กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--กรมการค้าต่างประเทศ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2551 นี้ สหภาพยุโรปจะออกประกาศแผนปฏิบัติว่าด้วยการบริโภคและขั้นตอนการผลิตสินค้าที่ยั่งยืน (The Sustainable Production and Consumption and Sustainable Industrial Policy)โดยแผนปฏิบัติดังกล่าวได้ขยายกฎเกณฑ์การติดฉลาก eco-design ให้ครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรมทุกรายการ (ยกเว้นภาคขนส่งที่ครอบคลุมโดยระเบียบเฉพาะ) เช่น เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ทางชลประทาน อุปกรณ์สุขภัณฑ์ และวัสดุก่อสร้างเป็นต้น และแม้ว่าข้อกำหนดจะไม่บังคับการติดฉลากบนสินค้าทุกรายการ แต่สินค้าแต่ละรายการจะต้องถูกนำมาพินิจพิจารณาตามระดับมาตรฐาน “eco-performance” ที่คำนึงพลังงานและวัตถุดิบที่ได้นำมาใช้เพื่อผลิตสินค้าดังกล่าว โดยจะนำข้อมูลไปพิจารณาให้สิทธพิเศษทางการเงิน (Fiscal incentive) หรือการจัดหาทางราชการ (Public procurement) ในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงควรศึกษาแผนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ตามข้อกำหนด และสามารถนำมาปรับใช้กับระบบการออกแบบและการผลิตสินค้าของตน เพื่อเพิ่มสมรรถภาพการแข่งขัน และสร้างความได้เปรียบทางด้านราคาเหนือคู่แข่งขันได้
อนึ่ง ไทยส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปจำหน่ายในสหภาพยุโรป มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 540,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80 ของมูลค่าการส่งออกไปสหภาพยุโรปทั้งหมดโดยในปี 2550 มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 607,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าส่งออก 568,590 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6.89