
ธุรกิจ SME เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย คิดเป็นสัดส่วนมากถึงกว่า 35% ของ GDP และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้านในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น กำลังซื้อที่ลดลงจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้น การแข่งขันในช่องทางออนไลน์ที่รุนแรง และการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ ล่าสุด LINE ประเทศไทย จัดงาน BOOTCAMP DAY งานสัมมนาที่มุ่งให้ความรู้กับผู้ประกอบการ SME ไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและปรับตัวให้ทันกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป หนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจในงาน คือ พลังของการสร้างแบรนด์ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการรับมือความท้าทายเหล่านี้
สองผู้เชี่ยวชาญจาก LINE ประเทศไทย กวินทร์ สวัสดิ์ศรี หัวหน้าทีม LINE OA Campaign & Communication และ จิรพัฒน์ เดชดนู หัวหน้าทีม LINE Ads Product & Marketing Strategy ได้แนะนำแนวทางสำคัญในการสร้าง "แบรนด์ที่แข็งแกร่ง" ผ่านกลยุทธ์ 3+1L ที่ช่วยให้ SME สร้างแบรนด์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง ดึงดูดลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด กลยุทธ์นี้ไม่เพียงช่วยให้ SME ฝ่าฟันอุปสรรคทางธุรกิจ แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตในระยะยาว
เริ่มต้นด้วย L แรก คือ "Look" (ภาพลักษณ์แบรนด์) คือสิ่งที่ผู้บริโภคสัมผัสและจดจำเป็นอันดับแรก ทุกธุรกิจจำเป็นต้องพิถีพิถันกับทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ โทนสี ตัวอักษร และการออกแบบที่สื่อถึงอัตลักษณ์และบุคลิกของแบรนด์อย่างชัดเจนในทุกช่องทางการสื่อสาร ถัดมา "Language" (ภาษาและการเล่าเรื่อง) ควรสอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์ นำเสนอคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจและตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมและความประทับใจ และ "Long-Term Relationship" (การรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว) มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ตลาดมีทางเลือกมากมาย ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ไม่ได้เกิดจากคุณภาพสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการอัปเดตข้อมูล นำเสนอหรือแนะนำสินค้าใหม่ที่ตรงใจ เป็นสิ่งที่ธุรกิจควรดำเนินการเป็นประจำสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
และ 1L สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือ "LINE" แพลตฟอร์มหลักที่เอื้อให้ SME สร้างประสบการณ์การซื้อขายที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทย ด้วยเครื่องมือหลากหลาย พร้อมให้ SME ได้เลือกใช้เพื่อสร้างแบรนด์ ปั้นยอดขาย สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยทั้งสองกูรูยังได้แนะนำถึง 4 เทคนิคการใช้เครื่องมือ โซลูชันต่างๆ บน LINE เพื่อพาแบรนด์ SME สู่ความสำเร็จ ตอบโจทย์ความต้องการและดึงดูดลูกค้าตลอดเส้นทางการช้อป (Customer Journey)
(1) การทำความรู้จัก ด้วยการสร้างหน้าร้านแบบมือโปร ผ่านการสมัครใช้ 'พรีเมียมไอดี' ช่วยให้ลูกค้าจดจำร้านค้าได้ง่าย ค้นหาได้ไวบนโลกออนไลน์ ในขณะที่การสมัครเป็น 'บัญชีรับรอง' (Verified Account) เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าร้านค้ามีตัวตนจริง จากข้อมูลของ LINE พบว่าบัญชีรับรอง ซึ่งจะมีโล่สีน้ำเงินกำกับไว้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนติดตามเพิ่มขึ้นได้ถึง 19 เท่า นอกจากการสร้างหน้าร้านแบบมือโปรแล้ว การเดินหน้าหาลูกค้าที่ใช่ ด้วยการลงโฆษณาผ่าน 'LINE Ads' เพื่อโปรโมตสินค้าหรือร้านค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยจากตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้งานพบว่า ช่วยเพิ่มเพื่อนให้ LINE OA ของร้านได้สูงสุดถึง 10 เท่า เมื่อลูกค้าเพิ่ม LINE OA ของร้านค้าเป็นเพื่อนแล้ว การสร้าง 'ริชเมนู' บน LINE OA ให้มีข้อมูลเบื้องต้นของสินค้า/ร้านค้าได้ครบครัน ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญช่วยสร้างความประทับใจแรกพบ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการเองได้ง่าย โดยช่วยเพิ่ม Engagement ได้สูงถึง 14%
(2) กระตุ้นความสนใจด้วยคอนเทนต์ที่ทำถึง การนำเสนอคอนเทนต์ที่ดึงดูดและตรงใจ จะช่วยเพิ่มโอกาสการขายให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าและบริการที่เห็นภาพ โดยการบรอดแคสต์ข้อความบน LINE OA ในรูปแบบ 'ริชแมสเสจ' นับว่าช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าคลิกและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี จนร้านค้า SME นิยมใช้งานสูงสุดถึง 3.2 เท่าหากเทียบกับการบรอดแคสต์ข้อความในรูปแบบอื่น ในขณะที่การบรอดแคสต์ข้อความในรูปแบบ 'คูปอง' ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ สามารถช่วยเพิ่มอัตราการเปิดอ่านสูงกว่าการบรอดแคสต์ข้อความทั่วไปถึง 3.2 เท่า ในด้านโฆษณา การนำเสนอโฆษณาในรูปแบบวีดีโอ ยังคงเป็นที่สนใจสำหรับผู้บริโภคคนไทย โดยเฉพาะ 'วีดีโอรีวิวสินค้า' จากตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้งาน 'LINE Ads' เผยว่าสามารถสร้างยอดขายบน LINE ให้ร้านค้าเพิ่มขึ้นได้ถึง 2 เท่า
(3) ปิดการขายอย่างง่ายให้โดนใจลูกค้า ด้วยการใช้เครื่องมือ 'MyShop' มาช่วยในการจัดการร้านค้าออนไลน์แบบมืออาชีพ นอกจากทำให้ผู้ประกอบการและทีมงานร้านค้า SME บริหารจัดการร้านค้าได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าเลือกสินค้า ดูรายละเอียด และกดสั่งซื้อโดยตรงเองได้สะดวกทันใจ โดย LINE พบว่าร้านค้าที่ใช้ LINE OA ร่วมกับเครื่องมือ MyShop สามารถเพิ่มโอกาสปิดการขายผ่านแชตได้สูงขึ้นถึง 15 เท่า นอกจากนี้ 'ฟีเจอร์ Chat Tag' บน LINE OA ยังเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ช่วยให้ธุรกิจระบุกลุ่มลูกค้าจากข้อมูลการแชตได้ อาทิ การแบ่งกลุ่มตามประเภทสินค้าที่สนใจ ตามพฤติกรรมการซื้อ ตามโลเคชันของลูกค้า เป็นต้น เพื่อให้แบรนด์สามารถนำเสนอคอนเทนต์ได้ตรงกลุ่มตรงใจ การสื่อสารกับลูกค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ช่วยปิดการขายได้ง่ายขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้ง แบรนด์ยังสามารถนำข้อมูลการแบ่งกลุ่มที่ได้ ไปวิเคราะห์เพื่อออกแบบกิจกรรมการสื่อสาร การตลาดต่อได้อีกด้วย
(4) มัดใจสร้างลูกค้าประจำด้วยระบบสมาชิก อย่าง 'MyCustomer I CRM' ระบบสมาชิกสะสมแต้มที่ช่วยให้ร้านค้าสร้างความภักดีระยะยาวกับลูกค้า ผ่านการมอบสิทธิพิเศษ ข้อเสนอเฉพาะบุคคล กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลลูกค้า นำไปวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อเพื่อใช้ในกลยุทธ์การตลาดได้ต่อ สร้างการสื่อสารที่ตรงใจ มัดใจลูกค้าเดิม เพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ ทำให้ธุรกิจสามารถรักษาฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย LINE ได้เผยสถิติจากธุรกิจ SME ที่ใช้งานระบบนี้มาเกินหนึ่งเดือน พบว่า การใช้งาน MyCustomer | CRM ช่วยเพิ่มยอดการสั่งซื้อจากลูกค้าประจำสูงขึ้นถึง 7 เท่า ยอดขายและธุรกิจภาพรวมเติบโตขึ้นถึง 74% และอัตราการบล็อก LINE OA ลดลงถึง 30%
การวางรากฐาน สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งเป็นหัวใจสำคัญของ SME ไทย เพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นที่จดจำในใจของลูกค้า ผู้บริโภคยุคใหม่ โดย LINE พร้อมเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ธุรกิจ SME ไทยเติบโตท่ามกลางความท้าทายรอบด้านได้ ผ่านแนวคิด เทคนิคความรู้ที่น่าสนใจ กิจกรรมส่งเสริมมากมาย และที่สำคัญ หลากหลายเครื่องมือให้ SME ไทยได้เลือกใช้ ครอบคลุมทั้งในเชิงการสร้างแบรนด์ ปั้นยอดขาย เพื่อการตั้งตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน