
N Health Novogene จับมือ ศิริราชพยาบาล และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ เท็นกุ (Xcoo) บริษัทจากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาแพลตฟอร์มแปลผลการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย
บริษัท เอ็นเฮลท์ โนโวยีน จีโนมิกส์ จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ N Health ในเครือ BDMS ผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมที่ครอบคลุมทุกมิติของการดูแลและรักษาสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล ผ่านห้องปฎิบัติการจีโนมิกส์โดยใช้เทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ทางพันธุศาสตร์ขั้นสูงและได้มาตรฐานสากล จับมือศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยบริษัท เท็นกุ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มแปลผลการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบวิเคราะห์การกลายพันธุ์ของยีน ที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งโดยใช้เทคโนโลยี AI ซึ่งจะช่วยยกระดับการวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยให้มีความแม่นยำและเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๘ นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจสนับสนุนโรงพยาบาล บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเฮลท์ โนโวยีน จีโนมิกส์ จำกัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับศาสตราจารย์นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย ดร.ปนัดดา เทพอัคศร ผู้อำนวยการสถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ ดร.คูนิฮิโร นิชิมูระ ประธานกรรมการบริษัท เท็นกุ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เพื่อปรับปรุงต่อยอดแพลตฟอร์มการแปลผลรหัสพันธุกรรมจากเทคโนโลยีขั้นสูง Next Generation Sequencing (NGS) โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคมะเร็ง พร้อมทั้งพัฒนาอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย เป็นมิตรต่อทั้งผู้ให้บริการและผู้ป่วย รวมถึงเป็นการส่งเสริมการแพทย์เฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) จากการใช้ปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลทางพันธุกรรมในการวางแผนการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งแบบเฉพาะบุคคล และขยายธุรกิจการให้บริการแปลผลยีนมะเร็งที่มีข้อมูลจำเพาะกับประชากรไทยที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล โดยมี มร. โคบายาชิ โยสุเกะ เลขานุการเอก (สาธารณสุขและสวัสดิการ) สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน
โครงการความร่วมมือของทั้ง 4 องค์กรจากภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มแปลผลการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง โดยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทยครั้งนี้ ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ สามารถนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว
รองศาสตราจารย์ ดร. คมกฤต เล็กสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า "สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิจัย เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยในระยะยาว อีกทั้งยังเล็งเห็นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทยด้านการแพทย์จีโนมิกส์ให้มีความก้าวหน้า และมีศักยภาพในการแข่งขันระดับโลกได้"
ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นปัญหาทางการแพทย์ที่สำคัญ ปัจจัยพันธุกรรมเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของโรคมะเร็ง โดยเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง ส่งผลกระทบต่อการวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันในสมาชิกครอบครัว การศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของยีนเหล่านี้ จึงมีความสำคัญในการพัฒนาแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย พร้อมทั้งช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต และลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งในอนาคต การพัฒนาแพลตฟอร์มแปลผลการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง โดยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย จะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าและลดปัญหาทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็งที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดระยะเวลาการวินิจฉัย แต่ยังสามารถวางแผนการรักษาและป้องกันที่ตรงจุด และเฉพาะเจาะจงกับแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น เป็นการยกระดับการวินิจฉัยและการรักษามะเร็งในประเทศไทยไปอีกขั้น
ศาสตราจารย์นายแพทย์ อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า "ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช ซึ่งร่วมทำงานในโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย ได้ทำการศึกษาวิจัยข้อมูลพันธุกรรมขนาดใหญ่ของผู้ป่วยมะเร็งชาวไทยกว่า 9 พันราย พบว่าการวิเคราะห์และแปลผลยีนมะเร็งมีความซับซ้อนมาก ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง ทำให้การตรวจยีนมะเร็งทำได้เฉพาะในสถาบันขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย แต่ทำได้ยากในห้องปฏิบัติการทางคลินิกทั่วไป การใช้เทคโนโลยี AI ช่วยในการวิเคราะห์การกลายพันธุ์ของยีนมะเร็งจะช่วยให้ห้องปฏิบัติการทางคลินิกในโรงพยาบาลต่าง ๆ สามารถแปลผลยีนได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้การวินิจฉัยและการรักษามีความแม่นยำมากขึ้น เป็นการพัฒนาไปสู่การรักษามะเร็งที่ตรงจุด และมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับคนไทย"
ดร.ปนัดดา เทพอัคศร ผู้อำนวยการสถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเสริมว่า "สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมการวิจัยทางการแพทย์ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาและป้องกันโรคต่าง ๆ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยินดีที่จะสนับสนุนการใช้ข้อมูลการตรวจวิเคราะห์และการรักษาโรคมะเร็งที่รวบรวมโดยสถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลจากส่วนกลางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ และสถานพยาบาลต่าง ๆ ที่เป็นเครือข่ายของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI ครั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความสามารถทางการแพทย์ของประเทศไทย โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยให้เหมาะสมกับลักษณะพันธุกรรมของผู้ป่วยแต่ละราย"
การปรับปรุงต่อยอดแพลตฟอร์มแปลผลการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์ข้อมูลพันธุกรรมจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย จะช่วยให้การประมวลผลข้อมูลการกลายพันธุ์ของยีนจำนวนมากที่มีความซับซ้อน เป็นไปอย่างอย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง เนื่องจาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลพันธุกรรมของประชากรไทยจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย จะช่วยให้ AI เกิดการเรียนรู้จากข้อมูลพันธุกรรมที่เฉพาะเจาะจงกับลักษณะทางพันธุกรรมของคนไทย นำไปสู่การพัฒนาโมเดลการวิเคราะห์ที่มีความแม่นยำสูง ในการคาดการณ์ว่าการกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งในคนไทย โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุมดลูก และมะเร็งลำไส้ อีกทั้ง AI ยังสามารถแปลผลยีนกลายพันธุ์ที่นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้ตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถคัดกรองและตรวจพบโรคมะเร็งในระยะที่ยังไม่มีอาการได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งช่วยแนะนำแผนป้องกัน การรักษาที่เหมาะสม และการเลือกใช้ยาได้ตามลักษณะการกลายพันธุ์ของยีน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง และลดผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็นจากการใช้ยา
ดร.คูนิฮิโร นิชิมูระ ประธานกรรมการ บริษัท เท็นกุ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน ด้านชีวสารสนเทศ (Bioinformatics) ที่ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศขั้นสูง เผยว่า "เท็นกุ ได้พัฒนา Chrovis ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการแปลผลที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสนับสนุนแพทย์และผู้ป่วยโรคมะเร็งในญี่ปุ่น ช่วยเหลือด้านการวินิจฉัยและทางเลือกการรักษาในเวชศาสตร์จีโนมมะเร็ง (Cancer Genome Medicine) หลายปีที่ผ่านมา Chrovis ได้สร้างผลงานที่แข็งแกร่งในญี่ปุ่น ปัจจุบันในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย เรามีความยินดีที่จะพัฒนา AI ของเราให้เข้ากับท้องถิ่นโดยใช้ข้อมูลจากโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย เพื่อให้บริการผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของไทยได้ดียิ่งขึ้น การร่วมมือกับทั้ง 3 องค์กรในโครงการนี้ เรามุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมในความก้าวหน้าของการแพทย์แม่นยำในประเทศไทย โดยการใช้ประโยชน์จาก Chrovis และผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์จีโนมมะเร็งของบริษัท เท็นกุ"
ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจสนับสนุนโรงพยาบาล บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเฮลท์ โนโวยีน จีโนมิกส์ จำกัด กล่าวว่า "ในประเทศไทย การตรวจวิเคราะห์ยีนเฉพาะบุคคลกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราต้องค้นหาและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ในการพัฒนาการวินิจฉัยและการรักษาผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพและทันเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วย N Health Novogene จึงร่วมมือกับทั้ง 3 องค์กรในการพัฒนาแพลตฟอร์มแปลผลการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง เพื่อให้ผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการจีโนมิกส์มีความแม่นยำและรวดเร็ว นำไปสู่การวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็งได้ตรงจุดทันเวลา และเหมาะสมกับผู้ป่วย พร้อมทั้งสามารถขยายธุรกิจการให้บริการวิเคราะห์จีโนมิส์เพิ่มเติมจากการให้บริการห้องปฏิบัติการจีโนมิกส์ต่อไป"
โดย N Health Novogene และศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช พร้อมด้วย สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และบริษัท เท็นกุ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแพทย์ของประเทศไทยในการวินิจฉัย และการรักษาโรคมะเร็งให้มีความแม่นยำ รวดเร็ว และเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายมากยิ่งขึ้น นับเป็นการยกระดับการดูแลสุขภาพของประชากรไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต