
PEACE เดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 30 บนเส้นทางพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลังสร้างบ้านและส่งมอบให้ลูกค้าแล้วกว่า 1.3 หมื่นล้าน จำนวนกว่า 3,600 ยูนิต ชู 3 กลยุทธ์หลักสร้างการเติบโต พร้อมกางแผนปี 2568 เปิดตัวบ้านใหม่อีก 5 โครงการ รวมมูลค่า 4,585 ล้านบาท ลุยจับมือพันธมิตรสร้างประสบการณ์อยู่อาศัย 'ใช้ชีวิตอย่างสบายใจไปกับ PEACE'
นายประสพศักดิ์ ศิริโสภณา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการแรก บ้านป่าริมธาร และบ้านลมทะเล จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ และได้ก้าวสู่ปีที่ 30 ในปีนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทดำเนินงานและสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีการเปิดโครงการใหม่อย่างสม่ำเสมอได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูง และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำ ทำให้สามารถสร้างกำไรได้ทุกปี รวมถึงมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่เคยประสบปัญหาหนี้ NPL กับสถาบันการเงิน แม้ว่าจะดำเนินธุรกิจในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ก็ตาม
ทั้งนี้ มาจากการที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพในทุกขั้นตอน มีการคัดเลือกทำเลที่ตั้งโครงการ การพัฒนาโครงการที่ได้มาตรฐานตามความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมี Customer Service ที่ทัดเทียบบริษัทชั้นนำ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาโครงการไปแล้วกว่า 21 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท จำนวนรวมกว่า 3,600 ยูนิต โดยมีแบรนด์โครงการบ้านที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า อาทิ THE GLAMOR, CORDIZ, CHER, CHERENE และ CHEREA เป็นต้น
ด้าน นายโดม ศิริโสภณา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและขายรวม 7 โครงการ มูลค่า 5,512 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการเฌอ สุขสวัสดิ์ - พุทธบูชา มูลค่า 866 ล้านบาท 2. โครงการเฌอรีน กรุงเทพกรีฑา - ร่มเกล้า มูลค่า 712 ล้านบาท 3.โครงการเฌอเรีย ราชพฤกษ์ - เจษฎาบดินทร์ มูลค่า 1,756 ล้านบาท 4.โครงการเฌอ ราชพฤกษ์ - พระราม 5 มูลค่า 539 ล้านบาท 5. โครงการเฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ มูลค่า 815 ล้านบาท 6. โครงการเฌอ พหลโยธิน - สายไหม มูลค่า 442 ล้านบาท และ 7. โครงการเฌอ วิภาวดีรังสิต มูลค่า 382 ล้านบาท
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 30 บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เดินหน้าสู่เป้าหมายหลัก คือการขึ้นมาอยู่ในอันดับ 10 - 20 ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้ 3 กลยุทธ์สำคัญเป็นแนวทางในการดำเนินงาน ได้แก่
บริษัทมีแนวทางการสร้างแบรนด์เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีแนวคิดสอดคล้องกัน เพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่ม Brand Awareness โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ การพัฒนา Key Visual สำหรับโอกาสครบรอบ 30 ปี ออกแบบโดย Atelier Pakawan หรือ ภควรรณ ทองวานิช ศิลปินชาวไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live your journey with PEACE of Mind ถ่ายทอดผ่านผลงานสีน้ำที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง สื่อถึงแนวคิดการสร้างความสบายใจของ PEACE ได้อย่างลงตัว
รวมไปถึงการ Collaboration ครั้งสำคัญ ระหว่าง PEACE และ แบรนด์ชื่อดังที่ได้รับการยอมรับหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น ร่วมกับ Zantiis ที่เป็นแบรนด์น้ำหอมของไทย เพื่อนำเสนอประสบการณ์แห่งความผ่อนคลายให้กับลูกค้าที่มาเยี่ยมชมโครงการ ด้วยกลิ่นพิเศษ "PEACE of Mind" และยังได้รับเกียรติจาก ดลชัย บุณยะรัตเวช CEO ของ Zantiis ในการออกแบบโลโก้สำหรับ Diffuser และเทียนหอมภายใต้คอนเซ็ปต์ PEACE of Mind อีกด้วย
"นอกจากนี้ เรายังร่วมมือพันธมิตรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น TAKTAI ซึ่งมุ่งเน้นการใช้เส้นใยธรรมชาติจากพืชที่เติบโตง่าย เช่น ไผ่ สู่การออกแบบและผลิตชุดยูนิฟอร์มใหม่สำหรับพนักงานของเรา ที่ไม่เพียงแต่สะดวกสบาย แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน พร้อมกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการทอผ้าตัดเย็บแบบดั้งเดิมของชุมชนที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมไปถึงรวมมือกับ SC GRAND ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Recycled & Sustainable Uniform ต่อยอดจากแนวคิด "Re-PEACE" ซึ่งเป็นการเล่นคำระหว่างแบรนด์ PEACE และคำว่า Repeat ที่สื่อถึงการนำเสื้อเก่ากลับมาใช้ใหม่ ผ่านกระบวนการ รีไซเคิล เพื่อลดขยะและสร้างเสื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาสู่โลกของยูนิฟอร์ม เปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มเก่าให้กลายเป็นยูนิฟอร์มใหม่ที่ทันสมัย คุณภาพดี และยั่งยืน ช่วยลดขยะและการใช้ทรัพยากร พร้อมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรในด้านความยั่งยืนอีกด้วย"