
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ 'S' บริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน ได้รับการอนุมัติสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) เป็นครั้งแรกจากธนาคารกรุงไทย ด้วยวงเงิน 1,900 ล้านบาทโดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อนำไปลงทุนในอาคารสำนักงาน S-OASIS ที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสำเร็จนี้เน้นย้ำถึงพันธกิจของสิงห์ เอสเตท ในการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อสร้างคุณค่าและผลประโยชน์แก่ธุรกิจ ผู้เช่า และชุมชนโดยรอบ
อาคารสำนักงาน S-OASIS เป็นอาคารที่ออกแบบภายใต้แนวคิดอาคารอัจฉริยะโดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการออกแบบควบคู่กับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การันตีด้วยมาตรฐาน LEED Gold โดยสินเชื่อสีเขียวครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงการมุ่งเน้นการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรและความยั่งยืนของสิงห์ เอสเตท สู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 และมีแผนที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050
คุณชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการเงินกู้สีเขียวครั้งนี้ โดยเธอเน้นย้ำ "บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างสมดุลภายใต้วิสัยทัศน์ "Entrusted and Value Enricher" ที่มุ่งสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมควบคู่กับธุรกิจ ผ่านโครงการเพื่อความยั่งยืนหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น โครงการ 'ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว' ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย ปลูกต้นไม้แล้ว 6,200 ต้น หรือ 20%, ธุรกิจโรงแรมและอาคารสำนักงานใช้พลังงานสีเขียวด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในไทยและมัลดีฟส์, การลงนาม MOU กับรัฐบาลมัลดีฟส์เพื่อสนับสนุนพื้นที่อนุรักษ์ CROSSROADS Maldives ภายใต้โครงการ OECMs ครอบคลุมพื้นที่ 1.75 ล้านตารางเมตร หรือ 17.05%, โครงการ SOS ปล่อยฉลามกบลงสู่ทะเลอันดามัน และจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลที่โรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจและ CROSSROADS Maldives เพื่อส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเล นอกจากนี้ยังร่วมกับธนาคารกรุงไทยในสัญญาข้อตกลงอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต และปัจจุบันได้ต่อยอดเป็นเงินกู้สีเขียว เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่มเติมในอาคาร S-OASIS เพื่อพัฒนาอาคาร S-OASIS ที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของอาคารให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (Green Process Policy) โดยเน้นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน"
โดยแผนการดำเนินงานที่ สิงห์ เอสเตท วางไว้จะมุ่งเน้นการลงทุนในอาคาร S-OASIS ในหลายด้าน อาทิ
สิงห์ เอสเตท มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชน การอนุมัติเงินกู้สีเขียวจากธนาคารกรุงไทยเพื่อพัฒนาอาคารสำนักงาน S-OASIS เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอาคารให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีที่เน้นการอนุรักษ์พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบรับเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emission ของสิงห์ เอสเตท ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการลงทุนตามกรอบ ESG ที่สิงห์ เอสเตทให้ความสำคัญ โดยการสร้างอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่เพียงเพิ่มคุณค่าให้โครงการ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เช่ามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าที่ใส่ใจความยั่งยืน
นายสุรธันว์ คงทน ประธานผู้บริหาร Wholesale Banking ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมนำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) มาปรับใช้ ทั้งในมิติการเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ และการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ล่าสุด ธนาคารมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรที่ดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักความยั่งยืน ผ่านการเป็นธนาคารที่ได้สนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) ให้แก่สิงห์ เอสเตทในครั้งนี้ โดยธนาคารได้กำหนดตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน (Key Performance Indicator) ภายใต้แนวทางการสนับสนุนสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending Guideline) เพื่อให้สิงห์ เอสเตท ใช้สำหรับการพัฒนาอาคารสำนักงาน S-OASIS ตามแผนการดำเนินงานสู่การเป็นอาคารเทคโนโลยีอัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างคุณค่าแก่ธุรกิจ ผู้เช่าอาคาร ชุมชน และสังคมโดยรอบ โดยธนาคารเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของสิงห์ เอสเตท ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ และมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
ความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นพันธกิจด้าน ESG ของทั้ง 2 องค์กร ในการร่วมผลักดันเป้าหมาย การดำเนินงานด้านความยั่งยืน ตอกย้ำการดำเนินงานของธนาคารที่ขับเคลื่อนสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ตอบโจทย์เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของประเทศ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของประเทศ ตามวิสัยทัศน์ "กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน" ทั้งนี้ ธนาคารเดินหน้าสู่การเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและให้ความสำคัญกับหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) ตอกย้ำสู่การเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ข้อ 13 เรื่องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ