บลจ.กรุงไทยเพิ่มทางเลือกลงทุนในประเทศ. เปิดขายตราสารหนี้6เดือนจ่ายสูงกว่าเงินฝาก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 5, 2008 11:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--บลจ.กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน34 (KTST6M34) ในระหว่างวันที่ 5 - 11 มิถุนายน 2551 มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุโครงการ 6 เดือน ซึ่งในขณะนี้บริษัทก็อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น 38 ( KT3M38) ในระหว่างวันที่ 3-9 มิถุนายน 2551 อายุโครงการ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนจะได้ลงทุนตามความเหมาะสมของตนเอง
กองทุน KTST6M34 เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน แต่ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุน ในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน
ส่วนกองทุน KT3M38 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือ บัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบัตรเงินฝาก ที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารข้างต้นเพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และต้องการลงทุนในกองทุนที่คุ้มครองเงินต้น
โดยทั้ง2กองทุน มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ โดย ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารประจำ3 เดือน และ6เดือนอยู่ที่ 2.00% ต่อปี และถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 15% ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ KTAM SMART PLAN 0-2670-4999
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณแสงสิริ เนตรอัมพร / สำนักประชาสัมพันธ์
โทร 0-2670-4900 ต่อ 1235 หรือ 085-1800-441

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ