กรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภาคเอกชนเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ปักหมุดรณรงค์ย่านการค้าสำคัญใจกลางเมือง เดินหน้ารณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สร้างแนวร่วมเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผู้ค้า และประชาชนทั่วไป เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า "กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนิน ภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังควบคู่ไปกับการเสริมสร้างจิตสำนึกในการเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ต่อต้านการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และตัดวงจรการละเมิดในทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า และสร้างบรรยากาศการค้าและการลงทุนเชิงบวก รวมทั้งปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคจากอันตราย ที่เกิดจากการบริโภคสินค้าปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน"
นางสาวนุสรา กล่าวเพิ่มเติมว่า "การรณรงค์ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ หน่วยงานจากประเทศคู่ค้าอย่างสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (US) คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU) และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมด้วยผู้บริหารศูนย์การค้า เอ็ม บี เคฯ ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาภายในพื้นที่ศูนย์การค้าฯ และรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่ผู้ค้า ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ให้ตระหนักถึงผลกระทบและความเสียหายจากสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินจากการใช้สินค้าด้อยคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน
การบูรณาการทำงานในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างความเข้าใจแก่ผู้ค้า ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป เป็นการสานต่อภารกิจการปลูกจิตสำนึกในการ "ไม่ซื้อ ไม่ใช้ ไม่สนับสนุนสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา" กระตุ้นผู้บริโภคให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกซื้อสินค้าที่ถูกกฎหมาย ทั้งยังมุ่งหวังว่าจะเป็นการผลักดันให้ศูนย์การค้าฯ ในฐานะแนวร่วมสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หันมาใช้ "มาตรการยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่" กับร้านค้าที่ถูกจับกุมดำเนินคดีจากการจำหน่ายสินค้าละเมิดมากขึ้น นำมาสู่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ"
ทั้งนี้ หากพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 02-547-4702 หรือสายด่วน 1368 หรือ www.ipthailand.go.th