
ชุมชนบ้านป่าดำ หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 6 ชุมชนต้นแบบของ โครงการอำเภอบูรณาการป้องกันปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ (แอลกอฮอล์) ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ปี พ.ศ.2567 ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยมี นายศิลาศักดิ์ วินันต์ "พ่อหลวงบ้านป่าดำ" หรือ ผู้ใหญ่บ้าน เป็นแกนนำคนสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ด้วยผลงานดีเด่นด้านการป้องกันควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนด้วยพลังคน 3 วัย พร้อมกิจกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชน
ก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลง: ผู้นำต้องเป็นต้นแบบ
พ่อหลวงศิลาศักดิ์ เล่าว่า เริ่มต้นทำงานด้วยการเป็นคณะทำงานเครือข่าย การป้องกัน แก้ไข ปัญหา เหล้า บุหรี่ และอุบัติเหตุ จังหวัดลำพูน เมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยตระหนักดีว่าการจะทำให้ชุมชนลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอื่น ๆ ได้นั้น ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดี แม้ว่าการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะฝังรากลึกในวิถีชีวิตของชาวบ้าน โดยเฉพาะในงานประเพณีและเทศกาลต่าง ๆ แต่พ่อหลวงเลือกที่จะยืนหยัดในแนวทางงดเหล้าและส่งเสริมให้ชุมชนตระหนักถึงผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพและสังคมอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ชุมชนได้ใช้มาตรการ 8 ข้อ ซึ่งอ้างอิงจาก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ประกอบด้วย 1.) งานศพปลอดเหล้า 2.) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ต้องมีใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิต 3.) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เฉพาะเวลา 11.00 - 14.00 น. และ 17.00 - 24.00 น. เท่านั้น 4.) ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 5.) ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับคนที่เมาจนครองสติไม่ได้ 6.) ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ของแต่ละเดือน 7.) ไม่ขาย ไม่ดื่ม ไม่สูบในวัด โรงเรียน สถานที่สาธารณะ และสถานที่อื่นที่กฎหมายกำหนด และ 8.) ไม่ทำการโฆษณา ส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากร้านค้าในชุมชน โดยปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จนได้รับป้าย "ร้านคุณธรรม" จากทางอำเภอ
นางเรณู จอมมณี เจ้าของร้านขายของชำหนึ่งในร้านค้าคุณธรรม กล่าวเสริมว่า จากการดำเนินงานอย่างเข้มแข็งของพ่อหลวงและการร่วมมือของคนในชุมชน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คนดื่มลดลงเรื่อย ๆ มีน้อยมาก ปัจจุบันกำลังขอยกเลิกใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีผู้บริโภคลดลงจนไม่คุ้มค่ากับภาษีที่ต้องจ่าย และได้ติดป้าย "ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์" ไว้ที่หน้าร้านเรียบร้อยแล้ว
พ่อหลวงบ้านป่าดำกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชนลดลง คือ การตระหนักถึงปัญหาเรื่องสุขภาพ เนื่องจากชุมชนได้เห็นถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ฯลฯ ทางชุมชนจึงจัดตั้ง "ชมรมคนหัวใจเพชร" เลิกเหล้าได้เกิน 3 ปี เพื่อเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้เรื่องผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงด้านอื่น ๆ ให้กับคนในชุมชน
"ครัวชุมชนคนสามวัย": เชื่อมโยงคนทุกช่วงวัยสู่ความมั่นคงทางอาหาร
นอกจากให้ความรู้เรื่องผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน และจากแนวคิด "พื้นที่ว่างสร้างอาหาร" พ่อหลวงและชุมชนบ้านป่าดำ ยังได้พัฒนา "โครงการครัวชุมชนคนสามวัยใส่ใจสุขภาพ" โดยนำพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในชุมชนมาใช้ให้เกิดแหล่งประโยชน์ ด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้คนในชุมชนได้บริโภคผักปลอดสารพิษ/ผักอินทรีย์ มีสุขภาพดี และเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ ทั้งยังเป็นจุดนัดพบรวมพลังของคน 3 ช่วงวัย ได้แก่ วัยเด็ก มีบทบาทในการเรียนรู้และช่วยเหลือผู้ปกครองในการทำเกษตรอินทรีย์ วัยทำงาน เป็นแรงหลักในการบริหารจัดการและส่งเสริมการเกษตรปลอดสารพิษ/เกษตรอินทรีย์ และ ผู้สูงอายุ ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทำปุ๋ยหมัก การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน และการปรุงอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่น
ทั้งยังสร้างแกนนำคนรุ่นใหม่ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของชุมชนบ้านป่าดำให้คงอยู่ โดยการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ลูกหลานของคนในชุมชนได้ เข้ามาเรียนรู้ เพื่อสืบทอดความรู้ จากคนรุ่นเก่า ที่กำลังจะสูญหายไป โดยการปรับเปลี่ยนทัศนะคติ แนวคิดและพฤติกรรม จากการทำการเกษตรแบบเคมี ค่อยๆปรับวิธีการคิด สู่การทำการเกษตรปลอดภัยจากสารพิษ การใช้สารชีวภาพ ทดแทนการใช้สารเคมี สามารถทาได้จริง ในแปลงปลูกของครัวชุมชนจากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ฝึกปฏิบัติผ่านกระบวนการรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ร่วมกันสร้าง ความรัก ความผูกพัน เกิดความเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้ปฏิบัติและทดลองทำ ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของทุกภาคส่วนในชุมชน ทำให้เกิดพลังความสามัคคี ของคนทั้ง 3 วัย เกิดความภาคภูมิใจ และมองเห็นคุณค่าของเด็กและเยาวชน ในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง
โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการส่งเสริมการลดละเลิกแอลกอฮอล์ แต่ยังเป็นการฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยชุมชนได้จัดทำ "ปฏิทินอาหารตามฤดูกาล" ที่แสดงถึงอาหารพื้นบ้านที่หาได้ในแต่ละช่วงปี เช่น ผักหวานป่า เห็ดเผาะ และแมลงกินได้ รวมถึง ปฏิทินประเพณีวัฒนธรรม การอนุรักษ์ประเพณีสำคัญ เช่น ประเพณีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และพิธีเลี้ยงผีขุนน้ำ เป็นต้น
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ : "ลดเหล้า เพิ่มสุข"
- อัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง: ร้านค้าในชุมชนสมัครใจเข้าร่วม "ร้านคุณธรรม" ที่ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี
- คุณภาพชีวิตดีขึ้น: เมื่อการบริโภคเหล้าลดลง ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้นและปัญหาสุขภาพลดลง
- เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง: ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น ยาดมสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหย
แนวทางการในอนาคต ชุมชนบ้านป่าดำมีแผนที่จะขยายผลโครงการโดยร่วมมือกับโรงเรียนในพื้นที่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้แนวคิด "ลดเหล้า เพิ่มสุข" ตั้งแต่ยังเล็ก รวมถึงพัฒนาโครงการนวัตกรรมทางสังคม เช่น "ธนาคารเวลา" ที่ให้คะแนนสะสมสำหรับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสามารถนำไปแลกสิ่งของจำเป็นได้
การเปลี่ยนแปลงของบ้านป่าดำเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า "การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน" ต้องอาศัยพลังของทุกคนในชุมชน และเริ่มต้นจากผู้นำที่เข้มแข็ง เป็นแบบอย่าง และมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับคนรุ่นหลัง