
สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) ตอกย้ำบทบาทประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางงานแสดงสินค้านานาชาติ ประกาศความพร้อมจัดงาน Thailand MICE X-Change 2025 (TMX25) ภายใต้ธีม "NEXHIBITION - ก้าวใหม่ที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้า" โดยเน้นนวัตกรรม ความยั่งยืน และการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจงานแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าทั่ววงการ ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค มาร่วมกันสร้างสรรค์โอกาสใหม่ๆ ขยายเครือข่ายธุรกิจ และยกระดับมาตรฐานการจัดงานแสดงสินค้าไทยให้แข็งแกร่งมากขึ้น ระหว่างวันที่ 2 - 3 เมษายน ณ พารากอนฮอลล์
คุณปนิษฐา บุรี นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และประธานการจัดงาน Thailand MICE X-Change 2025 กล่าวว่า สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) ได้จัดงาน Thailand MICE X-Change 2025 (TMX25) เป็นปีที่ 2 โดยการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ ถือเป็นเวทีสำคัญในการรวบรวมผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าทั่ววงการ ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคมาร่วมกันสร้างสรรค์โอกาสใหม่ๆ ขยายเครือข่ายธุรกิจและยกระดับมาตรฐานการจัดงานแสดงสินค้าให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมการออกงานแสดงสินค้า (Exhibitor) จะสามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถต่อยอดสินค้า บริการ และธุรกิจของผู้เข้าร่วมการออกงานแสดงสินค้าให้ก้าวไกลไปสู่ระดับสากล
โดยปีนี้ได้เตรียมกิจกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจงานแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการกว่า 150 ราย ทั้งสถานที่จัดงานชั้นนำ Top 5 จากประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมถึงบริษัทออแกไนเซอร์ทั้งระดับประเทศและระดับโลก ที่จะร่วมเปิดมุมมองสู่มาตรฐานและเทรนด์งานแสดงสินค้าใหม่ ผู้ให้บริการออกแบบและก่อสร้างบูธ ที่มีมาตรฐานระดับสากล ซัพพลายเออร์เทคโนโลยีและวัสดุยั่งยืน ที่เน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์การก่อสร้างในเงื่อนไขที่จำกัด ในงบประมาณที่ควบคุมได้ รวมถึงเทคโนโลยีที่รวมสุดยอดนวัตกรรมสำหรับ Smart Exhibition เช่น AI, IoT, ระบบลงทะเบียนออนไลน์ และการจัดการข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีเวทีสัมมนาในงานจะเป็นเวทีเดียวที่มีเนื้อหาจัดเต็มสำหรับธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกลยุทธ์สำหรับผู้เข้าร่วมแสดง โดยปีนี้ได้รวบรวมวิทยากรชั้นนำกว่า 28 ท่าน บน 2 เวทีพร้อมกัน ทั้ง Main Stage และ X-change Square เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ที่ตกแต่งด้วยวัสดุที่ยั่งยืน
ในช่วงท้ายของงานแถลงข่าวมีเวทีเสวนาเปิดมุมมอง "NEXHIBITION เปลี่ยนเกม! เดินหน้าเศรษฐกิจไทย" โดยวิทยากร 3 ท่านที่เชี่ยวชาญในด้านการจัดแสดงสินค้า
คุณปนิษฐา บุรี นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) ประธานการจัดงานฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และได้รับการยอมรับในฐานะศูนย์กลางของงานแสดงสินค้านานาชาติ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยสำหรับอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จัดงานมาตรฐานที่เหนือกว่ามาตรฐานสากล บริษัทผู้บริหารการจัดงาน (Professional Exhibition Organiser) ที่หลากหลาย ซึ่งพร้อมเป็นผู้รับบริหารจัดงานให้กับงานแสดงสินค้านานาชาติที่หมุนเวียนเข้ามาจัดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ด้านบุคลากรงานแสดงสินค้าซึ่งเป็นหนึ่งในสาขาของ MICE ก็ได้รับการบ่มเพาะและพัฒนาให้กลายเป็นหนึ่งในจุดแข่งของอุตสาหกรรมเพื่อการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ปัจจุบันประเทศไทยเรามีงาน Trade Exhibitions เฉลี่ยกว่า 200 งานตลอดทั้งปี ที่จัดเก็บข้อมูลโดยสมาคมการแสดงสินค้าไทย เมื่อนับรวมกันทั้งหมดเรามีงานแสดงถึงกว่า 19 ล้านตารางเมตร ซึ่งนับว่ามีขนาดอยู่ในลำดับต้นๆ ของอาเซียน ผู้ร่วมงานต่างชาติกว่า 350,000 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่ประเทศกว่า 3 แสนล้านบาท และคาดว่าในปีนี้งานแสดงสินค้าจะเติบโตราว 6-8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่เติบโตจากตลาดการจัดงาน Trade Exhibition ในบาง sectors
โดยเทรนด์ของการจัดงานแสดงสินค้าจะครอบคลุมในประเด็นแรก คือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้มากขึ้น เช่น Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) Big Data, AI เป็นต้น เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เข้าร่วมและช่วยให้ผู้แสดงสินค้าสามารถนำเสนอสินค้าในรูปแบบที่น่าสนใจตอบรับกับโจทย์ของการจัดงานมากขึ้น และประเด็นที่สอง คือ การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการสร้างบูธเพื่อสร้างความยั่งยืน ตามแนวทางของลูกค้ายุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น
ดร.ดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการ ฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ในปีนี้ ทีเส็บได้ขยับกลยุทธ์เปิดเกมรุกใหม่ในเวทีงานแสดงสินค้าด้วยเป้าหมายเพื่อรักษาตำแหน่งเจ้าตลาดของอาเซียนและเสริมความแข็งแกร่งให้ไทยยังคงเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้จัดงานจากทั่วโลก
"เป้าหมายของทีเส็บ ไม่ใช่เพียงสนับสนุนให้มีการจัดงาน แต่เราวางกลยุทธ์ใหม่ คือ ไม่ใช่แค่การดึงงานจากต่างประเทศเข้ามาจัดในไทย แต่ปลุกองค์กรธุรกิจไทยให้ตื่นตัวใช้ 'งานแสดงสินค้า' เป็น เครื่องมือการตลาดเป็นการสร้างดีมานต์ให้กับซัพพลาย ชิงลงมือก่อนคู่แข่งในภูมิภาค"
นอกจากนี้ ทีเส็บ ได้เดินหน้ากลยุทธ์ "บริการภิวัฒน์" (Servitization) เพื่อยกระดับบริการจากการรองรับการจัดงาน ไปสู่การเพิ่มมูลค่าและต่อยอดทางเศรษฐกิจ อย่างเป็นรูปธรรมโดยวัดได้จาก Return of Investment พร้อมกันนี้ ทีเส็บ ยังผลักดันแนวคิด "Spend more and See you again" ซึ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมงานใช้เวลาในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งด้านธุรกิจและ leisure เพื่อขยายผลกระทบทางเศรษฐกิจ พร้อมกระตุ้นให้เกิดการกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะในฐานะนักท่องเที่ยวพร้อมครอบครัวหรือองค์กรที่เลือกไทยเป็นที่จัดประชุมประจำปี (Annual Meeting)
"ทุกครั้งที่นักธุรกิจกลับมา ไม่ใช่แค่รายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่คือความสัมพันธ์ที่ลึกขึ้นและโอกาสทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง นี่คือโอกาสที่จะได้เห็นว่า "งานแสดงสินค้า" ไม่ใช่แค่เวทีโชว์ของแต่คือเครื่องมือการตลาดยุคใหม่ที่จะช่วยต่อยอดเป้าหมายธุรกิจของคุณให้ไปได้ไกลกว่าเดิม"
คุณชญานิศ ธัญญวัฒนกุล ประธานคณะ BUSINESS NETWORK YEC Thailand กล่าวว่า งานแสดงสินค้าเป็นหนึ่งใน Marketing Tools ของการทำการตลาด ดังนั้น การมีโอกาสได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่มีมาตรฐานสากลนับเป็นโอกาสที่ดีในการได้เปิดสินค้าในระดับโลก แต่จะทำอย่างไรให้การออกงานประสบความสำเร็จ การเก็บข้อมูล Database เพื่อนำมาวิเคราะห์ ติดตามและประเมินผล จึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งคำตอบเหล่านี้สามารถหาได้ในงาน TMX25
งาน TMX 25 ไม่ใช่แค่เวทีโชว์ของ แต่เป็นเครื่องมือการตลาดยุคใหม่ที่จะช่วยต่อยอดเป้าหมายธุรกิจให้ไปได้ไกลกว่าเดิมและมุ่งสู่เป้าหมายได้ตรงจุด โดยงาน TMX 25 นี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 3 เมษายน นี้ ณ พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 19.00 น.