กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--บล.บัวหลวง
บล.บัวหลวง ไม่หวั่นสภาพตลาดหุ้นขึ้นลง เผยรายได้รวมไตรมาส 3 ประมาณ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีนี้ ประกาศแต่งตั้งจิรายุทธ รุ่งศรีทอง นั่งแท่นกรรมการผู้จัดการ คุมสายงานวาณิชธนกิจ มั่นใจช่วยเสริมศักยภาพทีมไอบีรองรับลูกค้าแบงค์แม่ที่เพิ่มขึ้น เดินเครื่องตั้งเป้าลูกค้าไอพีโอปีหน้า 6-8 ราย แย้มแผนปี’49 พร้อมลุยธุรกิจนายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นทางมือถือและธุรกิจให้ยืมหลักทรัพย์
รร.ดุสิตธานี (18 ต.ค. 48) : นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ (Mr.Yarnsak Manomaiphiboon) กรรมการผู้อำนวยการ (President) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (บล.บัวหลวง) เปิดเผยผลการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ ว่า ในไตรมาส 3 ของปี 2548 บริษัทฯ มีรายรับรวม (Income) ในไตรมาส 3 ปี 2548 ประมาณ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2548 ขณะเดียวกันไม่มีรายจ่ายด้าน Broker Seat เนื่องจากได้สิ้นสุดลงตั้งแต่กลางไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในไตรมาส 3 มีส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับร้อยละ 3.32 และสัดส่วนลูกค้าสถาบันเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในส่วนของธุรกิจบริหารกองทุนส่วนบุคคลนั้น มูลค่ากองทุนภายใต้ การจัดการเท่ากับ 7,572 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนส่วนบุคคล 5,784 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับมูลค่ากองทุน ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2548
นายญาณศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง อดีตกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจ 1 บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการ รับผิดชอบสายงานวาณิชธนกิจ โดยมีทีมงานของฝ่ายวาณิชธนกิจภายใต้การดูแลทั้งสิ้น 17 คน
“การที่นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง ซึ่งเป็นผู้บริหารฝีมือดีท่านหนึ่งของวงการวาณิชธนกิจ ให้เกียรติมาร่วมงานกับบล.บัวหลวง เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับพวกเรา เพราะนายจิรายุทธ และทีมงานอีก 5 ท่าน จะมาช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับบริษัทฯ และสามารถให้บริการลูกค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นฐานลูกค้าของแบงค์กรุงเทพ และลูกค้ารายอื่น ๆ นอกจากนี้บุคลากรในสายงานวาณิชธนกิจของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นทำให้การจัดกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายขึ้นด้วย ” นายญาณศักดิ์ กล่าว
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กล่าวสั้น ๆ ว่า ในไตรมาส 3 บริษัทได้เป็นที่ปรึกษาในการซื้อหรือขายหุ้นให้กับบริษัท MINOR, AH และ ACL และกำลังอยู่ในระหว่างยื่นไฟล์ลิ่งไอพีโอ 2 บริษัท คือ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) และบริษัท ASCON Construction จำกัด (มหาชน) รวมถึงอยู่ระหว่างยื่นไฟล์ลิ่งเสนอขายหุ้นกู้ให้กับบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) สำหรับปี 2549 ฝ่ายวาณิชธนกิจตั้งเป้าลูกค้า IPO ประมาณ 6-8 บริษัท และงานที่ปรึกษาทางการเงินอื่น ๆ อีก 3-4 บริษัท
นายญาณศักดิ์ เผยว่า ในอนาคตบริษัทฯ มีนโยบายจะเปิดโอกาสให้ผู้บริหารแต่ละสายงาน สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการได้อีก โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสายงานธุรกิจหลัก ๆ อีก 3 สายงาน นอกเหนือสายงานวาณิชธนกิจ คือ สายงานค้าหลักทรัพย์ มีนายเผดิมภพ สงเคราะห์,รองกรรมการผู้จัดการเป็นหัวหน้าสายงาน สายงานค้าหลักทรัพย์สถาบันและงานวิจัย มีนายสุเมฆ จันทราสุริยารัตน์, ผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำนวยการ เป็นหัวหน้าสายงาน และสายงานบริหารกองทุนส่วนบุคคล มีนายวิวัฒน์ วิชิตบุญญเศรษฐ , ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ เป็นหัวหน้าสายงาน
นายญาณศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2549 ไว้คร่าว ๆ คือ เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็นร้อยละ 4% สำหรับธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ด้านธุรกิจบริหารกองทุนส่วนบุคคลตั้งเป้ามูลค่ากองทุนภายใต้การจัดการ ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ในส่วนอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมคือ ธุรกิจนายหน้าตราสารอนุพันธ์ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะดำเนินการได้ตามโครงการที่ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) กำหนด ซึ่งขึ้นอยู่กับตลาดอนุพันธ์ฯ จะทำการซื้อขายวันไหน บล.บัวหลวงพร้อมที่จะดำเนินการตามแผน สำหรับโครงการ Mobile Trading ผ่านเว็บไซต์ http:// mobile.bualuang.co.th ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการดูข้อมูลราคาหลักทรัพย์ และการซื้อขายหลักทรัพย์แบบเรียลไทม์ ก็คาดว่าจะสามารถให้บริการซื้อขายหุ้นผ่านมือถือภายในไตรมาส 2 ของปีหน้า รวมถึงธุรกิจให้ยืมหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ คาดว่าพร้อมจะดำเนินการในปีหน้าเช่นกัน
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณปิยวรรณ อนันต์เวทยานนท์
ที่ปรึกษางานประชาสัมพันธ์
0-1944-1972--จบ--