
เมื่อเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรักษาและเพิ่มพูนมูลค่าทรัพย์สินของตนเอง หนึ่งในวิธีการออมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือการลงทุนในทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เติบโต และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มั่นคงและมีมูลค่าในระยะยาว
การออมเงินผ่านการฝากธนาคารหรือการลงทุนในกองทุนรวม ถือเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงต่ำและสามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำ ซึ่งแม้จะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ในการซื้อทองคำ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญนอกเหนือจากราคาทองคำในแต่ละวัน คือ "ค่ากำเหน็จ" ซึ่งเป็นค่าบริการในการผลิตทองรูปพรรณ เช่น แหวน กำไล หรือสร้อยคอ โดยปกติค่ากำเหน็จจะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลาย และความประณีตของชิ้นงาน หากซื้อทองคำในรูปแบบการลงทุน เช่น ทองคำแท่ง ค่ากำเหน็จจะน้อยกว่าทองรูปพรรณหรืออาจไม่มีเลย (ทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จ แต่จะมีค่าบล็อค) ดังนั้นผู้ซื้อควรพิจารณาวัตถุประสงค์ของการซื้อทองให้ชัดเจน หากซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือเก็บไว้เป็นทุนในอนาคต ทองคำแท่งอาจตอบโจทย์ได้มากกว่า ในขณะที่ทองรูปพรรณเหมาะกับการซื้อไว้สวมใส่หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ และเมื่อต้องการขายจะถูกหักค่าธรรมเนียม ค่ากำเหน็จ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่เกิน 5%* ของราคาซื้อคืนที่กำหนดไว้ตามหลักเกณฑ์ของสมาคมค้าทอง (สคบ.) *หลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้เฉพาะกรณีซื้อ-ขายร้านเดิมเท่านั้น
เปรียบเทียบการซื้อทองคำด้วยเงินสดกับบัตรเครดิต
การซื้อทองคำสามารถทำได้ทั้งด้วยเงินสดและบัตรเครดิต ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การซื้อด้วยเงินสด ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ดี ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ต้องมีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที และอาจเสี่ยงต่อการสูญหายหรือโดนขโมยหากพกพาเงินสดจำนวนมาก การซื้อด้วยบัตรเครดิต ช่วยให้ผู้ซื้อมีสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ทันที และสามารถใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ผ่อน 0% ได้รับคะแนนสะสม อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และหากไม่ชำระเงินตรงเวลา อาจเสียดอกเบี้ยสูง
สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตที่สนใจลงทุนในทองคำ
เคทีซีร่วมสนับสนุนการออมและการลงทุนของสมาชิกบัตรเครดิต โดยร่วมมือกับร้านทองชั้นนำ เช่น ห้างทองแม่ทองสุก ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ห้างทองหวังโต๊ะกัง และออโรร่า (Aurora) เป็นต้น มอบสิทธิพิเศษที่หลากหลายเมื่อชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
- ผ่อนชำระ 0%
- ใช้คะแนนสะสมแลกรับเครดิตเงินคืนหรือส่วนลด
การซื้อทองด้วยบัตรเครดิตที่มีแผนผ่อนชำระและสิทธิพิเศษดังกล่าว ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการออมอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยให้สมาชิกสามารถวางแผนการเงินระยะยาวได้ง่ายขึ้น โดยไม่กระทบต่อกระแสเงินสดใน แต่ละเดือน โดยมุ่งหวังให้ทุกการใช้จ่ายของสมาชิกไม่ใช่แค่การจับจ่าย แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคง และการมีทองคำติดบ้านก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่า หากมีการบริหารจัดการการเงินที่รอบคอบและเหมาะสม