กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์
ทียูเอฟแจงผลประกอบการไตรมาส 3/2548 ฟันกำไรสุทธิ 659.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 17 จากงวดเดียวกันของปี 2547 ขณะที่ยอดขาย 9 เดือน โตขึ้นร้อยละ 15 จากปีก่อน เผยเน้นนโยบายควบคุมต้นทุนการผลิต ส่งผลให้มาร์จิ้นมีอัตราที่สูงขึ้น พร้อมคาดการณ์ยอดขายทั้งปี 2548 กว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/2548 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ทั้งในรูปของเงินเหรียญสหรัฐฯ และเงินบาท โดยมีรายได้จากการขาย 351.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 14,510.9 ล้านบาท พร้อมกับมีกำไรสุทธิ 659.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 จากงวดเดียวกันของปี 2547 ซึ่งเท่ากับ 564.3 ล้านบาทและมีกำไรต่อหุ้น 0.76 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2548 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 987.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จาก 854.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในงวด 9 เดือนของปี 2547 ซึ่งเมื่อคิดเป็นในรูปของเงินบาทเท่ากับ 39,599.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งเท่ากับ 34,555.4 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 1,629.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 จาก 1,407.1 ล้านบาทในงวด 9 เดือนของปี 2547 และมีกำไรต่อหุ้น 1.88 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3
“บริษัทฯ มีผลกำไรเติบโตขึ้นเกินเป้าหมาย เนื่องจากมีการควบคุมต้นทุนการผลิตที่ดี ทำให้สินค้าของบริษัทฯ มีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มียอดขายปลาทูน่า และอาหารกุ้งเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ประกอบกับบริษัทย่อยในสหรัฐอเมริกาสามารถทำกำไรได้ดีขึ้น โดยชิคเก้นออฟเดอะซีมียอดขาย และผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงทั่วทุกภูมิภาค แต่สินค้าของบริษัทฯ เป็นสินค้าอาหารพื้นฐาน ซึ่งโดยปกติแล้วภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเช่นนี้ จะทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น เพราะฉะนั้นสินค้าของบริษัทฯ น่าจะได้รับประโยชน์โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทฯ และเป็นสินค้าที่ราคาถูก จึงมีความต้องการในตลาดสูง อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการทั้งปีบริษัทฯ น่าจะมียอดขายกว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ” นายธีรพงศ์กล่าว
ประธานกรรมการบริหาร ทียูเอฟ กล่าวต่อว่า ในไตรมาส 3/2548 บริษัทฯ มีปริมาณยอดขายรวมเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4 โดยปลาทูน่าแช่แข็งและบรรจุกระป๋องมีสัดส่วนยอดขายร้อยละ 51 กุ้งแช่แข็งร้อยละ 23 อาหารทะเลบรรจุกระป๋องร้อยละ 8 อาหารแมวบรรจุกระป๋องร้อยละ 7 อาหารกุ้งร้อยละ 5 ปลาหมึกแช่แข็งร้อยละ 2 และผลิตภัณฑ์ที่ขายภายในประเทศร้อยละ 4
ส่วนตลาดส่งออก ซึ่งไม่รวมยอดขายของ Chicken of the Sea และบริษัท เอ็มเพรส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทฯ มีการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักในสัดส่วนร้อยละ 25 รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่นร้อยละ 21 และตลาดส่งออกอื่นๆ มีดังนี้ สหภาพยุโรปร้อยละ 13 ตะวันออกกลางร้อยละ 7 เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ร้อยละ 5 ออสเตรเลียร้อยละ 5 อัฟริการ้อยละ 4 แคนาดาร้อยละ 4 อเมริกาใต้ร้อยละ 1 และตลาดในประเทศร้อยละ 15
“บริษัทฯ ตระหนักอยู่เสมอว่า ในการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารจะต้องเน้นนโยบายด้านคุณภาพและมาตรฐานเป็นหลัก พร้อมทั้งมีการพัฒนาคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การส่งสินค้าที่ตรงต่อเวลาจึงถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทฯ และบริษัทย่อยคือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน ซีฟู้ด จำกัด จึงได้รับเลือกให้เป็นซัพพลายเออร์ยอดเยี่ยม (Vendor of the Year) พร้อมกับรับรางวัลความปลอดภัยด้านอาหารและคุณภาพยอดเยี่ยม (Food Safety and Quality Award) ในงาน Darden Annual Awards ครั้งที่ 6 จากบริษัท ดาร์เด้น เรสเตอรองต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ประกอบการภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสาขามากกว่า 1,400 แห่งทั่วโลก อาทิ เรด ลอบสเตอร์, โอลีฟ การ์เด้น, บาฮาม่า บรีซ และ สโมกี้ บอนส์ บาร์บีคิว & กริลล์ และ ซีซั่นส์ เป็นต้น ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวพิจารณาจากคุณภาพของสินค้าและมาตรฐานการผลิตเป็นสำคัญ” นายธีรพงศ์กล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร. (662) 298-0024, 298-0537 — 41 ต่อ 675-8
Website: www.thaiuniongroup.com--จบ--