กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เยาวชนเมืองตรัง ประเดิมชัยชนะบนเวทีการประกวด “แฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย” ครั้งที่ 13 เขตภาคใต้ กับโครงการชื่อ “สร้างเครือข่ายส่งเสริมการบริโภคข้าวซ้อมมือเพื่อสุขภาพของคนในชุมชน” ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนชาวใต้นับร้อย ณ ห้างโอเดียน ช้อปปิ้งมอลล์ หาดใหญ่ จ.สงขลา
โครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดโดย บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด และ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) ได้เริ่มจัดการแข่งขันรอบสุดท้ายแล้วโดยเวทีแรก ประเดิมที่ภาคใต้อย่างมีสีสัน โดยเหล่าบรรดาเยาวชนจากจังหวัดในเขตภาคใต้จำนวน 10 โรงเรียนที่เข้ารอบสุดท้าย ได้ร่วมกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ รวมถึงการเข้าร่วม กิจกรรม “3 ประสาน” โดยความร่วมมือจาก 3 หน่วยงาน คือ โครงการแฟนต้ายุวทูตฯ เทศบาลเมืองคลองแห และโอเดียน ช้อปปิ้งมอลล์ หาดใหญ่ ซึ่งน้องๆ ได้รับฟังการบรรยายจากรุ่นพี่ (วัยแค่ ม.4-6) ที่เป็นสมาชิกเครือข่ายคลองอู่ตะเภา ของกลุ่มต้นกล้าเพื่อการอนุรักษ์คลองอู่ตะเภา บริเวณเทศบาลเมืองคลองแห ณ วัดคลองแห พร้อมทั้งมีโอกาสได้ร่วมทดสอบคุณภาพน้ำในคลองแห ซึ่งปรากฏว่าสภาพน้ำมีแนวโน้มดีขึ้น เพราะกลุ่มต้นกล้าเพื่อการอนุรักษ์คลองอู่ตะเภา ได้ร่วมกันพัฒนาน้ำให้อยู่ในสภาพดีขึ้น ด้วยการโยน EM ball ซึ่งเป็นก้อนดินกลมๆ ที่มีส่วนผสมของสารที่จะช่วยทำให้น้ำในคลองสะอาดมากยิ่งขึ้น และน้องๆ ที่เข้าร่วมประกวดโครงการแฟนต้ายุวทูตฯ ก็ได้ร่วมกันโยน EM ball อย่างขะมักเขม้นและให้ความสนใจซักถามข้อมูลจากพี่ๆ ด้วยความตั้งอกตั้งใจอีกด้วย
และช่วงสำคัญของการประกวดแฟนต้ายุวทูตฯ ในปีนี้ คือการนำเสนอโครงการสร้างสรรค์ ที่คิดแล้วทำ เพื่อท้องถิ่นไทย เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นของชุมชน ภายใต้ แนวคิด “รักษ์โลก รักถิ่นกำเนิด” ซึ่งผลการตัดสินจากคณะกรรมการ ปรากฏว่า โครงการ “สร้างเครือข่ายส่งเสริมการบริโภคข้าวซ้อมมือเพื่อสุขภาพของคนในชุมชน” ของ โรงเรียนบูรณะรำลึก จ.ตรัง นำโดยสมาชิกหนุ่มน้อย 3 คน คือ น้องเกมส์ ศุภวิชญ์ ตันติมาภรณ์ น้องบอล ศุภณัฐ บรรจงธุระการ และน้องนัท สืบสกุล ทวิสุวรรณ ต่างมีบุคลิกและความพร้อมสูงสุด สมกับตำแหน่ง “แฟนต้ายุวทูต” ประจำปีนี้ คว้าถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทุนการศึกษา และได้ร่วมเดินทางทัศนศึกษาในแบบโฮมสเตย์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
ผศ.เฉลิมพล ดาวเรือง ประธานกรรมการตัดสิน โครงการฯ กล่าวถึงชัยชนะของเยาวชนทั้ง 3 ว่า ทีมจากโรงเรียนบูรณะรำลึก จ.ตรัง มีควมพร้อมที่สุดในบรรดา 10 โรงเรียนที่เข้าร่วมประกวด ซึ่งเกณฑ์ที่ใช้ในการประกวดนั้น พิจารณาหลักๆ 4 ด้านด้วยกัน คือ การสัมภาษณ์บนเวที การแสดงความคิดเห็น การแสดงเชิงสร้างสรรค์ และวุฒิภาวะความพร้อมของเด็กๆ ซึ่งโครงการ “สร้างเครือข่ายส่งเสริมการบริโภคข้าวซ้อมมือเพื่อสุขภาพของคนในชุมชน” ของเยาวชนกลุ่มนี้ สามารถผูกเรื่องและสื่อความหมายได้ชัดเจนที่สุด มีมู้ฟเม้นต์ และมีความหลากหลายของการแสดง
น้องเกมส์ ศุภวิชญ์ น้องบอล ศุภณัฐ และน้องนัท สืบสกุล ผู้คว้าชัยชนะครั้งนี้ กล่าวด้วยน้ำเสียงดีใจว่า “รางวัลนี้ ถือเป็นรางวัลที่สูงสุดที่พวกเราเคยได้รับในชีวิต และคุ้มค่ากับการอดทนในการมุมานะมานานเกือบ 1 ปี ซึ่งเคล็ดลับความสำเร็จนั้น คือ ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว กำลังใจจากผู้ปกครองและคุณครู” โครงการสร้างเครือข่ายส่งเสริมการบริโภคข้าวซ้อมมือเพื่อสุขภาพของคนในชุมชน เป็นโครงการที่ได้บอกกระบวนการสีข้าวในโรงงาน เปรียบเทียบกับการผลิตข้าวซ้อมมือในชุมชนกลุ่มตัวอย่าง ในอำเภอนาโยง จ.ตรัง ซึ่งน้องๆ ได้อธิบายถึงคุณประโยชน์ของการรับประทานข้าวซ้อมมือ อันได้แก่ ทำให้ปลอดจากโรคเหน็บชา เพราะคุณค่าของวิตามินบี 1 ระบบขับถ่ายดี ช่วยบำรุงสายตา เสริมธาตุเหล็กสำหรับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับเลือดได้เป็นอย่างดี และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกายได้อย่างเห็นผลอีกด้วย น้องเกมส์ ศุภวิชญ์ ยังอยากบอกให้คนไทยอีกหลายคนทราบด้วยว่า “ถึงแม้ราคาข้าวซ้อมมือจะสูงกว่าข้าวขัดสีแล้วนิดหน่อย แต่คุณค่าจากข้าวซ้อมมือนั้นมีประโยชน์มหาศาลนับค่าไม่ได้ และยังอยากให้คนรุ่นใหม่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย โดยหันมากินข้าวซ้อมมือกันให้มากขึ้น” ส่วนน้องนัท สืบสกุล ผู้เป็นแรงผลักดันให้เกิดโครงการส่งเสริมการบริโภคข้าวซ้อมมือฯ ครั้งนี้ เล่าว่า “เพราะคุณพ่อ ปัจจุบันเป็นโรคมะเร็ง เม็ดเลือดขาว มานานกว่า 6 ปี คุณหมอแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คุณแม่จึงหันมาหุงข้าวซ้อมมือให้สมาชิกในบ้านรับประทาน พร้อมกับเลิกซื้ออาหารสำเร็จรูปหรืออาหารถุง และเปลี่ยนเป็นการปรุงอาหารสุกๆ ใหม่ เพื่อคุณค่าทางอาหาร และเป็นการบำบัดด้วยวิธีทางธรรมชาติที่ดีที่สุด”
อนึ่ง โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมของเยาวชนจากจังหวัดทางภาคใต้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย โครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทยนั้น ยังมีอีกหลายโครงการที่น่าสนใจ และน้องๆ ก็พร้อมที่จะนำไปสานต่อให้เป็นรูปร่างเพื่อประโยชน์ต่อชุมชน ซึ่งโครงการเหล่านั้น ได้แก่ โครงการเงินทองในกองขยะเพื่อการออมทรัพย์ ผลงานของกลุ่มนักเรียน โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช, โครงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างพอเพียง โดยกลุ่มเยาวชน
โรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี จ.นราธิวาส นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อินเทรนด์อย่าง โครงการใส่ใจภาวะโลกร้อนด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ของ โรงเรียนดรุณศึกษา จ.นครศรีธรรมราช, โครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ ของ โรงเรียนเทศบาล 1 (แตงอ่อนเผดิมวิทยา) จ.สุราษฎร์ธานี โครงการที่อยู่ในข่ายอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เช่น โครงการสืบสานงานศิลป์เพื่อท้องถิ่น โรงเรียนธรรมโฆษิต จ.สงขลา, โครงการจัดตั้งมโนราห์ ของ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ พัทลุง จ.พัทลุง และโครงการเพื่อชุมชนและท้องถิ่นอย่างแท้จริง เช่น โครงการเพื่อท้องถิ่นไทย ของ โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย จ.ภูเก็ต, โครงการ 80 พรรษาปลูกหญ้าแฝกสู่ดินถิ่นแดนเกิด จาก โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” จ.สงขลา, โครงการสื่อศิลป์ถิ่นใต้ต้านภัยยาเสพติด ของ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา
สำหรับการประกวดโครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย รอบชิงชนะเลิศ ภาคอื่นๆ กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ เขตกรุงเทพฯ, ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคเหนือ และภาคตะวันออก ซึ่งน้องๆ ทั้งสามคนนี้ จึงเป็นสมาชิกใหม่ของ แฟนต้ายุวทูตฯ ประจำปีนี้ 3 คนแรก และเมื่อครบทั้ง 6 ภาค รวมกรุงเทพฯ แล้ว จะได้ผู้ครองตำแหน่ง “แฟนต้ายุวทูต” รวม 18 คน เพื่อเดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรรมไทย และทัศนศึกษาโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ประสพผลสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น พร้อมพักอาศัยในแบบโฮมสเตย์ และเรียนรู้วัฒนธรรมกับพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นด้วย ในราวเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณอนุศักดิ์