ธนาคารกรุงเทพโชว์ผลงานเกินต้าน คว้า 7 รางวัลยอดเยี่ยมด้านตราสารหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 20, 2025 14:57 —ThaiPR.net

ธนาคารกรุงเทพโชว์ผลงานเกินต้าน คว้า 7 รางวัลยอดเยี่ยมด้านตราสารหนี้

ธนาคารกรุงเทพโชว์ผลงานเกินต้าน คว้า 7 รางวัลยอดเยี่ยมด้านตราสารหนี้
กวาด Best Bond House-Top Underwriter แถม 3 รางวัลบอนด์สิ่งแวดล้อม-ความยั่งยืน
ย้ำบทบาท 'เพื่อนคู่คิด' พร้อมเสิร์ฟโซลูชันทางการเงินตอบโจทย์นักลงทุน

ธนาคารกรุงเทพ โชว์ฟอร์มเทพ คว้า 7 รางวัลยอดเยี่ยมด้านตราสารหนี้ จากสมาคมตราสารหนี้ไทย นำโดยรางวัลใหญ่ Best Bond House และ Top Underwriter พ่วงด้วย 3 รางวัลโดดเด่นด้านตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืน ชี้เทรนด์ตลาดปี 2568 สนใจหุ้นกู้อายุระยะสั้นกว่าปีที่ผ่านมา เลี่ยงอุตสาหกรรมเสี่ยง พร้อมเดินหน้าการเป็น Sustainability Bond House ย้ำบทบาท 'เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน' เคียงข้างทุกเรื่องการเงินและลงทุน

นายประเสริฐ ดีจงกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการฝ่ายทุนธนกิจ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้รับรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยม จากงานมอบรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 (ThaiBMA Best Bond Awards 2024) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA Awards) โดยปีนี้ธนาคารได้รับทั้งสิ้น 7 รางวัล ประกอบด้วย

1.รางวัล Best Bond House รางวัลยอดเยี่ยมสำหรับสถาบันการเงินที่มีความเป็นเลิศในการทำธุรกรรมตราสารหนี้ทั้งในตลาดแรกและตลาดรองตลอดจนมีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้

2.รางวัล Top Underwriter รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้ ที่มีมูลค่ารวมของการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวสูงที่สุด

3.รางวัล Best Primary Market Contributor รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันการเงินผู้ค้าตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนการได้รับจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลสูงสุดในตลาดแรกผ่านการเข้าร่วมประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่ออกโดยกระทรวงการคลังในปี งบประมาณ 2567

4.รางวัล Best Secondary Market Contributor รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันการเงินผู้ค้าตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนการได้รับจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลสูงสุดในตลาดรอง โดยคิดจากมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่ออกโดยกระทรวงการคลังใน ปีงบประมาณ 2567

5.รางวัล Most Innovative Deal รางวัลที่มอบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้และผู้จัดจำหน่าย ที่ส่งเสริมความยั่งยืนและมีความโดดเด่นในการระดมทุนอย่างสร้างสรรค์สามารถเป็นต้นแบบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้รายอื่น ได้แก่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 1 และ ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 2

6.รางวัล Government Sector ESG Bond of the Year รางวัลที่มอบให้แก่ตราสารหนี้ภาครัฐและผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืนของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1

7.รางวัล Deal of the Year รางวัลที่มอบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้และผู้จัดจำหน่าย ในธุรกิจตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีความโดดเด่นที่สุดในทุกๆด้าน ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 1 - ชุดที่ 5

"การได้รับรางวัลดังกล่าวในครั้งนี้ถือว่าเป็นเกียรติและยิ่งใหญ่มากเพราะได้รับถึง 7 รางวัล โดยเฉพาะปีนี้ได้รับรางวัล Best Bond House ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดที่ประเมินผลจากความเป็นเลิศในหลากหลายมิติ ทั้งการทำธุรกรรมตราสารหนี้ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง รวมถึงการมีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และรางวัล Top Underwriter ที่มีมูลค่ารวมการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เอกชนระยะยาวสูงที่สุดในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของทั้งผู้ออกตราสารหนี้ และผู้ลงทุนที่มีต่อธนาคารในฐานะ "ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค" ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านธุรกิจการเงิน รวมถึงมีความความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างชัดเจน"

นอกจากนี้ ในจำนวนรางวัลดังกล่าวยังมีถึง 3 รางวัลที่มาจากผลงานความโดดเด่นด้านการออกตราสารหนี้เพื่อระดมทุนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืน โดยหนึ่งในนั้นคือรางวัล Government Sector ESG Bond of the Year ที่ธนาคารได้รับจากการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืนของกระทรวงการคลัง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนชุดใหม่ที่จะออกเสนอขายในปี 2568 คาดว่าจะมีการออกเสนอขายใหม่มูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะมีแนวโน้มอายุเฉลี่ยสั้นลง และส่วนใหญ่จะเป็นการออกตราสารหนี้เพื่อรีไฟแนนซ์ชุดเดิมหรือชำระคืนเงินกู้ มากกว่าจะนำไปลงทุนในโครงการใหม่ๆ ตามสภาวะการลงทุนภาคเอกชนที่มีทิศทางชะลอตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมา

สำหรับทิศทางของผู้ลงทุน แม้จะมีแนวโน้มความต้องการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังค่อนข้างระมัดระวังการลงทุน โดยผู้ลงทุนสถาบัน มักจะลงทุนในตราสารหนี้เรตติ้ง A ขึ้นไป โดยหากเป็นกองทุนตราสารหนี้ จะสนใจลงทุนตราสารหนี้แบบ Zero Coupon Bond ที่อายุไม่เกิน 3 ปี ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า และมีสภาพคล่องในตลาดรองสูงกว่า ขณะที่ผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา จะนิยมตราสารหนี้อายุ 2-4 ปี ที่อันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป แต่ยังคงระมัดระวังการลงทุนในบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

"แม้นักลงทุนจะหันมาสนใจลงทุนในตราสารหนี้เพื่อกระจายความเสี่ยง แต่ก็เห็นชัดว่าเพิ่มความระมัดระวังในการคัดเลือกตราสารหนี้มากขึ้น ซึ่งทางธนาคารพยายามคัดสรรกลุ่มตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงที่เหมาะสม และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ลูกค้า โดยธนาคารยังคงนโยบายการเป็น Sustainability Bond House ที่เน้นจุดแข็ง 5 ด้าน คือ Trust สร้างความไว้วางใจทั้งกับผู้ออกตราสารหนี้และผู้ลงทุน Service พร้อมให้บริการมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง Market Development ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ พัฒนาตลาดตราสารหนี้ Product Development สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม โดยเฉพาะด้าน ESG และสุดท้าย People Development สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพคู่คุณธรรม มีความเชี่ยวชาญที่จะคอยเป็น "เพื่อนคู่คิด" ให้คำปรึกษาเพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากที่สุด" นายประเสริฐกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ