
ทุกวันนี้ คำว่า "ซึมเศร้า" "แพนิค" และ "วิตกกังวล" ถูกพูดถึงกันมากขึ้น แต่หลายคนยังแยกไม่ออกว่าตัวเอง หรือคนใกล้ชิด กำลังเผชิญกับอาการแบบไหนกันแน่ อาการทั้ง 3 แบบนี้ แม้จะมีความคล้ายคลึงในเรื่องความเครียดและภาวะอารมณ์ แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน และต้องการแนวทางการดูแลรักษาที่เหมาะสม
วันนี้โรงพยาบาลสุขภาพจิต BMHH ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับอาการทั้ง 3 ให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
สัญญาณสำคัญ:
- รู้สึกเศร้า เบื่อหน่าย สิ้นหวัง ต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์
- หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ
- นอนมากไป หรือนอนไม่หลับ
- เบื่ออาหาร หรือกินมากผิดปกติ
- รู้สึกผิด คิดว่าตัวเองไร้ค่า
- ไม่มีแรง ไม่อยากทำอะไร
- บางคนอาจมีความคิดอยากทำร้ายตัวเองหรืออยากจบชีวิต
แนวทางการรักษา:
- การพบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัย
- รักษาด้วยยาแก้ซึมเศร้าตามอาการ
- จิตบำบัด และการปรับมุมมองความคิด (CBT)
- การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (dTMS) หรือการรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT)
สัญญาณสำคัญ:
- มีอาการ "ตื่นตระหนกเฉียบพลัน" โดยไม่รู้สาเหตุ
- ใจสั่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มือเท้าชา หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
- รู้สึกเหมือนกำลังจะตายหรือกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้
- อาการมักเกิดขึ้นแบบฉับพลันและหายไปภายใน 10-30 นาที แต่ทิ้งความหวาดกลัวเอาไว้
แนวทางการรักษา:
- การปรึกษาจิตแพทย์เพื่อยืนยันอาการ
- การใช้ยาเพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง
- การฝึกควบคุมลมหายใจ และเทคนิคผ่อนคลาย
- การทำจิตบำบัด เพื่อช่วยลดความกลัวและความตื่นตระหนกที่สะสม
สัญญาณสำคัญ:
- กังวลมากเกินไปกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอดเวลา
- คิดวน คิดซ้ำ กลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
- มีอาการกระสับกระส่าย เหนื่อยง่าย ปวดกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ
- ยิ่งพยายามไม่คิด ยิ่งควบคุมไม่ได้ จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
แนวทางการรักษา:
- ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการ
- ใช้ยาเพื่อลดอาการวิตกกังวล
- การทำจิตบำบัดแบบ CBT เพื่อช่วยปรับความคิดและวิธีรับมือกับความกังวล
- ฝึกสมาธิ การหายใจ และการผ่อนคลาย
อย่าปล่อยให้อาการเล็ก ๆ สะสมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่
หลายคนอดทนกับอาการเหล่านี้โดยคิดว่า "เดี๋ยวก็หาย" หรือ "เราแค่คิดมากไปเอง" แต่จริง ๆ แล้ว ทุกความเครียด ความเศร้า ความกังวลที่ไม่ได้รับการดูแล อาจลุกลามและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้
โรงพยาบาลสุขภาพจิต BMHH เราพร้อมดูแลคุณด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักจิตวิทยาที่เข้าใจ และบรรยากาศที่เป็นมิตรและปลอดภัย