กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
บทสัมภาษณ์ เท็น-วัตถาภรณ์ เอี่ยมสินธร
รับบท “ใบหม่อน” ทอมสาวห้าวสุดเจ้าชู้
ที่เริ่มหวั่นไหวในจิตใจ ว่าจริงๆแล้วตัวเองจะเลือกเป็นอย่างไร???
Q. เป็นไงมาไงถึงได้มีโอกาสเข้ามารับบท “ใบหม่อน” สาวทอมในหนังเรื่อง “ฮะเก๋า”
T.ก็เริ่มต้นเลยก็คือ ได้มีโอกาสไปเรียนมวยไชยากับครูท่านหนึ่งแล้วพอดีครูได้รู้จักกับพี่โจซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องคู่แรด พี่โจ ก็เลยชวนให้ลองไปประกวด ทีทรี 2006 เกี่ยวกับโฟมล้างหน้า ไอ้เราก็ไปลองประกวดดู พอดีว่าเข้ารอบๆ มาเรื่อยๆจน ต่อมาก็ชนะได้ที่ 1 ก็เลยได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานกับทีมงานฟิล์มเอเซียซึ่งเป็นทีมที่จัดงาน พอหลังจากนั้นพี่โจก็ชวนให้ลองมา cast หนังเรื่องฮะเก๋าในบทใบหม่อนสาวทอม คาแรกเตอร์ก็คล้ายกับที่เราไปประกวดค่ะ ก็เลยเข้ามา cast ที่บริษัทดู ปรากฏว่าก็ได้ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นทำ work shop ทางด้านการแสดง
Q. ที่บอกว่าต้องwork shop มีการเตรียมตัวนานแค่ไหนอย่างไร แล้วต้องทำอะไรบ้าง
T.ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ การเวิร์คช็อปก็จะคล้ายๆกับการเรียนการแสดง จะมีคนคอยสอน พี่เขาก็จะให้โจทย์มาว่า ให้เราแสดง acting อย่างนี้นะ อารมณ์เป็นยังไง เขาก็จะสอนอะไรหลายๆอย่าง แล้วก็จะเอาบทจากภาพยนตร์เรื่องฮะเก๋ามาให้เราเล่น ให้เราฝึกว่า อารมณ์แบบนี้ควรเล่นยังไง จะสื่อออกมาต้องทำยังไง การใช้สีหน้า แววตา ท่าทาง”
Q. ตอนที่รู้ว่าได้รับเลือกให้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องฮะเก๋า รู้สึกอย่างไรบ้าง
T.ตอนแรกก็อึ้งว่า เฮ้ยเราได้จริงๆหรอ ไม่อยากเชื่อ ตื่นเต้นมาก เพราะเรายังไม่เคยผ่านงานอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย แต่พอตั้งสติได้ปุ๊บ เราก็ต้องมีการเตรียมตัวอย่างหนัก ทำการบ้านกับตัวเองให้เยอะพอสมควร
Q.คาแรกเตอร์ของ “ใบหม่อน”เป็นอย่างไร
T.คาแรกเตอร์ของใบหม่อนในหนังเรื่องฮะเก๋า ก็จะเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง กับเพื่อนๆ จะเฮฮา ออกแนวห้าวๆ เป็นทอมเล็กน้อย แล้วด้วยความที่ใบหม่อนหน้าตาดีมีนิสัยเจ้าชู้นิดๆ ก็เลยมีสาวๆ มาติดตรึม ซึ่งจริงๆ เขาก็มีแฟนอยู่แล้วนะ แต่ก็ยังแอบนอกลู่นอกทางบ้าง แล้วในมุมของเพื่อนฝูง ใบหม่อนก็จะมีเพื่อนสนิทอยู่กลุ่มหนึ่ง เป็นแก๊งค์แสบเลยละ แต่ละคนก็จะมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน แต่คนที่สนิทกับใบหม่อนที่สุดก็คือ “บุ้ง” (รับบทโดย แตงโม) มีอะไรก็จะคุยกันจะปรึกษากัน
Q.สำหรับตัวเท็นเองคิดว่า ใบหม่อนกับเราเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
T.ในเรื่องใบหม่อนเขาจะเป็นคนห้าวๆ ก็คล้ายๆ กันกับเท็นอยู่เหมือนกัน เพราะตัวจริงเราก็เป็นคนที่ห้าว ขำๆ ร่าเริง ขำมันทุกอย่างไปหมดเลย ซึ่งแล้วเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนในมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ผู้ชายเหมือนกัน ทำให้เรามีนิสัยเข้ากับผู้ชายได้ง่ายขึ้น มันก็ตรงตามคาแรกเตอร์เลย เพราะใบหม่อนก็จะเป็นทอม จะอยู่กับเพื่อนที่เป็นผู้ชายทั้งหมด
Q.งั้นถามหน่อยว่าแล้วในชีวิตจริงมีสาวๆเข้ามาบ้างไหม
T.มีค่ะ แต่ว่าก็เป็นเพื่อนกัน
Q.การที่ต้องมารับบทเป็นใบหม่อน เป็นทั้งสาวห้าว เป็นทั้งทอม เราต้องมีการเตรียมตัวยังไงบ้าง
T.ก็สังเกตเพื่อนที่เป็นทอมว่าเขาพูดจายังไง เวลาเขาอยู่กับแฟนเขาทำกันยังไง แล้วก็ถามผู้กำกับว่า ทอมมันประมาณอย่างนี้ใช่ไหม ปรึกษาเรื่องแอ็คติ้ง การพูด การเดินว่าจะต้องเดินแบบไหน ยังไง ใช่ไหม เสื้อผ้าจะต้องแต่งยังไง
Q.มีติดไปใช้ในชีวิตจริงบ้างไหม
T.ปกติก็ห้าวอยู่แล้วนะ เริ่มมีคนมาแซวว่า หล่อขึ้นทุกวันๆแล้วนะ ไปที่คณะก็มีแซวกัน แล้วก็แบบว่าเราก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่
Q.แล้วทำไมต้อง “ฮะเก๋า” ชื่อ “ฮะเก๋า”มีความหมายอย่างไรกับภาพยนตร์
T.สำหรับความหมายของฮะเก๋านี้ คำ“ฮะ”ก็คือแทนตัวเท็น แล้ว “เก๋า” ก็หมายถึงบรรดาเพื่อนๆ ในแก๊งค์ คือตัวใบหม่อนนี่เจ้าชู้มาก ชอบไปจีบสาว แล้วก็จะเป็นต้นเหตุให้มีเรื่องมีราวมาให้เพื่อนๆได้ปวดหัวตลอด อย่างไปจีบผู้หญิงที่มีแฟนแล้ว ก็เลยได้เรื่อง ส่วนไอ้พวกเราก็เก๋าอยู่แล้ว ก็เจ็บเนื้อเจ็บตัวกัน มีวิ่งหนีกัน แบบว่าไม่เคยกลัวใครเลย
Q. ไม่เคยแสดงภาพยนตร์มาก่อนรู้สึกอย่างไรบ้าง
T.จริงๆก็ไม่เคยเล่นหนังมาก่อน ยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเราได้ทำเวิร์คช็อปกับนักแสดงหลาย ๆ ท่านมาก่อนที่จะเปิดกล้อง 2 เดือนแล้ว จึงไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะว่าได้รู้จักนักแสดงหลายๆท่านมาแล้ว จะตื่นเต้นก็พี่หม่ำนี่แหละ (หัวเราะ)
Q.ไหนลองเล่าให้ฟังซิว่าทำงานร่วมกับพี่หม่ำ เป้นอย่างไรบ้าง
T. การร่วมเล่นหนังครั้งแรกกับพี่หม่ำถือว่าสุดยอดค่ะ ตื่นเต้นมาก วันแรกก็ได้เจอกับพี่หม่ำเลย ได้เข้าฉากด้วยกัน ก็กลัวเหมือนกันกลัวว่าเราจะพูดผิดรึเปล่า กลัวว่าเราจะทำให้เขา take ใหม่หรือเปล่า ก็กังวลเหมือนกัน แต่ว่าพี่หม่ำเป็นคนร่าเริงมาก พอ take ใหม่ เราพูดผิดพี่หม่ำก็จะบอกว่าไม่เป็นไร เล่นต่อไปเลย อย่าคิดมาก ตอนหลังๆ บางทีถ้าเราพูดบทไปแล้วเกิดพูดผิด พี่หม่ำก็จะสวนรับบทขึ้นมาทันที ทำให้สามารถเล่นต่อได้ไม่ต้อง take ซึ่งพี่หม่ำเขาจะส่งให้เท็นเกินร้อย ทำให้เท็นโอเค ไม่ตื่นเต้นเท่าช่วงแรกๆ แต่จะหลุดขำมากกว่า
Q.ฉากไหนบ้างที่หลุดขำกับพี่หม่ำ
T.ก็จะเป็นฉากตอนที่ใบหม่อนอกหักจากน้ำตาลแล้วก็นั่งซึมอยู่กับเพื่อนๆ พี่หม่ำก็เข้ามาปลอบใจ ซึ่งวิธีการที่เขามาพูดปลอบเราก็คือ เขาจะให้เรามีแฟนเป็นผู้ชายให้ได้ ซึ่งตอนนั้นอารมณ์เราก็ต้องโมโหพี่หม่ำ เฮ้ย อะไรเนี่ยะ เราอกหักยังมาโดนแบบนี้อีก ก็มองตาพี่หม่ำด้วยอารมณ์หงุดหงิด แล้วพี่หม่ำอย่างที่รู้คือแค่มองหน้าเขา ก็ขำมากๆแล้ว ยิ่งเขาเป็นคนที่ตลกมากๆ เราก็จะหลุดๆ หัวเราะ ออกมา รู้สึกว่ามันยาก พี่หม่ำก็จะบอกว่า เฮ้ย ไม่ต้องมองตานะ เดี๋ยวหลุด เท็นก็คิดว่าไม่ ถ้าเราอยากจะเป็นนักแสดงจริงๆเราก็ต้องมองตาเขาให้ได้ ต่อให้เขาจะเล่นตลกอะไรกับเรามา เราก็ต้องเล่นกลับไปให้ได้ โมโหกลับไปให้ได้ ซึ่งก็เป็นอะไรที่ประทับใจเท็นมากที่ได้เล่นในฉากนี้
Q.มีฉากไหนที่เราประทับใจเป็นพิเศษไหมในหนังเรื่องนี้
T.สำหรับฉากที่ประทับใจอีกฉาก ก็คือฉากที่ถูกน้ำตาลบอกเลิก ในเรื่องใบหม่อนจะมีแฟนเป็นผู้หญิงแล้วเขาก็บอกเลิกเรา ซึ่งประทับใจมากๆ เพราะคิดว่ามันเป็นการแสดงที่ค่อนข้างท้าทาย เหมือนกับเราได้แสดงความสามารถในการแสดงของตัวเรา นั่นก็คือบทอกหัก บทโดนบอกเลิกโดนทิ้ง ซึ่งไม่ใช่เป็นผู้หญิงโดนผู้ชายทิ้งด้วย แต่เป็นผู้หญิงที่โดนผู้หญิงทิ้ง โอ้! เป็นอะไรที่เท็นคิดว่ามันยากนะ จะเล่นยังไงดี แต่สุดท้ายก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี อีกอย่างเท็นก็รู้สึกอินจริงๆ ด้วย ส่วนหนึ่งเพราะสถานที่มันเป็นใจ วิวของฉากนี้สวยมาก ทำให้เรารู้สึกว่าโรแมนติกก็ได้ เศร้าก็ได้ในฉากนี้ เลยรู้สึกเหมือนอกหักจริงๆ เลย
Q.ให้พูดถึงเพื่อนในกลุ่มฮะเก๋าหน่อย เป็นยังไง แสบ ซน กันขนาดไหน
T.กลุ่มเพื่อนจะมีกันอยู่ 5 คน ถ้ารวมเท็นก็จะเป็น 6 คน ในกลุ่มนี้จะเป็นผู้ชายทั้งหมด ก็จะมีออกแนวเป็นผู้หญิงไม่จริงคนหนึ่ง ตัวเท็นเองก็รับบทเป็นทอมซึ่งก็ห้าวๆ คือในกลุ่มนี้เพื่อนมันรักกันแบบไม่มีจำกัดเพศ รักกันเพราะนิสัยเข้ากันได้ ไปไหนมาไหนด้วยกันได้ เราทุกข์เราสุขด้วยกัน เรากินนอนอยู่ด้วยกัน คืออย่างตอนที่ใบหม่อนโดนคนรุมทำร้ายอย่างนี้ ทุกคนก็มาช่วยแล้วก็วิ่งหนีด้วยกัน ก็เป็นฉากที่สนุกมาก เคยวิ่งไปชนตรอกในซอยเล็ก ๆ วิ่งแล้ววิ่งอีก แล้วทุกคนก็เหนื่อยเหงื่อนี่ซกไปหมด ก็ขำดี
Q.ร่วมงานกับเพื่อนๆที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่เหมือนกันหมดเลยเป็นอย่างไรบ้าง
T.ก็สนุกดีคะ คือเราก็ work shop ด้วยกันมานานพอสมควร ก็เลยเริ่มสนิทกันเหมือนเพื่อนจริงๆ ทำให้เวลาเข้าฉากง่ายขึ้น การทำอารมณ์เพื่อนก็ง่ายขึ้น ที่รู้สึกประทับใจก็จะเป็นเพื่อนในกลุ่มที่ชื่อว่าพี่โข่ง(เฉลิม ผู้ช่วยพิธีกรของหม่ำ จ๊กมกในรายการหม่ำโชว์) ซึ่งเขาเป็นคนที่ฮามาก ด้วยหน้าตาของเขาด้วย ซึ่งบางฉากเขาก็ต้องทำอารมณ์เศร้า พอเราเห็นหน้าเขา เราก็จะเริ่มไม่มีสมาธิ อยากจะหัวเราะจะแย่อยู่แล้ว แต่เราเราก็ต้องพยายามมีสติ มีสมาธิกับการอยู่ในบทของเรา เลยรู้สึกว่าเขาเก่งมาก ที่สามารถเล่นได้ หน้าตายมาก เป็นบทเศร้าแต่หน้าแกก็ยังไม่หลุดความขำ”
Qcล้วกับพระเอกของเรื่องอย่างแตงโมร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง
T.กับพี่แตงโม ก็สนิทกัน เท็นว่าเขาเป็นคนเพี้ยนๆนะ(หัวเราะ) บางวันเขาคิดจะเฮฮา เขาก็เฮฮาทั้งวันเลย วันไหนเขาจะเงียบ เขาก็เงียบทั้งวันเลย ดูแล้วก็ตลกดี ก็สนิทสนมกัน มีอะไรก็จะปรึกษากันก็คุยกัน โดยเฉพาะเวลาซ้อมบทกัน เขาจะขยันมาก จะซ้อมหลายรอบ เขาก็จะบอกว่าซ้อมอีกที ไม่แม่นว่ะ เขาจะเป็นคนที่จำบทไม่ได้ ต้องซ้อมอย่างน้อย 6 รอบขึ้นไป
Q.ในเรื่องต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กกันกับแตงโมรึเปล่า
T.มันก็จะเป็นกุ๊กกิ๊กแบบเพื่อนคะ คือเหมือนกับเพื่อนปลอบใจเพื่อนมากกว่า อย่างตอนที่ใบหม่อนอกหักก็จะมีกอดคอกัน แล้วก็จะมีซีนน้อยใจ ซึ่งเท็นว่ามันยากนะ ตอนนั้นก็มีฝนตกด้วย มันเป็นอารมณ์แบบว่า พี่แตงโมไม่ได้ลืมวันเกิดเรา แต่เราเข้าใจว่าเขาลืมวันเกิดเรา แล้วเขาก็เอาของมา happy birthday เราทีหลังสุด คือว่ามาช้า เราก็เลยน้อยใจคือตัดเพื่อนเลย ไม่ยุ่งแล้ว ซึ่งความยากมันอยู่ที่ว่าต้องทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนที่รักกันมานานมากๆ รักแบบแฟนๆไปแล้ว แต่เพื่อนยังไม่รู้ตัว แต่เราต้องตัดความสัมพันธ์ของเรากับเขาออกไป มันก็เป็นการทำอารมณ์ที่ยาก แล้วพี่แตงโมเขาก็ใส่อารมณ์เหมือนกันตอนที่มองหน้าเขา
Q.นอกจากเรื่องราวที่เกี่ยวกับมิตรภาพของเพื่อนแล้ว ตัวหนังฮะเก๋าบอกยังพูดถึงเรื่องราวอะไร
T.ก็จะเป็นเรื่อราวเกี่ยวความรักในครอบครัว ต้องบอกก่อนว่า ตัวใบหม่อนเองเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก แล้วก็ต้องอยู่กับคุณน้าอสุนีซึ่งรับบทโดยพี่หม่ำ พี่หม่ำจะคอยดูแลไม่ให้ขาดเหลืออะไร ให้ความรักกับใบหม่อน คอยเป็นห่วงเป็นใย เขาก็จะชอบมาแหย่ว่า เฮ้ย..เมื่อไหร่แกจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงสักทีวะ คือเขาก็อยากให้ไอ้หลานคนนี้เดินตามเพศตัวเอง แต่มันก็ไม่เป็นสักที ก็เลยพยายามหาวิธีทำให้พระเอกมาชอบ จะทำให้ตัวใบหม่อนเปลี่ยนเป็นผู้หญิงให้ได้ ก็คือน้าจะมีความเป็นห่วงหลาน คือพูดง่ายๆว่า ใบหม่อนเป็นเด็กที่ไม่ขาดความอบอุ่นเลยสำหรับในครอบครัวนะคะ
ในครอบครัวของใบหม่อนก็จะมีน้องชายอีกคนชื่อ “บ๊วย” รับบทโดย “มะตูม” คือในฉากเขาจะเป็นน้องชายที่สนิทกับใบหม่อน แม้กระทั่งตอนเราอกหัก ไอ้น้องชายคนนี้ก็มานั่งดูเรา คอยปลอบใจเรา มาเล่นกับเรา ซึ่งนอกฉากเราก็จะสนิทกันเหมือนน้องชายกับพี่สาวจริงๆ ก็เลยทำให้เวลาเข้าฉากมันง่ายขึ้น คือเรารู้สึกว่าเขาเป็นน้องจริงๆ ซึ่งความรักทั้งจากของน้าและน้องชายของเราก็สามารถเติมเต็มให้หม่อนมัน happy มันมีความสุขกับครอบครัว กับการใช้ชีวิตที่ผ่านมากว่า 20 กว่าปี ซึ่งในบทก็สรุปแล้วในสิ่งที่เท็นได้จากหนังเรื่องนี้นะ คือรู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะอยู่กับเราก็คือ ความรัก ความเข้าใจของคนในครอบครัว
Q.การได้ร่วมงานกับผู้กำกับเป็นอย่างไรบ้าง
T.จริงๆแล้วนี่เป็นหนังเรื่องแรกของเท็นและพี่เปิ้ล เราเริ่มทำงานร่วมกันตั้งแต่ตอนทำ work shop ซึ่งสิ่งที่เท็นได้เห็นก็คือพี่เปิ้ลเป็นคนเอาจริงเอาจังกับงานมาก คือตรงนี้ยังไม่ได้ เอาอีกหน่อยนะ เขาก็จะเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเยอะมาก คือเขาจะเป็นแบบมาดนิ่งๆ ขรึมๆ เดินเข้ามา เราก็จะกลัวแล้ว แต่เวลาพูดเขาก็จะ เออ น้องเท็นจ้ะ เดี๋ยวขอฉากแบบนี้ๆนะจ้ะ อย่างนี้ คือเขาค่อยๆพูด เราเลยรู้สึกว่าเราไม่ค่อยเครียด รู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้ไม่ได้ดุจนน่ากลัว ซึ่งเราเองที่รู้สึกพะวงกับบทมากเกินไป ก็รู้สึกประทับใจในความใจดีแบบนิ่งๆค่ะ เวลาที่เราเล่นแล้ว take บ่อยอย่างนี้ เขาจะไม่ว่า ไม่ดุ เรา เขาก็จะ เออ เท็นจ้ะ เดี๋ยวฉากนี้พี่ขออีกนิดนึง คือแบบว่าเขาเป็นคนใจเย็น น่ารักมาก”
Q.มีอุปสรรคอะไนในระหว่างการทำงานบ้างไหม
T.อย่างที่บอกคือ เราก็ค่อนข้างใหม่ แต่ด้วยความที่ทุกคนช่วยกัน ทั้งพี่ทีมงาน พี่ผู้กำกับ นักแสดงทุกคน มีความตั้งใจ และเราก็ตั้งใจมากเหมือนกัน ทุกอย่างมันเลยผ่านไปด้วยดี มีติดอยู่อย่างหนึ่ง คือกลัวว่าหลังจากหนังออกมาแล้ว กลัวว่าคนจะติดลุคส์คาแรกเตอร์ที่เป็นทอม คือถ้าหลังจากนี้เราไปแสดงหนังคาแรคเตอร์ที่เป็นผู้หญิง แล้วจะเป็นยังไง คนจะเชื่อไหม แล้วก็กลัวว่าคนจะมาถามว่า เฮ้ย...เราเป็นทอมจริงรึเปล่า (หัวเราะ) เพราะลุคส์ส่วนตัวของเราก็คล้ายๆ อยู่เหมือนกัน
Q.คิดว่าภาพยนตร์เรื่อง “ฮะเก๋า” บอกอะไรกับคนดู
T.สำหรับภาพยนตร์เรื่องฮะเก๋า อย่างแรกได้เรื่องของครอบครัว ซึ่งตัวใบหม่อนในเรื่องจะไม่มีพ่อแม่ พ่อแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก ก็มันทำให้รู้ว่าคนๆหนึ่งในครอบครัวเราที่ไม่ใช่พ่อแม่เขาก็สามารถเติมเต็มให้เราได้ ก็แสดงความสัมพันธ์ในครอบครัว อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องเพื่อน เป็นอะไรที่คนเราไม่จำเป็นต้องแยกเพศหรือผิดเพศหรือจะถูกเพศ ยังไงก็เป็นเพื่อนกันได้ อยู่ที่ว่าเราจะเข้าใจกันหรอเปล่า เพื่อนเป็นมิตรภาพที่สำคัญที่สุด”
Q.อยากฝากอะไรถึงภาพยนตร์เรื่องฮะเก๋า
T.ก็สำหรับภาพยนตร์เรื่องฮะเก๋า เท็นก็อยากฝากผู้ชมหลายๆท่านว่า เราตั้งใจทำงานนี้มาก รวมทั้งทีมงานทุกคน แม้ว่าตัวเท็นและนักแสดงอีกหลายคนจะหน้าใหม่ แต่เราก็เต็มที่กับหนังเรื่องนี้จริงๆ เราจะได้เห็นบรรยากาศอบอุ่นๆ ระหว่างเพื่อน ระหว่างครอบครัว ที่สำคัญได้ความบันเทิงสนุกสนานกลับไปอย่างแน่นอน