
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้ทำการศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคมานานกว่า 4 ปี และเผยผลการศึกษาทุก ๆ สองเดือน ซึ่งผลการศึกษาสามารถอ้างอิงได้ผ่านผู้ที่เข้าร่วมการศึกษาทั้งประชากรเพศชายและเพศหญิงจำนวน 1,200 คน โดยมีอายุระหว่าง 20-59 ปี จาก 6 ภูมิภาค ทั่วประเทศ โดยมีทั้งการทำแบบสอบถามเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
จากการศึกษาแนวโน้มของคนไทยตลอดทั้งปี 2567 จะเห็นได้ว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เต็มไปด้วยกระแสแฟนด้อม ซึ่งอิทธิพลของแฟนด้อมส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทย ปรากฏการณ์ไวรัล เช่น "หมูเด้ง" รวมถึงกระแสซีรีส์จีน ซีรีส์วาย และอีกมากมาย สะท้อนให้เห็นถึงพลังของแฟนด้อมที่มีต่อวงการบันเทิง ทำให้เกิดเป็นคอนเทนต์ในแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย จึงเป็นที่มาของผลสำรวจฉบับพิเศษประจำปี 2568 ในหัวข้อ 'Content ต่างใจ เพราะวัยต่างกัน'
ถอดรหัสการเสพความบันเทิงและคอนเทนต์ของคนไทยในแต่ละช่วงวัย:คนไทยเป็นคนรักความบันเทิง เพราะความบันเทิงทำให้คนไทยมีความสุข แต่การเสพความบันเทิงของแต่ละบุคคลและแต่ละช่วงวัยนั้นแตกต่างออกไป มีตั้งแต่ความบันเทิงอย่างละครคลาสสิกไปจนถึงวิดีโอไวรัลบน TikTok ตัวเลือกเหล่านี้ สะท้อนถึงคุณค่าและแรงจูงใจที่แตกต่างกัน
การเข้าใจผู้คนอย่างลึกซึ้งและรอบด้านของชีวิต หรือ Sei-katsu-sha ที่เป็นปรัชญาของฮาคูโฮโด ทำให้เห็นเรารายละเอียดที่น่าสนใจของคนในแต่ละช่วงวัยในประเทศไทย ว่ามีแรงจูงใจในการเสพเนื้อหาความบันเทิงที่แตกต่างกัน คุณพสิษฐ์ นิดฉาย ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮาคูโฮโด (กรุงเทพฯ) จำกัด ได้ให้ข้อมูลเรื่องการเสพความบันเทิงที่มีความหมายต่างกันในแต่ละช่วงวัยนี้ไว้ว่า 'ในช่วงวัย 20 (อายุ 20 - 29 ปี) ให้ความสำคัญกับการเยียวยาความเศร้า หาความรู้สึกสร้างแรงบันดาลใจ และเติมพลังให้กับตัวเอง ขณะที่ช่วงวัย 30 (อายุ 30 - 39 ปี) ใช้เนื้อหาเพื่อรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นกระแสในโลกปัจจุบันและเติมเต็มอารมณ์ไปพร้อมกัน ส่วนช่วงวัย 40 (อายุ 40 - 49 ปี) หันมาเสพเนื้อหาเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากชีวิตที่วุ่นวาย และที่น่าสนใจที่สุดคือ ช่วงวัย 50 (อายุ50 - 59 ปี) มองว่าเนื้อหาเป็นช่องทางในการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและค้นหาความหมายของชีวิต'
คุณพร้อมพร สุภัทรวณิช ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮิลล์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า 'การศึกษาในหัวข้อ 'Content ต่างใจ เพราะวัยต่างกัน' สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ได้ศึกษารายละเอียดจากคำตอบในแบบสอบถาม ซึ่งจำแนกช่วงวัยออกเป็น 4 ช่วงวัย' ดังนี้
- วัย 20+ : ช่วงเวลา เติมพลังค้นหาตัวเองแบบ No Judge
คนในช่วงอายุ 20 - 29 ปี มักเสพเนื้อหาโรแมนติก (+9) เพื่อหลีกความเป็นจริงและเติมเต็มความรู้สึก โดยมีความสนใจในศิลปะ วัฒนธรรม และนวัตกรรม (+7) รวมถึงเนื้อหาที่ท้าทายและเร้าใจ (+4) ซึ่งสามารถกระตุ้นแรงบันดาลใจและเติมเต็มพลังชีวิตได้
เหตุผลหลักที่ทำให้คนเสพเนื้อหาคือการ "เยียวยาความเศร้า" สูงกว่า (35%) ซึ่งสะท้อนถึงความรู้สึกสับสนและความเหงาในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกัน ก็ยังมองหาแรงบันดาลใจและความตื่นเต้น (33%) เพื่อค้นพบตัวตนและเสริมสร้างความมั่นใจในการเดินหน้าต่อไป
ช่วงวัย 20 ปี เป็นช่วงของการสำรวจ ทดลอง และสร้างฝัน เนื้อหาที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ การผจญภัยที่กล้าหาญ เรื่องราวโรแมนติกที่อบอุ่นจึงได้รับความนิยมมากในกลุ่มนี้
- วัย 30+ เน้นอัพเดตทุกเรื่องฮิต ให้ชีวิตไม่ Disconnect
คนในช่วงอายุ 30 - 39 ปี เป็นช่วงวัยที่มีการเสพความบันเทิงที่หลากหลายและรอบด้านมากที่สุด มีรสนิยมที่หลากหลาย สนใจทั้งเนื้อหาการสำรวจ (+2) อาหารและการทำอาหาร (+3) และศิลปะ วัฒนธรรม และนวัตกรรม (+2)
ช่วงวัยนี้เสพเนื้อหา "เพื่อการอัพเดตเทรนด์" กว่า (32%) และ "เพื่อเยียวยาความเศร้า" (27%) เพราะผู้คนในช่วงวัยนี้จะต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องงาน ครอบครัว และชีวิตส่วนตัว โดยการที่เขาพยายามวิ่งตามสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา ถูกถาโถมด้วยความรู้สึกที่ต้องรู้เทรนด์ต่าง ๆ ทำให้ในทางกลับกันเขามองหาชีวิตจริง หรืออยากรับรู้ว่าคนอื่นๆก็เหน็ดเหนื่อยอย่างเขาเช่นกัน ทำให้พวกเขาชื่นชอบคอนเทนต์เสียดสีชีวิตประจำวัน เช่น ปัญหาการทำงาน การเลี้ยงลูก และโครงสร้างอำนาจในที่ทำงาน เป็นต้น
- วัย 40 + มองหาการฮีลใจ คลายกังวล คน Mid-Life
คนในช่วงอายุ 40 - 49 ปี มักให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่สร้างความผ่อนคลายและเติมเต็มความสุขส่วนตัว เช่น อาหารและการทำอาหาร (+3%) และเรื่องราวลี้ลับ (+1%) และสวนทางกับคนในช่วงวัย 20+ เนื่องจากความสนใจในเนื้อหาโรแมนติกลดลง (-7%)
ซึ่งเหตุผลหลักที่เสพเนื้อหาคือ "เพื่อผ่อนคลายความเครียดและความกังวล" (27%) และ "เพื่อสนับสนุนคนที่ชอบหรือสิ่งที่ชอบ" (26%) แม้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่มั่นคง แต่ก็เผชิญกับความรู้สึกซ้ำซาก จำเจ และขาดความตื่นเต้น ทำให้พวกเขามองหาเนื้อหาที่สนุก ง่ายต่อการรับชม และสร้างแรงบันดาลใจแบบเบา ๆ
- วัย50+ เติมเต็มชีวิตด้วยเรื่องใหม่ ๆ เชื่อมใจครอบครัว
คนในช่วงอายุ 50 - 59 ปี ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสังคมและขนบธรรมเนียม เช่น เสียดสีสังคม การเมือง และศาสนา (+2%) ซึ่งในทางกลับกันความสนใจในเนื้อหาผจญภัย (-9%) อาหารและการทำอาหาร (-5%) และโรแมนติก (-4%) ลดลง
เหตุผลที่คนในช่วงวัยนี้ให้ความสนใจเพื่อ "เชื่อมโยงกับชุมชน" (32%) ตามด้วย "เพื่อสนับสนุนคนที่ชอบหรือสิ่งที่ชอบ" (30%) ในขณะที่ "การเยียวยาความเศร้า" ไม่ใช่ประเด็นหลัก (17%) ซึ่งผู้คนในช่วงวัยนี้หลายคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของบทบาทในชีวิต เช่น ลูกเติบโตออกจากบ้านไปใช้ชีวิตของตนเอง หรือการเกษียณอายุในการทำงาน ทำให้พวกเขามองหาเนื้อหาที่สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และช่วยให้พวกเขาค้นหาความหมายใหม่ของชีวิต
เมื่ออ้างอิงจากผลสำรวจที่สรุปออกมานั้น คุณดวงแก้ว ไชยสุริวิรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ให้มุมมองและคำแนะนำแก่นักการตลาดและผู้สร้างแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ให้เกิดความดึงดูดใจต่อคนในแต่ละช่วงวัย ดังต่อไปนี้
- วัย 20+ กับการสร้าง Create-able Entertainment
ช่วงวัย 20+ ปี คือช่วงเวลาแห่งความคิดสร้างสรรค์ ค้นหาตนเอง ทดลองเรียนรู้ และทำอะไรใหม่ ๆ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่กล้าที่จะเป็นตัวเองในแบบที่ตัวเองต้องการ และแสดงไอเดียใหม่ ๆ ให้โลกได้เห็น แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างแคมเปญเพื่อให้คนช่วงวัยนี้มีส่วนร่วมได้ เช่น
- วัย 30+ connect ชีวิตด้วย Realivant Entertainment
ชีวิตวัย 30+ ปี มักเต็มไปด้วยเรื่องราวและความวุ่นวาย แต่ก็ยังต้องการการเชื่อมต่อที่ 'ไม่ต้องพยายามแต่ยังมีความหมาย' แบรนด์ลองใช้กลยุทธ์เหล่านี้ได้ เช่น
- วัย 40+ คลายกังวลผ่าน Comfort-Vibe Entertainment
ช่วงวัย 40+ ปี ความบันเทิง คือ การย้อนกลับไปสู่ความทรงจำและการมีส่วนร่วมที่สนุกสนาน สำหรับชาว 40 แบรนด์สามารถเชื่อมต่อผู้คนในช่วงวัยนี้ได้ผ่านแคมเปญต่าง ๆ เช่น
- วัย 50+ เติมเต็มชีวิตด้วยอีกครั้งด้วย Joy Join Entertainment
ความบันเทิงความเติมเต็มความสุข และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับวัย 50+ ที่กำลังเริ่มต้นการเดินทางใหม่กับชีวิตช่วงวัยหลังเกษียณ ค้นหาจุดมุ่งหมายใหม่ในชีวิตกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ซึ่งแบรนด์สามารถเข้าถึงคนวัยนี้ได้ด้วยแคมเปญตัวอย่าง เช่น
จากผลสำรวจ 'Content ต่างใจ เพราะวัยต่างกัน' ฉบับนี้ ทำให้เห็นว่า ความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ เป็นความสุขที่แตกต่าง ในเส้นทางที่แตกต่างกันของแต่ละช่วงวัย เพื่อให้ความบันเทิงช่วยปลอบประโลมความวุ่นวายในโลกแห่งความจริง เป็นความสุขที่ช่วยแบ่งปันกันได้บนเส้นทางอายุที่แตกต่าง แต่หัวใจไทยเหมือนกัน ท้ายที่สุดนี้ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) จะยังคงมุ่งมั่นศึกษาพฤติกรรมของคนไทย ผ่านหลักปรัญชา Sei-Katsu-Sha ด้วยการเข้าใจผู้คนอย่างลึกซึ้งต่อไป และจะนำเสนอข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยต่อไป