กปร. เร่งตรวจเขื่อน เตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหว

ข่าวทั่วไป Tuesday May 27, 2008 09:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--โอเค แมส
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศจีนส่งผลให้ประเทศจีนได้รับความเสียอย่างมาก ซึ่งหน่วยงานทุกฝ่ายของประเทศไทยก็มีมาตรการเพื่อเตรียมพร้อมรับกับภัยพิบัติต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมไปถึงสถานการณ์น้ำที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งการเกิดปัญหาอุทกภัยในทุกปีได้สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ภาคเกษตรอย่างหนักทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ตั้งแต่ จ.พิษณุโลกลงมาจะได้รับความเสียหายหนักที่สุด เนื่องจากเป็นแอ่งรับน้ำจากที่ต่าง ๆ ไหลลงมารวมกันพอดี ทางสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ซึ่งรับหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้ตรวจเยี่ยมโครงการต่างๆในเขตความรับผิดชอบจัดเตรียมแผนรองรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นอีก รวมทั้งประสานให้มีการติดตามเฝ้าระวังประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีความพร้อมและเตรียมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที พร้อมกับเตรียมความพร้อมในเรื่องของระบบการระบายน้ำออกจากเขื่อนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆและพื้นที่ทางการเกษตรเพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยว่า ทางสำนักงาน กปร.ได้มีการประสานงานไปยังทางโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน กปร.ทุกแห่ง เพื่อให้ทำการตรวจเช็คสภาพของตัวเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝายทดน้ำ และพื้นที่โดยรอบเนื่องจากสภาพของเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝาย อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น และพร้อมกันนี้ยังได้ประสานให้ทุกโครงการจัดเตรียมแผนเพื่อรับมือกับอุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ด้วย ซึ่งทางสำนักงาน กปร.ได้เดินทางเพื่อตรวจเยี่ยมโครงการฯในหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นต้น และโครงการเขื่อนแควน้อยฯ จังหวัดพิษณุโลก เป็นอีกหนึ่งโครงการจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง เป้าหมายหลักในการก่อสร้าง คือ ช่วยบรรเทาอุทกภัยให้แก่ราษฎร โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มแม่น้ำแควน้อยตอนล่าง ซึ่งมักจะประสบกับปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำและมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นอ่างเก็บน้ำอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ประกอบด้วย 3 เขื่อนติดต่อกัน ได้แก่ เขื่อนแควน้อย ลักษณะเป็นเขื่อนหินทิ้งดาดหน้าคอนกรีต ,เขื่อนสันตะเคียน ลักษณะเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว , เขื่อนปิดช่องเขาขาด ลักษณะเป็นเขื่อนดิน ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบสภาพนั้น ยังไม่พบการแตกร้าว หรือผลกระทบที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และในส่วนงานที่กำลังดำเนินการก่อสร้างยังสามารถทำได้ตามปกติ แม่น้ำแควน้อยเกิดจากลุ่มน้ำสาขาย่อยฝั่งซ้ายของแม่น้ำน่านมีต้นน้ำอยู่ในพื้นที่อำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก ไหลผ่านอำเภอวัดโบสถ์ บรรจบกับแม่น้ำน่านที่อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก สภาพพื้นที่ตอนล่างของแม่น้ำแควน้อยประมาณ 200,000 ไร่ เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ประสบปัญหาน้ำท่วมและขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี ราษฎรส่วนใหญ่ 80 % เป็นเกษตรกรที่มีรายได้ต่ำสามารถทำนาได้ครั้งเดียวในฤดูฝน แต่มักจะได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม โดยมีพื้นที่ประมาณ 75,000 ไร่ ในเขตอำเภอวัดโบสถ์ อำเภอพรหมพิราม อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จะเกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ โครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นับเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและที่ราบลุ่มภาคกลางโดยตรง ทั้งยังช่วยเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรมช่วงหน้าแล้ง ตลอดจนประโยชน์เพื่อการอุปโภคและบริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย นายชูชาติ ฉุยกลม ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้าง 2 โครงการเขื่อนแควน้อยฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทางโครงการเขื่อนแควน้อยฯ จังหวัดพิษณุโลก กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างซึ่งได้ตรวจสอบแล้วนั้นยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน แต่ทางโครงการก็ได้มีการป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นไว้แล้ว โดยทางโครงการได้ทำการสำรวจทุกพื้นที่โดยรอบ และทำการเช็คสภาพของตัวเขื่อนให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ รวมถึงการป้องกันภัยและแก้ไขปัญหาพร้อมเตรียมรับสถานการณ์ฤดูฝนปี 2551 นี้ด้วย พื้นที่ของชุมชนโดยรอบของโครงการ และพื้นที่การเกษตรยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว หรือขาดน้ำ ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาที่มีพายุฝนตกหนักหลายวันทางพื้นที่บริเวณรอบเขื่อนแควน้อยก็ยังไม่มีผลกระทบเสียหาย และสำหรับการก่อสร้างเขื่อนแควน้อยนั้น หากแล้วเสร็จ คาดว่าน่าจะช่วยป้องกันการเกิดอุทกภัยได้มาก เพราะเขื่อนแควน้อยจะเก็บกักน้ำเอาไว้ในช่วงฤดูฝน และในช่วงหน้าแล้งจากเดิมที่ไม่มีน้ำในลำน้ำแควน้อย ต่อไปก็จะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนไปสู่พื้นที่เกษตรกรรม โดยผ่านทางคลองส่งน้ำของกรมชลประธาน ก็จะช่วยเหลือเกษตรกรได้มาก และไม่ต้องทิ้งครอบครัวออกไปหางานทำในเมืองอีก โครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน จากอุทกภัยและภัยแล้งให้กับประชาชน และเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับคนในพื้นที่ได้นานัปการเฉกเช่นเดียวกับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ได้สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลให้แก่ประชาชนในเขตพื้นที่ภาคกลางได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งคาดหวังกันว่าหากการก่อสร้างโครงการเขื่อนแควน้อยฯเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ทางภาคเหนือตอนล่างคงจะบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องของน้ำได้เป็นอย่างดีเช่นกันสมดังพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงตั้งพระราชปณิธานไว้เพื่อให้ราษฎรได้รับประโยชน์สุขโดยทั่วกัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ บริษัท โอเค แมส จำกัด คุณภัทรานิษฐ์ ตันศรีกุลรัตน์ (เอ) โทร.0-2618-7780-4 ต่อ 102 / (081) 700-5224 คุณนภสร จู่พิชญ์ (น้ำ) โทร.0-2618-7780-4 ต่อ 108 / (084) 525-4574 คุณธนพร สุขมี (แหม่ม) โทร. 02-618-7782-4 ต่อ103 / 086-707-4263

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ