
ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับการบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น ภายใต้สโลแกน "ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ทำดี ทำได้ ทำทันที" ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมามีลูกเสือ เนตรนารี จำนวนมากกว่า 13,000 คน จากทุกสังกัด ทั่วประเทศ ได้กระทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อสังคม และช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ถือเป็นผู้มีคุณสมบัติได้รับเข็มลูกเสือบำเพ็ญประโยชน์ชั้นที่ 1 - 3 ดังนี้ ชั้น 1 จำนวน 756 ราย ชั้น 2 จำนวน 1,531 ราย และชั้น 3 จำนวน 11,620 ราย สำหรับเข็มลูกเสือบำเพ็ญประโยชน์ ถูกกำหนดให้มีขึ้นตามมาตรา 67 แห่ง พ.ร.บ.ลูกเสือ พ.ศ.2551 โดยจะมอบให้แก่ลูกเสือเพื่อเป็นการส่งเสริมการที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ของลูกเสือ และยกย่องลูกเสือที่ได้บำเพ็ญประโยชน์อย่างดีเด่น มีทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่หนึ่ง พื้นสีแดง ชั้นที่สอง พื้นสีขาว และชั้นที่สาม พื้นสีน้ำเงิน การขอเข็มลูกเสือบำเพ็ญประโยชน์จะเริ่มจากชั้นสาม ชั้นสอง และชั้นหนึ่ง ตามลำดับ
"การพิจารณากลั่นกรองคัดเลือกลูกเสือที่สมควรได้รับเข็มลูกเสือบำเพ็ญประโยชน์ ประจำปี 2567 เป็นไปตามข้อบังคับคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยเข็มลูกเสือบำเพ็ญประโยชน์ พ.ศ. 2554 และการขอรับเข็มในครั้งนี้ ถือว่าการเสริมแรงทางบวกให้แก่ลูกเสือ เนตรนารีที่ได้ทำดี ดังที่ท่านรัฐมนตรีเพิ่มพูน ชิดชอบ ท่านให้แนวทางไว้ว่า "ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ทำดี ทำได้ ทำทันที" โดยเมื่อจะช่วยเหลือผู้อื่นต้อง "ฉลาดรู้ ฉลาดคิด และฉลาดทำ" มีความรู้ในสิ่งที่จะช่วย หาแนวทางช่วยที่ถูกต้อง และลงมือทำทันที ทั้งนี้ สลช.ขอชื่นชมและร่วมแสดงความยินดีกับลูกเสือ เนตรนารีทุกคน ขอให้ยึดมั่นและถือปฏิบัติตามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือตลอดไป" ดร.วรัท กล่าว.