กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
ตลาดส่งออกรถยนต์เดือนตุลาคม มูลค่าส่งออกรวม 30,306 ล้านบาท เติบโต 39.8%
รถยนต์สำเร็จรูป 49,725 คัน สะสม 10 เดือนรวม 247,641 ล้านบาท เติบโต 74.3% รถยนต์สำเร็จรูป 363,361 คัน
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ประจำเดือนตุลาคม มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 30,306 ล้านบาท เติบโต 63.7% แบ่งเป็นการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) 49,725 คัน เติบโต 105.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 22,355 ล้านบาท ชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ เครื่องยนต์และอื่นๆ มูลค่า 7,951 ล้านบาท เติบโต 73.8%
สำหรับสถิติการส่งออกสะสม 10 เดือน มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 247,641 ล้านบาท เติบโต 74.3% โดยแบ่งเป็นการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) มีจำนวนทั้งสิ้น 363,361 คัน เติบโต 53.9% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มูลค่ารวมทั้งสิ้น 168,993 ล้านบาท ชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ เครื่องยนต์และอื่นๆ 78,648 ล้านบาท เติบโต 114.1%
มูลค่าการส่งออกรวม ประจำเดือน ตุลาคม 2548
อันดับ 1 โตโยต้า 13,266 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 43.8% เติบโต 255.0%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 4,770 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 15.7% ลดลง 18.9%
อันดับ 3 ฮอนด้า 3,970 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 13.1% เติบโต 40.8%
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ประจำเดือน ตุลาคม 2548
อันดับ 1 โตโยต้า 19,862 คัน ส่วนแบ่งตลาด 39.9% เติบโต 325.4%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 11,055 คัน ส่วนแบ่งตลาด 22.2% ลดลง 12.8%
อันดับ 3 ฟอร์ด 5,939 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.9% เติบโต 15.8%
มูลค่าการส่งออกรวม สะสม 10 เดือนของปี 2548
อันดับ 1 โตโยต้า 90,776 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 36.7% เติบโต 188.5%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 35,649 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 14.4% เติบโต 4.2%
อันดับ 3 ฮอนด้า 34,955 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 14.1% เติบโต 26.7%
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป สะสม 10 เดือนของปี 2548
อันดับ 1 โตโยต้า 112,640 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.0% เติบโต 157.8%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 75,098 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.7% เติบโต 6.0%
อันดับ 3 ฟอร์ด 48,135 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.2% เติบโต 21.1%
นายวุฒิกรกล่าวว่า “การส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นอุตสาหกรรมหลักในการนำเงินตราเข้าสู่ประเทศ ช่วยลดการขาดดุลการค้า ดังจะเห็นได้จากยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับการประกอบรถยนต์ และอื่นๆ ในรอบ 10 เดือน ที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 247,641 ล้านบาท โดยการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป มีแนวโน้มการเจริญเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดว่าประเทศไทยจะมียอดส่งออกรถยนต์ในปีนี้สูงถึง 500,000 คัน ในส่วนของโตโยต้านั้น เราได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 112,640 คัน เติบโต 157.8% ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์ในโครงการ ไอเอ็มวี ได้แก่รถกระบะไฮลักซ์ และ ฟอร์จูนเนอร์ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมียอดส่งออกรวมสูงถึง 72,555 คัน หรือ กว่า 60 % ของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบและเชื่อมั่นในคุณภาพของรถในโครงการ ไอเอ็มวี จากลูกค้าทั่วโลก และเมื่อรวมกับการส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ เครื่องยนต์และอื่นๆซึ่งมีมูลค่า 38,637 ล้านบาท แล้ว ทำให้โตโยต้ามีมูลค่าการส่งออกรวมกว่า 90,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายการส่งออกของปี 2548 กว่า 110,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า โตโยต้าจะสามารถบรรลุแผนการส่งออกในปีนี้ได้ในที่สุด ” นายวุฒิกรกล่าวในที่สุด--จบ--