
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวกรณีตรวจพบการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าย่านถนนคู้บอน ถนนหทัยราษฎร์ว่า สนอ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ได้รับการประสานความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักนายกรัฐมนตรี และกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค ในการบูรณาการปราบปรามการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบและจับกุมร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณถนนคู้บอน ถนนหทัยราษฎร์ และซอยนวลจันทร์ ซึ่งเป็นย่านชุมชนและใกล้สถานศึกษา จากการตรวจสอบพบการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบใช้แล้วทิ้ง แบบตัวการ์ตูน และแบบเปลี่ยนหัวน้ำยา โดยตรวจยึดของกลางได้กว่า 3,000 ชิ้น รวมมูลค่ามากกว่า 2 ล้านบาท ซึ่ง สคบ. จะขยายผลการจับกุมในพื้นที่โดยรอบต่อไป โดย สนอ. ได้กำชับสำนักงานเขตคันนายาวและสำนักงานเขตบึงกุ่ม ให้ดำเนินการกับร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่
ทั้งนี้ การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามีความผิดฐาน "ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งห้ามขาย หรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากูไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากูไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า" ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มาตรา 29/9 มาตรา 56/4 และคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า ลงวันที่ 8 ก.ค. 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 เพิ่มเติม ของ กทม. มีอำนาจในการตรวจสอบ ยึด อายัดของกลางจากร้านค้าที่ฝ่าฝืน รวมถึงนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีที่สถานีตำรวจในพื้นที่ ขณะเดียวกัน กทม. ยังเข้มงวดห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะที่กำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด หากพบผู้ฝ่าฝืนจะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 42 พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
นอกจากนี้ กทม. ได้รับการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 67 ให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคของ กทม. เพื่อให้สามารถดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที มีความสมบูรณ์ คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางสาวกัลยา บุญแดง ผู้อำนวยการเขตคันนายาว กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) คันนายาว ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบและกวดขันการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในบริเวณซอยคู้บอน 25 และซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 68 จากการตรวจสอบ ไม่พบร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แต่พบว่าอาคารเลขที่ 28/960 ตรงข้ามซอยคู้บอน 25 มีการติดป้ายโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งร้านดังกล่าวได้ปิดกิจการไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 ได้มีการลงพื้นที่บูรณาการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่อาคารดังกล่าว โดยดำเนินการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าของกลางทั้งหมด และปัจจุบันได้ปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ประสานความร่วมมือกับ สน. ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่อย่างเข้มงวดต่อไป
นางสาวเบญจพร ศักดิ์เรืองแมน ผู้อำนวยการเขตบึงกุ่ม กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อม รอบสถานศึกษาในพื้นที่เขตบึงกุ่มเป็นประจำทุกเดือน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อกฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อม ให้ร้านค้าในพื้นที่ทราบ รวมถึงขอความร่วมมือคณะครู อาจารย์ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อมในสถานศึกษา และให้ความรู้กับนักเรียนทราบถึงอันตรายและผลกระทบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อม