แนะผู้ใช้รถเช็คช่วงล่างรถยนต์ที่ถูกลืม เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ข่าวยานยนต์ Thursday March 13, 2025 17:27 —ThaiPR.net

แนะผู้ใช้รถเช็คช่วงล่างรถยนต์ที่ถูกลืม เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ผู้ใช้รถยนต์ทราบดีว่า ช่วงล่างของรถยนต์มีบทบาทสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากเป็นระบบที่ช่วยควบคุมการทรงตัวของรถ ลดแรงสั่นสะเทือน และเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน อย่างไรก็ตาม รู้หรือไม่ว่า ยังมีหลายองค์ประกอบของช่วงล่างที่มักถูกมองข้ามและขาดการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาจส่งผลต่อสมรรถนะและอายุการใช้งานของรถยนต์ได้

นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "POP" ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์มาตรฐานสากลฝีมือคนไทยที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใช้รถยนต์มักให้ความสำคัญกับการดูแลระบบช่วงล่าง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนหลักที่ต้องบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น ยางรถยนต์ ระบบเบรก และโช๊คอัพ แต่ยังมีชิ้นส่วนช่วงล่างอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของรถยนต์ที่ไม่ควรมองข้าม และควรใส่ใจเช่นกัน อาทิ

  • ยางรองแท่นเครื่อง (Engine Mounts): ยางรองแท่นเครื่องทำหน้าที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์และช่วยยึดเครื่องยนต์ให้มั่นคง หากยางรองแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนที่มากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการขับขี่และอาจทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ ในเครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้นดังนั้น ควรเปลี่ยนทุก 60,000 - 100,000 กม. ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หรือหากมีการสั่นสะเทือน หรือเสียงดังจากเครื่องยนต์ขณะเร่งเครื่อง หรือถ้ามีรอยแตกหรือการเสื่อมสภาพที่ชัดเจน
  • บูช (Bushings): บูชในระบบช่วงล่างช่วยให้การเคลื่อนไหวของชิ้นส่วนต่าง ๆ ราบรื่น โดยลดการเสียดสีและดูดซับแรงกระแทกและทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น หากบูชสึกหรอหรือแตกหัก อาจส่งผลให้เกิดเสียงดัง และส่งผลต่อการทรงตัวของรถ การควบคุมที่ไม่แม่นยำขณะขับขี่ ควรเปลี่ยนประมาณทุก 80,000 - 100,000 กม. หรือเมื่อสึกหรอ เช่น เมื่อมีเสียงดังผิดปกติจากช่วงล่างหรือรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่ไม่มั่นคง
  • โช๊คอัพ (Shock Absorbers): โช๊คอัพเป็นส่วนสำคัญในการดูดซับแรงกระแทกจากถนน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางคนอาจมองข้ามการตรวจสอบประสิทธิภาพของโช๊คอัพ ซึ่งหากโช๊คอัพเสื่อมสภาพจะส่งผลให้การขับขี่ไม่มั่นคงและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ ควรเปลี่ยนทุก 50,000 - 100,000 กม. ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการใช้งาน หรือหากมีการกระเด้งหรือการควบคุมที่ไม่ดีขณะขับขี่ หรือมีน้ำมันรั่วจากโช๊คอัพ
  • ระบบพวงมาลัย (Steering Components): ชิ้นส่วนของระบบพวงมาลัย เช่น เพลาและบูชพวงมาลัยมักถูกมองข้าม แต่มีผลกระทบโดยตรงต่อการควบคุมรถ หากชิ้นส่วนเหล่านี้สึกหรอหรือมีปัญหา จะทำให้การควบคุมรถไม่แม่นยำและเพิ่มความเสี่ยงในการขับขี่ ควรตรวจเช็คข้อต่อพวงมาลัย ทุก 70,000 - 100,000 กม. หรือเมื่อมีอาการผิดปกติหากมีการหลวม หรือลักษณะการหมุนพวงมาลัยไม่ปกติ
  • การไม่ใส่ใจในส่วนประกอบเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแต่จะมีผลต่อความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในการขับขี่และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว ดังนั้นผู้ใช้รถควรให้ความสำคัญในการตรวจเช็คและบำรุงรักษาชิ้นส่วนช่วงล่างเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ หรือเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น มีเสียงดังขณะขับขี่ รถสั่นสะเทือนผิดปกติ หรือพวงมาลัยเบี้ยว นอกจากนี้ การเลือกใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูงก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์จะมีสมรรถนะที่ดีและปลอดภัยต่อการใช้งาน

    บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด มุ่งมั่นพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ "POP" ซึ่งได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างยาวนาน โดยมุ่งเน้นการผลิตชิ้นส่วนที่มีความทนทานและได้มาตรฐานสากล เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ทุกคน มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5,000 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคลจนถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ สามารถสอบถามรายละเอียด ที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำ ตัวแทนจำหน่าย หรือเว็บไซต์ https://chalitindustry.com โทร.02 8026400 Email: info@chalitindustry.com

    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ