
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงการสนับสนุนและให้การช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุคานทางยกระดับถนนพระรามที่ 2 ทรุดตัว ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 68 เวลา 01.48 น. โดยศูนย์วิทยุพระรามได้รับแจ้งเหตุจากประชาชนผ่านสายด่วน 199 ว่ามีโครงสร้างก่อสร้างทางยกระดับถล่มบริเวณหน้าด่านเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง ใกล้เคียงซอยพระรามที่ 2 ซอย 25 เขตจอมทอง หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย 47 นาย พร้อมด้วยรถยนต์ปฏิบัติการกู้ภัยและช่วยชีวิตจากอาคารถล่ม รถดับเพลิง และรถยนต์อำนวยการรวม 18 คัน เร่งรุดไปยังจุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 ซึ่งเป็นการก่อสร้างทางพิเศษแบบ 2 ชั้น (Double Deck) ขนาด 6 ช่องจราจร คร่อมไปกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร ระยะทาง 5.004 กิโลเมตร ตั้งแต่เชิงลาดสะพานพระราม 9 ถึงทางแยกต่างระดับดาวคะนอง โดยมีการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นเจ้าของโครงการ ก่อสร้างโดยกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี ประกอบด้วยบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ขณะเกิดเหตุคนงานกำลังเทคอนกรีตคานทางยกระดับชั้นที่ 2 คร่อมไปกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วงสะพานพระราม 9 ถึงทางแยกต่างระดับดาวคะนอง แต่โครงสร้างคอนกรีตได้ทรุดตัวและพังถล่มลงมาทับคนงานในระหว่างปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยของ สปภ. ร่วมกับมูลนิธิและอาสาสมัครบูรณาการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยสามารถเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ทั้งหมด 27 ราย และพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 5 ราย ปลอดภัย 3 คน รวมทั้งหมด 35 คน ส่วนสาเหตุและค่าเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยสภาวิศวกร ร่วมกับ กทพ. สถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางมด และผู้ดำเนินโครงการ การปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือเสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.
นายณัฐพงษ์ มีโภคกิจ ผู้อำนวยการเขตจอมทอง กทม. กล่าวว่า เมื่อได้รับแจ้งเหตุสำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที โดยประชุมร่วมกับหลายหน่วยงาน ได้แก่ สปภ. กทพ. ผู้ดำเนินโครงการ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน EMS หน่วย USAR หน่วย K9 สถานีตำรวจนครบาลบางมด ตำรวจทางด่วน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และมูลนิธิปอเต็กตึ้ง โดยร่วมสรุปเหตุการณ์ จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมทั้งวิธีการค้นหาและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ตามความจำเป็น พร้อมประสานรถสุขาเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังได้ประสานความร่วมมือกับผู้ดำเนินโครงการเร่งคืนสภาพพื้นที่ฝั่งหน้าด่านเก็บเงินขาเข้า รวมถึงซ่อมแซมชิ้นส่วนสะพานฝั่งขาออกให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อคืนพื้นที่การจราจรให้ประชาชนใช้งานอย่างปลอดภัย โดยได้รับแจ้งจะปิดการจราจรเพื่อจัดการพื้นที่หน้าด่านเก็บเงินฝั่งขาเข้าให้แล้วเสร็จภายใน 3-7 วัน ส่วนฝั่งขาออกคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ดำเนินโครงการจัดทำมาตรการความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน