- ทุ่มทุนกว่า 5 พันล้านบาท พัฒนาไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์แห่งใหม่บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ทางตอนบนของเชียงใหม่
- ชูคอนเซ็ปต์ LEED หรือ Leadership in Energy & Environmental Design ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบโครงการ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกของประเทศไทย แถลงข่าวเปิดตัวโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ 2 บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ทางตอนบนของเชียงใหม่ เพื่อต่อยอดฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น และลูกค้ากลุ่มครอบครัว รวมถึงนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ หวังผลักดันให้เชียงใหม่เป็น Lifestyle Hub แห่งใหม่ของภาคเหนือ
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ซีพีเอ็นเชื่อมั่นในศักยภาพของเชียงใหม่ เนื่องจากเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางความเจริญ และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน ประชากรในเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงเริ่มมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามเทรนด์ urbanization ซึ่งเหมาะกับการพัฒนาศูนย์การค้า เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นศูนย์กลางชุมชนแห่งใหม่ ซีพีเอ็นจึงได้ลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท พัฒนาไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์แห่งใหม่บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ทางตอนบนของเชียงใหม่ หวังผลักดันให้เป็น Lifestyle Hub แห่งใหม่ของภาคเหนือ ที่ลูกค้าจะสามารถมาอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ ได้ไม่แพ้ที่กรุงเทพฯ เป็นศูนย์การค้าที่มีบริการครบครันในที่เดียวสามารถทำได้ทุกอย่างในคอนเซ็ปต์ของ One-Stop Lifestyle โดยจะมุ่งให้ความสำคัญต่อกิจกรรมประจำวันของลูกค้า ทั้ง Shopping, Dining, Entertainment, Services และ Leisure”
เชียงใหม่เป็นเมืองหลวงที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคเหนือ เป็นศูนย์กลางการศึกษา, ธุรกิจ, ศูนย์ราชการ และการท่องเที่ยว มีผู้อยู่อาศัยกว่า 1.6 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนในปี 2550 ปัจจุบัน เชียงใหม่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อยู่ 2 แห่ง ขณะที่กรุงเทพฯ มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อยู่กว่า 34 แห่ง เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ แล้ว จะเห็นได้ว่าเชียงใหม่ยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวได้อีกมาก
ซีพีเอ็นเล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่บริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ของเชียงใหม่ที่เป็นแยกเชื่อมจากถนนใจกลางเมืองสู่ชุมชนทางตอนเหนือและจังหวัดต่างๆ โดยรอบ ซึ่งมีความสะดวกสบายในการเดินทางสัญจร และมีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค นอกจากนี้ ยังเป็นทำเลที่พักอาศัยระดับบนจำนวนมาก และเป็นทำเลค้าปลีกซึ่งมีไฮเปอร์มาร์เก็ต อาทิ Big C, Tesco Lotus, Carrefour และ Makro อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จากผลการศึกษาถึงอนาคตและแนวทางการเติบโตของชุมชน ซีพีเอ็นจึงมีความตั้งใจที่จะเข้าไปพัฒนาโครงการศูนย์การค้าให้มีความสมบูรณ์แบบและทันสมัย เพื่อรองรับและส่งเสริมความเจริญในพื้นที่อย่างยั่งยืนสืบไป
ด้านนางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้าง กล่าวว่า “โครงการใหม่นี้ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ติดกับถนนดอยสะเก็ด บนที่ดินขนาด 70 ไร่ เป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีพื้นที่โครงการประมาณ 250,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่ด้านทิศเหนือและตะวันออกของตัวเมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ท็อปส์ มาร์เก็ต, พาวเวอร์บาย, ออฟฟิศดีโป, บีทูเอส, ซูเปอร์สปอร์ต, ฟิตเนส, ศูนย์รวมกิจกรรมเพื่อความบันเทิง, โรงภาพยนตร์ และร้านค้าปลีกชั้นนำกว่า 200 ร้านค้า”
ซีพีเอ็นจะพัฒนาโครงการให้มีความสมบูรณ์และทันสมัย เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกันของทุกคนในครอบครัว การออกแบบจะเน้นให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและสวยงาม เหมาะสมกับพื้นที่ และประโยชน์ใช้สอยต่างๆ บรรยากาศภายในและภายนอกศูนย์ฯ จะอยู่ในรูปแบบ “โมเดิร์น ล้านนา” ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ โดยมีกลิ่นอายของศิลปะและวัฒนธรรมทางภาคเหนือแฝงอยู่ในความล้ำสมัยของโครงการ
ทั้งนี้ นางสาววัลยา กล่าวเสริมว่า “ซีพีเอ็นให้ความสำคัญเรื่องการประหยัดพลังงานและการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่นี้ เราจะนำนวัตกรรมด้านการออกแบบภายใต้แนวคิด Leadership in Energy & Environmental Design หรือ LEED ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของการพัฒนาศูนย์การค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกามาใช้ โดยจะเน้นการออกแบบตัวอาคารให้สามารถใช้แสงธรรมชาติได้มากขึ้น เพื่อช่วยเรื่องการประหยัดพลังงาน มีการนำวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ และเพิ่มสัดส่วนพื้นที่สีเขียวในศูนย์การค้าให้มากขึ้นด้วย”
นายกอบชัย กล่าวสรุปว่า “ซีพีเอ็นมี Brand Promise คือ Rewarding Experience เราต้องการมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับสังคมและลูกค้าที่มาช้อปปิ้งในศูนย์การค้าของเรา การพัฒนาโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่จะสร้างโอกาสและอาชีพ รวมถึงนำความเจริญมาสู่ชุมชน ซีพีเอ็นเชื่อมั่นอย่างยิ่ง ว่าโครงการเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ 2 จะเป็นศูนย์การค้าที่สมบูรณ์แบบ เป็น Lifestyle Hub ที่ลูกค้าสามารถมาอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ ได้เทียบเท่ากับที่กรุงเทพฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด”
ปัจจุบัน ซีพีเอ็นบริหารศูนย์การค้ารวม 10 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3, เซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา, เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, เซ็นทรัล เซ็นเตอร์ พัทยา และเซ็น ทรัลเวิลด์ ซีพีเอ็นตั้งเป้าที่จะเปิดศูนย์การค้าใหม่อีก 8 ศูนย์ฯ ภายในปี 2553 รวมเป็น 18 แห่ง ซึ่งโครงการใหม่ที่ได้ประกาศเปิดตัวไปแล้ว ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ,เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช,เซ็นทรัล พลาซา ชลบุรี, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น และเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ 2
โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ 2
ซีพีเอ็นเตรียมผลักดันเชียงใหม่ให้เป็น Lifestyle Hubแห่งใหม่ของภาคเหนือ เนื่องจากเชียงใหม่เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคเหนือ เป็นศูนย์กลางของการศึกษา,ธุรกิจ,ศูนย์ราชการ และการท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก
จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่จริง
5.6 ล้านคน
ประมาณ 10 ล้านคน
ประมาณ 2.5 ล้านคน
คาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.7 ล้านคน
ในปี 2553
รายละเอียดโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่
- ผู้อยู่อาศัยกว่า 3.6 ล้านคน ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง
- นักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคน ต่อปี ในปี 2550 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.7 ล้านคนในปี 2553- ธนาคารพาณิชย์ 153 สาขา , โรงพยาบาล 14 แห่ง, หน่วยราชการในเมือง 12 หน่วยงาน และหน่วยราชการส่วนภูมิภาคอีก 40 หน่วยงาน
- มหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันระดับอุดมศึกษาทั้งหมด 9 แห่ง
- ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เฉพาะประเภท
- ร้านค้าปลีกชั้นนำกว่า 200 ร้านค้า
- ศูนย์รวมกิจกรรมเพื่อความบันเทิง
บริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงชื่อศูนย์ฯ ตามความเหมาะสม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ศกร ทวีสิน โทร. 0-2667-5555 ต่อ 4107 โทรสาร 0-2264-5575
Website: