กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--ที.เค.เอส. เทคโนโลยี
ผู้ถือหุ้น TKS ไฟเขียว แตกพาร์จากหุ้นละ 1 บาท เป็น 0.10 บาท ตามมติบอร์ด ส่งผลให้จำนวนหุ้นเพิ่มจาก 360 ล้านหุ้นเป็น 3,600 ล้านหุ้น 'สุพันธุ์ มงคลสุธี' เชื่อหนุนการซื้อขายคึกคักตามสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจมีทิศทางเติบโตชัดเจน แถมไตรมาสแรกโชว์กำไรเติบโตก้าวกระโดดกว่า 368.35% และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง มั่นใจช่วยดึงดูดความสนใจของนักลงทุนอีกทาง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (TKS) เปิดเผยว่า ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 ที่ประชุมมีมติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทจากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท ตามมติของคณะกรรมการบริษัท ทำให้ทุนจดทะเบียน จำนวน 360,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 360,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท เปลี่ยนเป็นทุนจดทะเบียน 360,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 3,600,000,000 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท โดยการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ในครั้งนี้ จะทำให้จำนวนหุ้นหมุนเวียนในกระดานมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนหุ้นหมุนเวียนในกระดานของTKS มีจำนวนไม่มากนัก จึงทำให้การซื้อขายหุ้นในกระดานไม่คล่องตัวเท่าที่ควร
ประธานกรรมการ TKS กล่าวอีกว่า เชื่อว่าหลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ใหม่ คาดว่าจะทำให้การซื้อขายหุ้นในกระดานความคึกคักขึ้น ตามสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ TKS ถือว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ โดยมีผลประกอบการที่โดดเด่นและธุรกิจเติบโตต่อเนื่องโดยในไตรมาสที่ 1/2551 ที่ผ่านมา กำไรสุทธิของบริษัท ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยในไตรมาสแรกปีนี้ TKSมีกำไรสุทธิ 40.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 368.35เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2550 ที่มีกำไรสุทธิ 8.63 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของยอดขายทั้งในธุรกิจสิ่งพิมพ์และธุรกิจค้าส่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (ไอที) โดยในไตรมาสแรกปีนี้ TKS มีรายได้รวม 3,208.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 517.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.25 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,689.26 ล้านบาท จากยอดขายจากธุรกิจสิ่งพิมพ์และธุรกิจค้าส่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีอัตราการขยายตัวที่ดีมากประกอบกับต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายมีสัดส่วนที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 8.6 จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 7.8 จึงสะท้อนให้กำไรสุทธิเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น
นอกจากนั้น ผลการดำเนินงานของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลัง จากการมุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มสิ่งพิมพ์ยังมุ่งคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในงานพิมพ์ทั่วไปเอาไว้ ในขณะเดียวกันขยายเข้าสู่ธุรกิจด้านงานพิมพ์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสูงเพิ่มขึ้น อาทิงานพิมพ์ปลอดการทำเทียม งานพิมพ์ดิจิตอล และงานบริหารคลังสิ่งพิมพ์ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับความไว้วางใจจากองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนให้รับงานพิมพ์ที่มีความสำคัญหลายรายการ จึงคาดว่าจะเป็นใบเบิกทางให้บริษัทได้รับงานพิมพ์อื่น ๆ เพิ่มขึ้นในขณะที่ธุรกิจค้าส่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้ส่งสินค้าใหม่ลงสู่ตลาดพร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และประการสำคัญ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNNEX) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TKS ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 50% จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ TKS อีกทางหนึ่ง และ บริษัทมีการจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนตามที่ได้แจ้งไว้ในหนังสือชี้ชวนในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ ในแต่ละปีที่มีผลกำไรจากการดำเนินงาน โดยในปีที่ 2550 ผ่านมา TKS ได้จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท ทำให้มั่นใจว่าหุ้น TKSน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก
สอบถามรายละเอียดได้ที่ : สิริน วิวัฒน์เจริญพงศ์ โทร : 02-554-9353, 089-728-6389