กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--รี้ด เทรดเด็กซ์
จับตางาน "JUNE CLUSTER" ปลุกวงการอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนร่วมงาน ตั้งเป้ามีผู้สนใจงานมากกว่า 45,000 คน คาดเกิดเงินสะพัดกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท นางนิชาภา ยศวีร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เปิดเผยถึงการเตรียมจัดงาน "JUNE CLUSTER" มหกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีขึ้นระหว่างวันที่19 -22 มิถุนายน 2551 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ว่า เป็นงานโชว์เทคโนโลยีด้านชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบวงจร เสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์-ชิ้นส่วนและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้ก้าวหน้า และสร้างแรงผลักดันภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวไปยังเป้าหมาย ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย ตลอดจนความรู้และกิจกรรมเสริมสร้างทักษะ โดยบริษัทที่เข้าร่วมจัดแสดงในงาน ได้ผ่านการคัดเลือกเพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปต์การจัดงาน โดยภายในงาน JUNE CLUSTER แบ่งออกเป็น 4 ส่วนแสดงเทคโนโลยีหลัก คือ 1.เทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ 2.การผลิตพลาสติก 3.การผลิตแม่พิมพ์การขึ้นรูป 4.เทคโนโลยี ออโตเมชัน การควบคุมการผลิตอัตโนมัติ ซึ่งเสริมอุตสาหกรรมครบวงจร สำหรับปีนี้มีบริษัทผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 400 บริษัท จาก 20 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตคนไทย 70% และอีก 30% เป็นบริษัทของต่างชาติ ทั้งจากเยอรมนี สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน ฯลฯ บนพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นอีก 30% จากปีที่แล้ว หรือกว่า 20,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 45,000 คน จะเกิดเงินสะพัดกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท "โดยงาน JUNE CLUSTER จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ไทย โดยเฉพาะนักอุตสาหกรรมในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ดมุ่งยุทธศาสตร์เชิงรุกในการร่วมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของเอเชีย จะเป็นงานที่ครอบคลุมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ทั้งในส่วนของเครื่องจักรเพื่อการผลิตพลาสติก, การใช้แม่พิมพ์การขึ้นรูป และเทคโนโลยีออโตเมชัน การควบคุมการผลิตอัตโนมัติ เพื่อเสริมศักยภาพการผลิต เป็นคลัสเตอร์โชว์ที่ครบวงจรและเป็นเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาค" สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และ ชิ้นส่วนยานยนต์ไทยที่ผ่านมามีแนวโน้มและเติบโตต่อเนื่อง ทั้งจากการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการส่งออกของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ทั้งโตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ ประกอบกับนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco car) ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 6.8 หมื่นล้านบาท จะส่งผลให้เกิดการลงทุนในกลุ่มผลิตอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2556 ทั้งนี้ ผลของ Eco Car จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ขยายกำลังการผลิต จาก ณ ปัจจุบัน 1.28 ล้านคันต่อปี เป็น 1.97 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2015