
THG แจ้งผลการดำเนินงานปี 2567 รายได้รวม 9,479.34 ล้านบาท ขาดทุน 1,764.51 ล้านบาท หลังบันทึกรายการพิเศษ 1,650.99 ล้านบาท เผยอยู่ระหว่างเร่งปรับโครงสร้างองค์กรสู้วิกฤต มั่นใจด้วยศักยภาพธุรกิจ และ รพ.เครือข่ายส่วนกลางและภูมิภาค ช่วยพลิกฟื้นกลับมาเติบโตในระยะยาว
นายแพทย์ไพบูลย์ เอกแสงศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด "ดูแลคุณในทุกช่วงชีวิต" (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 ว่า THG มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,479.34 ล้านบาท ลดลง 3.70% จากปี 2566 ที่ทำได้ 9,844 ล้านบาท พลิกขาดทุนในส่วนบริษัทใหญ่ 1,764.51 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่บริษัทใหญ่มีกำไร 295 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้บริษัทฯ ขาดทุน มาจากปัจจัยของรายได้กิจการโรงพยาบาลที่ลดลง บวกกับต้นทุนการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษของการขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในส่วนของบริษัทลูก ได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด และ บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด รวมถึงการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตในงบการเงินเฉพาะกิจการเป็นจำนวนรวม 3,487.42 ล้านบาท เพื่อสะท้อนความเสี่ยงทางการเงินอย่างเหมาะสม และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
"ผลขาดทุนดังกล่าว ทางคณะผู้บริหาร THG ได้คาดการณ์และเตรียมแผนรับมือล่วงหน้าไว้แล้ว โดยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินงานภายในองค์กร รวมถึงปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อเร่งแก้ไขเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาแผนธุรกิจที่ได้ลงทุนช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ยังไปได้ด้วยดี รวมถึง กลุ่มโรงพยาบาลเครือข่ายทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ที่จะเห็นพัฒนาการเชิงบวกต่อเนื่อง อาทิ การเตรียมเปิดพื้นที่บริการใหม่ในโรงพยาบาลธนบุรี และ โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา การเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงรายได้จากธุรกิจการขายสินค้าของร้านขายยา TH Health Pharma ที่ลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี ทำให้เชื่อมั่นว่า THG จะสามารถพลิกฟื้นวิกฤตและกลับมาเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว หากอนาคตอาจต้องพิจารณาการลงทุนและการกู้ยืมเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วยความรัดกุมยิ่งขึ้น" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม THG กล่าว