
ปอร์เช่ ประเทศไทย เตรียมยกระดับมาตรฐานใหม่แห่งประสบการณ์งานแสดงยนตรกรรม ในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ด้วยบูธจัดแสดงสุดล้ำสมัย ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง พร้อมเปิดตัว Porsche 911 GTS รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้น
ปอร์เช่ ประเทศไทย ยกระดับประสบการณ์เหนือระดับภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ด้วยการนำ Curvistan Bangkok พื้นที่ไลฟ์สไตล์มัลติฟังก์ชันชื่อดังจากย่านทองหล่อ มาจัดแสดงภายในบูธอย่างเต็มรูปแบบ ถ่ายทอดบรรยากาศของปอร์เช่ คอมมูนิตี้ที่เปี่ยมด้วยความหรูหราและรสนิยม พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่เสมือนห้องนั่งเล่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่อบอวลด้วยเสน่ห์ของยนตรกรรมระดับตำนาน เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสสมรรถนะ ความประณีต และมรดกแห่งแบรนด์ปอร์เช่อย่างใกล้ชิดในบรรยากาศอันเป็นกันเอง
นอกจาก 911 GTS แล้ว บูธปอร์เช่ยังนำเสนอไลน์อัปรถยนต์รุ่นเด่นอีกหลากหลายรุ่น ภายใต้บรรยากาศไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ อาทิ ปอร์เช่ ไทคานน์ 4 ครอส ทัวริสโม่ (Taycan 4 Cross Turismo) ที่ติดตั้งแร็คจักรยาน (Bicycle Rack) สะท้อนภาพลักษณ์ของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่ผสานประโยชน์ใช้สอยเข้ากับสมรรถนะอันเร้าใจอย่างลงตัว
ขณะที่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupe) รุ่นประกอบในภูมิภาค ก็มาพร้อมชุดเต็นท์หลังคา (Porsche Roof Tent) ที่สะท้อนถึงความอเนกประสงค์สำหรับไลฟ์สไตล์สายผจญภัยอย่างเต็มรูปแบบ
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ 718 เคย์แมน สไตล์ อิดิชั่น (718 Cayman Style Edition) ที่มาพร้อมดีไซน์สะดุดตา, พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ที่ผสานความหรูหราเข้ากับพลังขับเคลื่อนไฮบริด และ มาคันน์ (Macan) ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่โดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะและความสะดวกสบายในการใช้งานจริง
ทุกรุ่นล้วนสะท้อนปรัชญาการออกแบบของปอร์เช่ ที่ผสานมรดกแห่งยนตรกรรม ความล้ำสมัยด้านเทคโนโลยี และความหรูหราสไตล์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว
นายไมเคิล เวตเตอร์ (Michael Vetter) กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า "เป้าหมายของเราคือการยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าชมงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ผ่านความร่วมมือกับ Curvistan Bangkok พื้นที่ไลฟ์สไตล์มัลติฟังก์ชันชื่อดังจากย่านทองหล่อ ที่เข้ามาเติมเต็มบรรยากาศของ Porsche Community ภายในบูธให้มีความอบอุ่นและเป็นกันเอง เราต้องการเชิญชวนแขกผู้เข้าชมให้ได้สัมผัสกับแบรนด์ปอร์เช่ในมุมมองที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เสมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นที่สามารถแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความประทับใจกับเพื่อน ๆ ได้อย่างสบายใจ ในขณะเดียวกัน 911 GTS ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid ก็ได้กลับขึ้นสู่จุดสูงสุดของกลุ่มรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอีกครั้ง ด้วยการยกระดับสมรรถนะผ่านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่เป็นหัวใจของ 911 ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การควบคุมที่เฉียบคม และอารมณ์ความรู้สึกที่ได้รับจากการขับขี่อย่างแท้จริง เรารอคอยที่จะได้ต้อนรับแฟน ๆ ปอร์เช่ทุกคนในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้"
911 GTS ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid เพื่อสมรรถนะที่เหนือชั้น
ปอร์เช่ เผยโฉม 911 GTS ใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid เป็นครั้งแรก เพื่อยกระดับสมรรถนะสู่มาตรฐานใหม่ โดยนับเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญของตระกูล 911 อันเป็นเอกลักษณ์ กับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริดสำหรับการใช้งานบนท้องถนนเป็นครั้งแรกในรุ่น 911 Carrera GTS ระบบไฮบริดสมรรถนะสูงใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ต ช่วยเพิ่มทั้งพละกำลังและประสิทธิภาพการขับขี่อย่างมีนัยสำคัญ โดยยังสามารถควบคุมน้ำหนักตัวรถให้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ยังคงไว้ซึ่งบาลานซ์และความคล่องตัวตามแบบฉบับของ 911 ได้อย่างลงตัว
911 GTS ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาด 3.6 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาใหม่อย่างเต็มรูปแบบ โดยผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว เทอร์โบชาร์จเจอร์ และแบตเตอรี่แรงดันสูงขนาดกะทัดรัด เพื่อมอบสมรรถนะระดับสูงควบคู่กับการควบคุมน้ำหนักที่แม่นยำ มอเตอร์ไฟฟ้าตัวแรกถูกติดตั้งภายในเทอร์โบชาร์จเจอร์ ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) และยังช่วยให้เทอร์โบตอบสนองได้อย่างฉับไว ลดอาการรอรอบ (turbo lag) เพื่อการเร่งที่ลื่นไหลในทุกช่วงความเร็ว
มอเตอร์ไฟฟ้าอีกตัวถูกติดตั้งอยู่ในระบบเกียร์อัตโนมัติ Porsche Doppelkupplung (PDK) 8 จังหวะ ทำหน้าที่ช่วยเสริมแรงบิดของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ได้สูงสุดถึง 300 นิวตันเมตร และเพิ่มกำลังขับเคลื่อนอีก 40 กิโลวัตต์ ส่งผลให้การตอบสนองของรถแม่นยำและเร้าใจยิ่งขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองตัวทำงานร่วมกับแบตเตอรี่แรงดันสูงขนาด 1.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักรวมของตัวรถให้คงไว้ซึ่งความสมดุลอันเป็นเอกลักษณ์ของ 911
นอกจากนี้ ปอร์เช่ยังได้ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็กสำหรับระบบไฟฟ้าขนาด 12 โวลต์ แทนที่แบตเตอรี่ทั่วไป เพื่อลดน้ำหนักโดยรวมและเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายกำลังไฟฟ้าภายในระบบของรถอย่างเหมาะสมที่สุด ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับยนตรกรรมสำหรับการใช้งานจริงได้อย่างลงตัว
แม้ในขณะที่ไม่มีการช่วยเสริมจากระบบไฟฟ้า เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาด 3.6 ลิตรของ 911 GTS ใหม่ ยังคงให้พละกำลังสูงถึง 357 กิโลวัตต์ (485 แรงม้า) และแรงบิด 570 นิวตันเมตร อย่างไรก็ตาม เมื่อทำงานร่วมกับระบบ T-Hybrid สมรรถนะโดยรวมของรถจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยพละกำลังรวมสูงสุด 398 กิโลวัตต์ (541 แรงม้า) และแรงบิด 610 นิวตันเมตร ส่งผลให้รถสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 312 กม./ชม.
นอกเหนือจากการยกระดับด้านขุมพลัง ปอร์เช่ยังได้ปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์และระบบช่วงล่างของ 911 GTS ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม โดยมาพร้อมระบบกันสะเทือน Porsche Active Suspension Management (PASM) ที่ปรับระดับความสูงของตัวรถให้ต่ำลง 10 มิลลิเมตร เสริมด้วยระบบเลี้ยวล้อหลัง (Rear-Axle Steering) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น GTS ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในความเร็วสูงและความคล่องตัวในความเร็วต่ำ ขณะเดียวกัน ระบบควบคุมช่วงล่าง Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ยังได้รับการผสานเข้ากับระบบไฮบริดโดยตรง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้งและการทรงตัวในทุกสภาพถนน
ด้านดีไซน์และสมรรถนะทางอากาศ 911 GTS ใหม่ติดตั้งช่องระบายอากาศแบบแอคทีฟ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าที่สามารถปรับการไหลเวียนของอากาศโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มแรงกดและลดแรงต้าน ช่วยเสริมประสิทธิภาพและการยึดเกาะถนนในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ปิดท้ายด้วยชุดแอโรไดนามิกเสริม และล้อดีไซน์ใหม่ ที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มความโดดเด่นด้านรูปลักษณ์ แต่ยังยกระดับการตอบสนองและเสถียรภาพของรถในทุกสภาวะการขับขี่อย่างแท้จริง
ภายนอกของปอร์เช่ 911 GTS ใหม่ ได้รับการปรับดีไซน์ให้ทันสมัยและทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยชุดไฟหน้าแบบ Matrix LED ดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าที่ได้รับการออกแบบให้มีมิติและความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น พร้อมส่วนท้ายที่เสริมเส้นสายให้ดูแข็งแกร่ง แถบไฟท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมโลโก้ 'PORSCHE' แบบฝังในตัว สะท้อนความประณีตในทุกรายละเอียด และช่วยเพิ่มความรู้สึกของความกว้างและความดุดันให้กับตัวรถ สำหรับรุ่น คาเรร่า จีทีเอส (Carrera GTS) ยังมาพร้อมระบบไอเสียสปอร์ตแบบเฉพาะตัวที่ออกแบบมาเพื่อมอบเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสาร ปอร์เช่ได้พลิกโฉมการออกแบบภายในของ 911 GTS ใหม่สู่ระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยเปลี่ยนจากการใช้กุญแจแบบหมุนสตาร์ทมาเป็นปุ่มกด พร้อมติดตั้งแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.6 นิ้ว ซึ่งสามารถปรับแต่งการแสดงผลได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ระบบ Porsche Communication Management (PCM) ได้รับการอัปเกรดให้รองรับการใช้งาน Apple CarPlay(R) อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเข้าถึงและควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถผ่านอุปกรณ์ Apple ได้โดยตรง นอกจากนี้ ยังเสริมความสะดวกสบายด้วยช่องชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ระบบช่วยขับขี่ที่พัฒนาให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และฟีเจอร์การสตรีมวิดีโอเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางในทุกมิติ"
911 GTS T-Hybrid ใหม่ เปิดให้สั่งจองอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย โดยมีให้เลือกครบทั้งตัวถังแบบคูเป้ (Coupe), คาบริโอเลต (Cabriolet) และทาร์กา (Targa) พร้อมระบบขับเคลื่อนทั้งแบบล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ ทุกรุ่นมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ Porsche Doppelkupplung (PDK) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับรุ่น 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ราคาเริ่มต้นที่ 17.4 ล้านบาท
ปอร์เช่ ประเทศไทย ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับภายในบูธปอร์เช่ หมายเลข A15 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 โดยภายในบูธได้รวบรวมยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริดประสิทธิภาพสูง และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมมอบประสบการณ์ที่ทั้งเร้าใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่หลงใหลในการขับขี่อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมยังจะได้พบกับข้อเสนอและแคมเปญสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ปอร์เช่หลากหลายรุ่นภายในงาน ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ใกล้ชิดกับยนตรกรรมระดับตำนาน พร้อมสัมผัสจิตวิญญาณแห่งการขับขี่ที่ปอร์เช่นำเสนอได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่าพลาดโอกาสพิเศษนี้! งานจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 เมษายน 2568