กรุงไทยโกลบอลเทรเชอรี่ผลตอบแทนเร้าใจ เปิดขายรอบใหม่พร้อมตราสารหนี้ในประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 3, 2008 09:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--บลจ.กรุงไทย
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยโกลบอล เทรเชอรี่ ฟันด์1 (KTGT1) ในวันที่ 3 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป หลังจากที่เปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก(IPO) เมื่อวันที่ 7 - 20 พฤษภาคม 2551 โดยกองทุนสามารถระดมเงินลงทุนได้ประมาณ 51 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะไม่สูงมากนัก แต่ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งนับจากนี้บริษัทจะเร่งขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ส่งลูกไปเรียนต่อในประเทศอังกฤษ กลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินปอนด์ ซึ่งสามารถนำเงินมาลงทุนในระยะสั้นได้ โดยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการฝากเงินในประเทศ
กองทุนนี้ มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Dollar Fund หรือ Sterling Fund หรือ Euro Fund ประเภทกองทุน รวมตลาดเงิน ภายใต้ Global Treasury Funds ที่บริหารกองทุนโดย RBS Asset management (Dublin) Limited โดยกองทุนจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในเบื้องต้นจะเน้นลงทุนใน Sterling Fund ซึ่งหลังจากได้ปิดจำหน่าย IPO และนำเงินไปลงทุนในกองทุนGlobal Treasury Fundsในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลตอบแทนโดยประมาณอยู่ที่ 5.50-5.65% ต่อปี ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน
สำหรับสถานการณ์ตลาดเงินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมีการแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ โดยค่าเงินปอนด์มีการอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่ค่าเงินบาทมีการอ่อนค่าลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยการอ่อนค่าลงตามภาวะตลาดเงินในต่างประเทศ
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ จากวันที่กองทุนเริ่มลงทุนในวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 63.6057 บาทต่อปอนด์ และในวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 64.1780 บาท ส่งผลให้กองทุนได้รับส่วนต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 0.5723 บาท หรือประมาณ 0.90% กองทุนนี้เป็นกองทุนต่างประเทศที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายค่อนข้างสูง สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่เวลาเปิดทำการ ถึง 14.00 น. ของทุกวันทำการที่ 2 ของสัปดาห์ มูลค่าขั้นต่ำในการลงทุน 10,000 บาท ขึ้นไป
นายธีรพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทยังเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น 38 ( KT3M38) ในระหว่างวันที่ 3-9 มิถุนายน 2551 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุ 3 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือ บัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบัตรเงินฝาก ที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารข้างต้นเพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และต้องการลงทุนในกองทุนที่คุ้มครองเงินต้น พร้อมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3.10% ต่อปี ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน โดยปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารประจำ3 เดือนอยู่ที่ 2.00% ต่อปี และต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 15%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณแสงสิริ เนตรอัมพร /สำนักประชาสัมพันธ์
โทร0-2670-4900 ต่อ 1235 /085-1800-441

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ