กทม. สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังป้องกันบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้าโรงเรียนในสังกัด

ข่าวทั่วไป Tuesday March 18, 2025 14:09 —ThaiPR.net

กทม. สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังป้องกันบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้าโรงเรียนในสังกัด

นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวถึงมาตรการป้องกันการเข้าถึงและการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียนสังกัด กทม. ว่า สนศ. ได้ขอความร่วมมือโรงเรียนในสังกัดทั้ง 437 โรงเรียน ดำเนินการตามประกาศ กทม. เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กัญชา กัญชง กระท่อม บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุขของโรงเรียนในสังกัด กทม. ลงวันที่ 31 พ.ค. 67 โดยป้องกันเฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักเรียน ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนในสังกัด ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงวันที่ 10 มี.ค. 68 เรื่องมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้และการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันพิษภัยและโทษของบุหรี่ไฟฟ้าทั้งต่อสุขภาพร่างกายและโทษทางอาญา โดยบูรณาการความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าในหลักสูตรการเรียนการสอนรายวิชาต่าง ๆ อาทิ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษา สังคมศึกษา และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งวีดิทัศน์ อินโฟกราฟิก ข่าวสารกรณีศึกษา และกิจกรรม Workshop พร้องทั้งส่งเสริมให้โรงเรียนจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในวันงดสูบบุหรี่โลก หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน การฝึกอบรมเกี่ยวกับการปฏิเสธสิ่งเสพติดผ่านโครงการเพื่อนช่วยเพื่อนของชมรม To Be Number One ในโรงเรียน รวมถึงให้คำปรึกษาและแนวทางช่วยเหลือนักเรียนที่มีความเสี่ยง หากพบว่านักเรียนมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า โรงเรียนมีระบบการให้คำปรึกษาและดูแลนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยประสานงานกับผู้ปกครอง เพื่อให้การดูแลและช่วยเหลืออย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ได้จัดให้มีการเฝ้าระวังป้องกัน โดยตรวจกระเป๋านักเรียนในตอนเช้าก่อนเช้าโรงเรียน และสื่อสารถึงผู้ปกครองและร้านค้าบริเวณรอบโรงเรียนให้ช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้จำหน่าย หรือใช้บุหรี่ไฟฟ้าบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา และกำชับให้ครูในโรงเรียนปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน

ขณะเดียวกัน สนศ. ยังได้กำหนดให้โรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับการจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ติดป้ายแสดงเขตปลอดบุหรี่ ป้ายสัญลักษณ์ห้ามสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างชัดเจนในจุดต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น ทางเข้าโรงเรียน สนามกีฬา โรงอาหาร ห้องน้ำ พื้นที่พักผ่อนและบริเวณโดยรอบโรงเรียนทั้งในและนอกโรงเรียน เพื่อประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนและสร้างบรรยากาศของการเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ ควบคู่กับการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้แก่เด็กนักเรียน ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน และชุมชนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนให้จัดบอร์ดความรู้สถานการณ์ข่าวเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตามมุมต่าง ๆ ภายในห้องเรียนของนักเรียน การพูดเล่าข่าวเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าผ่านกิจกรรมเสียงตามสายในตอนเช้าก่อนเข้าแถว เพื่อเสริมสร้างความรู้แก่นักเรียน

นอกจากนี้ ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างโรงเรียน หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและภาคีเครือข่าย ที่เกี่ยวข้องในระดับโรงเรียนสังกัด กทม. กำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งในสังกัดดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ โดยจัดตั้งกลไกการเฝ้าระวังภายในโรงเรียน เช่น การตรวจตราพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ ห้องน้ำ สนามกีฬา จุดที่นักเรียนมักรวมกลุ่มกัน และตรวจคัดกรองเบื้องต้นโดยครูเวรและครูที่ปรึกษา เพื่อลดโอกาสที่นักเรียนจะนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในโรงเรียน รวมถึงกลไกการเฝ้าระวังจากภายนอกโดยเฉพาะผู้ปกครองที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เน้นย้ำการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองผ่านการประชุมผู้ปกครองและการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังพฤติกรรมของบุตรหลานและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อนักเรียนจากควันบุหรี่มือสองของผู้ปกครอง พร้อมทั้งจัดทำ "Dropbox บุหรี่ไฟฟ้า" ซึ่งเป็นแนวทางให้เด็กนักเรียนที่เคยใช้บุหรี่ไฟฟ้า สามารถนำมาส่งคืนโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่ต้องการเลิกใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการสนับสนุนจากครูและบุคลากรทางการศึกษา ส่งเสริมให้โรงเรียนจัดทำโครงการ "แกนนำเด็กและเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า" โดยจัดตั้งชมรม Gen Z ภายในโรงเรียน และสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังในโรงเรียนใกล้เคียง โดยนักเรียนแกนนำจะทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้าแก่เพื่อนนักเรียนผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์ เช่น Facebook Page ของโรงเรียน คลิปวิดีโอรณรงค์ และอินโฟกราฟิก อีกทั้งจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพนักเรียนแกนนำ เพื่อให้มีบทบาทเป็นผู้นำสร้างสังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียนของตนเองและโรงเรียนใกล้เคียง

นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ. ได้ประสานศูนย์บริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลในพื้นที่ให้ช่วยดูแลนักเรียน ครู และบุคลากรที่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมทั้งจัดทำประกาศคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กทม. เรื่อง แนวทางปฏิบัติเพื่อการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กทม. ลงวันที่ 8 ก.พ. 67 โดยดำเนินการในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การสร้างความรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ โทษและพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าให้เด็กและเยาวชน การสร้างพื้นที่ปลอดภัยรอบสถานศึกษาเพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า การควบคุมสถานที่ทำงาน สถานที่สาธารณะเป็นเขตปลอดบุหรี่และปลอดบุหรี่ไฟฟ้า การบังคับใช้กฎหมาย การบำบัดรักษาผู้สูบบุหรี่และสูบบุหรี่ไฟฟ้า และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่วนการกำหนดบทลงโทษทางวินัย หากพบบุคลากรทางการศึกษาเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า สนอ. จะเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กทม. เพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งบทบัญญัติทางกฎหมายที่เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าได้กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้จำหน่ายและผู้ครอบครองไว้แล้ว

นอกจากนี้ กทม. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามคำสั่ง กทม. ลงวันที่ 12 ก.ค. 67 ร่วมกับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดมาตรการแนวทางปฏิบัติ เพื่อการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกัน สร้างทัศนคติการไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกต้องให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชน ส่งเสริมและสนับสนุนการบำบัดรักษาผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า โดยให้การรักษาผู้สูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้าที่คลินิกก้าวใหม่และคลินิกก้าวใหม่พลัสของศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง พร้อมทั้งจัดอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ประเด็นการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า จัดทำมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ จัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจและชุดปฏิบัติการระดับเขต เพื่อบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ กำหนดแนวทางการดำเนินงานควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่รอบสถานศึกษาและแนวทางการควบคุมการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่รอบสถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยว พื้นที่ปัญหาซ้ำซากในกรุงเทพฯ รวมทั้งสนับสนุนป้ายและสติกเกอร์สำหรับเขตปลอดบุหรี่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาล สถานศึกษา สวนสาธารณะ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ