ม.วลัยลักษณ์ พัฒนาธุรกิจจัดการขยะอย่างยั่งยืนให้เทศบาลปากพูน ลดปริมาณขยะลง 10 เท่า

ข่าวทั่วไป Tuesday March 18, 2025 14:03 —ThaiPR.net

ม.วลัยลักษณ์ พัฒนาธุรกิจจัดการขยะอย่างยั่งยืนให้เทศบาลปากพูน ลดปริมาณขยะลง 10 เท่า

ม.วลัยลักษณ์พัฒนาธุรกิจการจัดการขยะอย่างยั่งยืนให้เทศบาลปากพูน จ.นครศรีธรรมราช ช่วยลดปริมาณขยะจาก 18 ตัน/วัน เหลือเพียง 1.8 ตัน/วัน ลดภาระค่าใช้จ่ายของเทศบาล เพิ่มมูลค่าขยะมูลฝอย มุ่งสร้างความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมมือกับเทศบาลเมืองปากพูนในการสำรวจ เก็บรวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับระบบการจัดการขยะของเทศบาลเมืองปากพูน โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการขยะด้วยเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจสีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเมื่อวันที่ 12-16 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันจัดแสดงนิทรรศการ "นวัตกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจสีเขียวของเทศบาลเมืองปากพูน"นำเสนอแนวทางและเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริเวณลานกิจกรรม หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครศรีธรรมราช โดยได้รับเกียรติจากนายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิด รศ.ดร.มัลลิกา เจริญสุธาสินี รองอธิการบดีและคณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ กล่าวรายงาน รศ.ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี หัวหน้าโครงการการพัฒนาธุรกิจการจัดการขยะเศรษฐกิจสีเขียวของเทศบาลเมืองปากพูนและพื้นที่กลุ่มเศรษฐกิจโดยรอบฯ ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน ประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

รศ.ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี กล่าวว่า ปัญหาขยะมูลฝอยเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปากพูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งต้องเผชิญกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจพบว่า เทศบาลเมืองปากพูนมีปริมาณขยะมากถึง 18 ตันต่อวัน หรือ 6,570 ตันต่อปี ครอบคลุมพื้นที่ 12 หมู่บ้าน ที่มีประชากรกว่า 16,000 ครัวเรือน ปัญหาขยะตกค้าง ก่อให้เกิดมลภาวะทางกลิ่น ควันจากการเผาขยะ และแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์พาหะนำโรค นอกจากนี้ การกำจัดขยะยังเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 2.7 ล้านบาท/ปี

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เทศบาลเมืองปากพูนได้ดำเนินนโยบาย "ส่งเสริมการคัดแยกขยะภายในชุมชน" โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นทาง ส่งผลให้ปริมาณขยะที่ต้องกำจัดลดลงเหลือเพียง 1.8 ตันต่อวัน หรือ 657 ตันต่อปี ลดลง 10 เท่า นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะลงเหลือเพียง 361,350 บาทต่อปี ทำให้เทศบาลสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 2.3 ล้านบาทต่อปี

ความสำเร็จของโครงการนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการจัดการขยะอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดภาระด้านค่าใช้จ่ายของเทศบาล แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าขยะมูลฝอย ผ่านการนำขยะมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การนำเศษอาหารไปใช้เลี้ยงสัตว์ การนำขยะเชื้อเพลิงไปจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิงให้กับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิง การนำขยะอินทรีย์ไปผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพและก๊าซชีวภาพการนำเศษกิ่งไม้ไปทำวัสดุดินปลูก การใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเป็นวัสดุถมที่ดิน การสกัดน้ำมันจากถุงพลาสติกเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด แต่ยังช่วยส่งเสริมแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

นอกจากนี้ คณะวิจัยได้นำผลการศึกษาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลของเทศบาลเมืองปากพูน มาจัดแสดงในนิทรรศการ "นวัตกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจสีเขียวของเทศบาลเมืองปากพูน" เพื่อเผยแพร่ความรู้และแนวทางการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าชมและเรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการขยะ รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาเมืองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ