
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย เด็กวัยเรียนเขตสุขภาพที่ 3 มีภาวะอ้วนและเริ่มอ้วน สูงถึงร้อยละ 16.12 สูงดี สมส่วน เพียงร้อยละ 50.08 จัดมหกรรมแข่งขันกระโดดเชือก ระดับเขตสุขภาพที่ 3 หนุน เด็กไทย กระโดดโลดเต้น เล่นสนุก ห่างไกล NCDs ช่วยเพิ่มความสูง และป้องกันโรคอ้วน
ดร.นายแพทย์ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์สุขภาพของเด็กและเยาวชนไทย อายุ 6 - 17 ปี พบว่า ภาวะโภชนาการเกิน และโรคอ้วน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจนำไปสู่โรค NCDs ในอนาคต ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม มากเกินไป และบริโภคโปรตีน ผัก ผลไม้ ไม่เพียงพอ มีกิจกรรมทางกาย ไม่เพียงพอ และมีพฤติกรรมเนือยนิ่งสูง จากข้อมูลภาวะสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 3 ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร ชัยนาท พิจิตร และอุทัยธานี พบว่าเด็ก วัยเรียนมีระดับภาวะสูงดี สมส่วน เพียงร้อยละ 50.08 มีภาวะอ้วนและเริ่มอ้วน สูงถึงร้อยละ 16.12 ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายให้ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันป้องกันและแก้ไข
"กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดมหกรรมแข่งขันกระโดดเชือก ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 3 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นความร่วมมือของหน่วยงานในระดับพื้นที่ ประกอบด้วย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และสมาคมจั้มโร้ฟ ในการสร้างกระแสการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ลดภาวะเนือยนิ่ง และช่วยแก้ปัญหาภาวะอ้วน เตี้ย มีการแข่งขันประเภทเดี่ยวและประเภททีม เน้นนักกีฬาหน้าใหม่ มีโรงเรียนส่งแข่งขันทั้งระดับประถม มัธยม และอาชีวะศึกษา รวม 48 โรงเรียน โดยตัดสินแบบออนไลน์ และผ่านเข้ารอบ 20 โรงเรียน" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
แพทย์หญิงศรินนา แสงอรุณ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ กล่าวว่า ความสูงของเด็กมาจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม โภชนาการ การนอน และกิจกรรมทางกาย การออกกำลังกายโดยเฉพาะการกระโดด เช่น การกระโดดเชือกหรือกระโดดขึ้นลงจากที่สูงต่ำ สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกและช่วยเพิ่มความสูงได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว (Growth Spurt) เป็นเวลาทองของความสูง ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 9-14 ปี การกระโดดเชือกเป็นกิจกรรมที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) เพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ เพิ่มการทำงานของสมอง และช่วยให้มีสมาธิ อีกทั้ง ยังประหยัด ใช้อุปกรณ์น้อย เพียงเชือกกระโดดเส้นเดียวก็ออกกำลังกายได้ และสะดวก สามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน
"ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัย เด็กควรมีอายุประมาณ 5 ปีขึ้นไป เพราะต้องมีการพัฒนากล้ามเนื้อ ข้อต่อ และการทรงตัวที่ดีพอ เชือกควรมีขนาดและความยาวเหมาะสมกับส่วนสูงของเด็ก ควรมีด้ามจับที่ไม่ลื่นและทำจากวัสดุที่ยืดหยุ่น พื้นผิวสำหรับการกระโดดที่เหมาะสม เช่น พื้นไม้ กระเบื้องยาง หรือสนามหญ้า เพื่อลดแรงกระแทก หลีกเลี่ยงการกระโดดบนพื้นแข็ง เช่น คอนกรีต เพราะอาจทำให้เกิดแรงกระแทกสูงและบาดเจ็บได้ พื้นที่ควรมีความกว้างพอ ไม่มีสิ่งกีดขวางรอบตัว ควรใส่รองเท้ากีฬา ที่ช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันการลื่น ไม่ควรใส่เสื้อผ้าหลวมเกินไป เพราะอาจพันกับเชือกและทำให้สะดุดล้ม ควรมีการอบอุ่นร่างกายก่อนกระโดด ระยะเวลาการกระโดดประมาณ 5-10 นาทีต่อรอบ และพักเป็นระยะ หากเด็กมีอาการ เวียนหัว หายใจไม่ทัน เจ็บข้อเท้าหรือขา ควรหยุดพักทันที หากมีอาการปวดบริเวณ เข่า ข้อเท้า หรือหลัง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ รวมถึง เด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่า ข้อเท้า โรคหัวใจ หรือหอบหืด ควรปรึกษาแพทย์" ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ กล่าว