULF มีจุดเด่นที่สำคัญ นอกจากอายุหุ้นกู้ที่หลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการจัดสรรเงินลงทุนตามระยะเวลาที่แตกต่างของผู้ลงทุนแล้ว ผลตอบแทนของหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด เทียบกับระดับความเสี่ยงของหุ้นกู้ และอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "A" แนวโน้ม "บวก" หรือ "Positive" จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในสภาวะที่ตลาดโดยรวมมีความผันผวน ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้รับการประเมิน SET ESG Ratings จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ระดับ AAA สะท้อนความเป็นเลิศด้านธรรมาภิบาล ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของ GULF เติบโตต่อเนื่อง โดยงบการเงินรวมปี 2567 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 124,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากปี 2566 โดยมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 39,934 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 และมีกำไรจากการดำเนินงาน (core profit) 18,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6% เมื่อเทียบกับปี 2566 ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ (รวมหนี้สินตามสัญญาเช่า) ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ต้องดำรงตามข้อกำหนดสิทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 1.80 เท่า ซึ่งต่ำกว่าเงื่อนไขตามข้อกำหนดสิทธิที่ 3.50 เท่า
"GULF มีการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยเติบโตด้วยธุรกิจพลังงานเป็นหลัก ขยับเป็น บริษัทฯ ที่มีทั้งธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการจัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ การลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล บริษัทฯ อยู่ระหว่างควบรวมกิจการกับบมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยบริษัทใหม่ (NewCo) ที่เกิดจากการควบรวมคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานและผลกำไรที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยที่กล่าวทั้งหมดจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นกู้ GULF เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความผันผวนจากการลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ" สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ GULF ระบุ
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจหุ้นกู้ GULF สามารถจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท และเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากร่างหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.sec.or.th และสามารถติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Bangkok Bank Mobile Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Krungthai NEXT ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572 หรือจองซื้อผ่าน krungsri app สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย
(ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอป SCB EASY สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย (ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์)
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ CIMB Thai สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร.1428 กด #4 (ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารทหารไทยธนชาต)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555
- บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร)
- บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050