ออฟฟิศเมทรุกสร้างแบรนด์ เพิ่มงบตลาดกว่า 20 ล้าน ตั้งเป้าธุรกิจ ปี 48 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50%

ข่าวเทคโนโลยี Thursday March 3, 2005 14:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
ออฟฟิศเมทรุกสร้างแบรนด์ เพิ่มงบตลาดกว่า 20 ล้าน ตั้งเป้าธุรกิจ ปี 48 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50%
- เปิดตัว “OfficeMate Catalog 2005” เล่มใหม่ล่าสุด มีสินค้าครบครันกว่า 8,000 รายการให้เลือกสรร -
ออฟฟิศเมท ผู้จำหน่ายเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน คอมพิวเตอร์และออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ โดยผ่านระบบแค็ตตาล็อกและอินเตอร์เน็ตเต็มรูปแบบเป็นแห่งแรกของไทย ประกาศความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ปี 47 ที่ผ่านมา เผยรายได้เติบโต 50 % ยอดขายกว่า 500 ล้าน ในปีนี้ทุมงบการตลาดกว่า 20 ล้าน เพื่อรุกสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และเพิ่มฐานลูกค้าไปสู่องค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ หลังจากมุ่งสร้างสรรค์และพัฒนาระบบการทำงานมากว่า 10 ปี
นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน คอมพิวเตอร์และออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ โดยผ่านระบบแค็ตตาล็อกและอินเตอร์เน็ตเต็มรูปแบบเป็นแห่งแรกของไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมีรายได้เติบโต 60 % และมียอดขายกว่า 500 ล้าน โดยแบ่งยอดขายในปี 2547 ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มสินค้าต่างๆ คือ กลุ่มเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน 60 % กลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 30 % และ เฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ 10 % ซึ่งถือว่าในปีที่ผ่านมากลุ่มสินค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้รับการตอบรับและมีเปอร์เซ็นในการเติบโตมากที่สุด
“ด้วยความสำเร็จของบริษัทออฟฟิศเมทที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ สร้างสรรค์และพัฒนาระบบการทำงานมากว่า 10 ปี โดยมีองค์ประกอบในการดำเนินธุรกิจหลักอยู่ 4 ระบบ คือ 1. ระบบออฟฟิศเมท แค็ตตาล็อค การจัดทำแค็ตตาล็อคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเสมือนกับการนำสินค้าที่มีอยู่ในห้างสรรพสินค้ามารวมอยู่ในแค็ตตาล็อคเพียงเล่มเดียว ซึ่งแค็ตตาล็อคจะต้องประกอบด้วยข้อมูลของสินค้าที่ถูกต้องและครบถ้วนทั้งในเชิงเปรียบเทียบและวิเคราะห์ในด้านราคาและรายละเอียดของตัวสินค้า เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ระบบ Call Center ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งบริษัทออฟฟิศเมท ได้ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เข้ามาช่วย โดยการนำระบบ ACD (Automatic Call Distribution) และ ระบบ IVR (Interactive Voice Response) ซึ่งได้รับมาตรฐานโลกและเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดในวงการของการสั่งซื้อด้วยแค็ตตาล็อคของเมืองไทย โดยเรามีพนักงาน Call Center คอยให้บริการและตอบข้อซักถามในด้านต่างๆ พร้อมทั้งการให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้า 3. การบริหารระบบ Logistic ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ การสต๊อกสินค้า และจัดเก็บสินค้ากว่า 8,000 รายการ ซึ่งสินค้าทุกตัวที่อยู่ในแค็ตตาล็อค จะถูกจัดเก็บไว้ในคลังสินค้า เพื่อพร้อมจัดส่งทันทีที่มีการสั่งซื้อเข้ามาและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพโดยแผนกจัดส่งของบริษัทโดยตรงที่มีความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามเวลานัดหมาย ด้วยระบบ GPS (Global Positioning System) ซึ่งเป็นระบบติดตามการจัดส่งผ่านสัญญาณดาวเทียม ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถได้รับสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง 4. ระบบ ไอที (IT) ทางบริษัทออฟฟิศเมทได้ให้ความสำคัญกับการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ระบบ IT) มาช่วยในการจัดการทั้งในด้านการจัดทำแค็ตตาล็อค ระบบ Call Center และระบบ Logistic เพื่อให้ทั้ง 3 ระบบงาน สามารถทำงานประสานและสอดคล้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ ส่วนในช่องทางการขายผ่านแค็ตตาล็อกเซลนั้น ออฟฟิศเมทได้เปิดตัว “OfficeMate Catalog 2005” เล่มใหม่ล่าสุดประจำปี 2548 เพื่อให้คนทำงานมีชีวิตที่ง่ายขึ้น โดยแค็ตตาล็อคได้รวบรวมสินค้าคุณภาพยี่ห้อชั้นนำหลากหลายประเภทกว่า 8,000 รายการ ด้วยกระดาษอาร์ตมันสีสันสวยงามทั้งเล่ม กว่า 500 หน้า เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสั่งสินค้าได้เสมือนเห็นสินค้าจริง พร้อมแบ่งแยกประเภทสินค้ากว่า 11 หมวด เพื่อความสะดวกในการเลือกสรรสินค้า และบริการจัดส่งฟรี ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมรับประกันความพึงพอใจและบริการรับส่งไปซ่อมที่ศูนย์ฟรี เมื่อสินค้าเกิดความชำรุดเสียหายตลอดอายุการใช้งาน หลังจากสั่งซื้อสินค้าจากออฟฟิศเมท
“ปัจจุบันนี้บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาปรับปรุงระบบการขายแบบ E-commerce โดยผ่านการขายทางเว็บไซต์ www.officemate.co.th ซึ่งเป็นลักษณะการขายแบบ B2C ( Business To Customer ) ภายในเว็บไซต์ประกอบด้วยรายละเอียดของสินค้าที่ครบครัน สามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากทางเว็บไซต์เสมือนกับการสั่งซื้อผ่านทางช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ นอกจากนั้นออฟฟิศเมทยังจัดทำลักษณะการขายแบบ B2B (Business To Business) โดยใช้ระบบ OfficeMate eProcurement ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการสั่งซื้อที่เหมาะกับระบบการทำงานของแต่ละองค์กร โดยออฟฟิศเมท จะจัดทำรายการสินค้าประจำให้กับองค์กรนั้นๆ และพนักงานในองค์กรนั้นๆ สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ด้วยตนเอง และส่งผ่านขั้นตอนการอนุมัติการสั่งซื้อทางระบบ online มายังออฟฟิศเมทโดยตรง ซึ่งช่วยในการลดขั้นตอนการทำงานของแผนกจัดซื้อได้เป็นอย่างดี”
“ในปี 2548 นี้ บริษัท ออฟฟิศเมท ได้ทุ่มงบประมาณในการทำการตลาดกว่า 20 ล้าน เพื่อรุกสร้างความจดจำได้ในตราสินค้า ออฟฟิศเมท ให้แพร่หลายในวงกว้างมากขึ้น โดยการใช้สื่อทางการตลาดมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ตั้งแต่สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณารถโดยสารประจำทาง สื่อทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งกลยุทธ์ในการจัดกิจกรรม โดยมีการจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ออฟฟิศเมท และเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในการเลือกใช้บริการกับ ออฟฟิศเมท ด้วยรายการ OfficeMate Member Rewards โดยลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้ากับออฟฟิศเมท ทุกรายการสินค้าสามารถร่วมสะสมยอดการสั่งซื้อ โดยทุกๆ 100 บาท รับทันที คะแนนสะสม 5 คะแนน เพื่อรับสิทธิพิเศษในการแลกของรางวัลโดยมีรางวัลใหญ่คือ รถยนต์ Honda Jazz และมีหมวดของรางวัลอื่นๆ มากมาย รวมทั้งการจัดทำสื่อนิตยสาร At Office นิตยสารรายเดือนที่มีเนื้อหา และสาระบันเทิง สำหรับคนทำงาน เพื่อสร้างทัศนะคติที่ดีให้กับคนทำงาน โดยรวบรวมนักเขียนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาถ่ายทอดประสบการณ์ และแง่คิด ให้แก่ผู้อ่าน รวมทั้งภายในเล่มยังมีการจัดทำรายการสินค้าโปรโมชั่นพิเศษแทรกไว้ภายในเล่มเพื่อให้ผู้อ่านได้เลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษในแต่ละเดือนฟรีสำหรับสมาชิกออฟฟิศเมท และมีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ซึ่งถือเป็นการจัดทำ CRM กับลูกค้าออฟฟิศเมท โดยตรง
“ สำหรับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจปี 2548 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายสำหรับอัตราการเติบโตของธุรกิจไว้ที่ 45 % ของยอดขายปี 2547 ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนคือ กลุ่มเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน 50 % อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 35 % และเฟอร์นิเจอร์ ออฟฟิศ 15 % และนอกจากนี้ยังมีการตั้งเป้าหมายสำหรับยอดขายในอีก 2 ปีข้างหน้าไว้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายหลักที่จะนำบริษัท เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ( MAI ) เพื่อให้ธุรกิจมีความมั่นคงยิ่งขึ้น เพราะคิดว่า ธุรกิจในระบบแค็ตตาล็อคเซลจะเติบโตขึ้นมาก เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคทางการตลาดและพฤติกรรมการจับจ่าย อุปกรณ์สำนักงาน ได้เปลี่ยนแปลงไปจากการขายแบบมีหน้าร้านให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซิ้อสินค้ามาเป็นการซื้อโดยอาศัยระบบแค็ตตาล็อค ทำให้เกิดความสะดวกสบายอีกทั้งยังประหยัดเวลาและงบประมาณ ทั้งนี้ในปัจจุบันอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานนับได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกออฟฟิศเพราะถือว่าการทำงานของพนักงานที่มีประสิทธิภาพนั้นเกิดจากการเลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานที่มีคุณภาพ และถูกต้องเหมาะสมกับงาน ซึ่งเมื่องานที่ได้มีประสิทธิภาพถือว่าเราได้ใช้ประโยชน์จากการใช้อุปกรณ์สำนักงานที่มีคุณภาพนั้นอย่างคุ้มค่า" คุณวรวุฒิ กล่าวสรุปในที่สุด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Officemate Call Center 02-739-5555
หรือ วิภาวริศ เกตุปมา, กรรณิกา สายพันธุ์ และ นวธิดา บัวโชติ
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-951-9119, 06-329-3823, 01-890-3568, 09-107-9809
--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ