กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน วางแผน Roadmap NGV ตั้งเป้าทดแทนน้ำมันในภาคขนส่ง 20% ภายในปี 2555 คาดว่าทดแทนการนำเข้าน้ำมันภาคขนส่งสะสมได้กว่า 2 แสนล้านบาท พร้อมบูมปั๊ม NGV ทั่วถึงทั่วไทย 1 จังหวัด 1 สถานี ภายในปี 2552 และสร้างท่อก๊าซ 3 สาย เหนือ ใต้ อีสาน มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้าน เพื่อกระจายการใช้ NGV ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
พลโท หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานตั้งเป้าหมายการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (NGV) เพื่อทดแทนการใช้น้ำมันในภาคขนส่งให้ได้ 20% ภายในปี 2555 โดยจะเพิ่มการใช้ NGV จากปัจจุบัน 1,670 ตันต่อวัน เพิ่มเป็น 12,220 ตันต่อวันภายในปี 2555 ซึ่งการจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ กระทรวงพลังงานได้จัดทำ NGV Roadmap ตั้งแต่ปี 2551-2555 ดังนี้
การขยายสถานีบริการ ตามโครงการ “NGV ทั่วถึงทั่วไทย” ภายในปี 2552 กระทรวงพลังงานกำหนดให้มีสถานี NGV ครบทุกจังหวัดภายในปี 2552 จากปัจจุบันมีจังหวัดที่มีปั๊ม NGV เกิดขึ้นแล้ว 45 จังหวัด ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานีบริการมีไม่เพียงพอ จะมีการขยายเพิ่มทั้งสถานีแม่และสถานีแนวท่อขนานกันไปตามแผน และจะทยอยเปิดสถานีรองรับกับความต้องการที่มีอยู่เดิมและที่เพิ่มขึ้นในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค
ปัจจุบัน ณ เดือนพฤษภาคม 2551 มีสถานที่เกิดขึ้นแล้ว 200 สถานี สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 355 สถานี และกำหนดเป้าหมายอีก 5 ปี ข้างหน้าในปี 2555 เพิ่มเป็น 740 สถานี
นอกจากนี้ เพื่อแก้ปัญหาการรอคอยเติมก๊าซ NGV ของกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ จะมีการเพิ่มรถขนส่งก๊าซรองรับปริมาณการใช้ก๊าซที่สูงขึ้น จาก 411 คัน เพิ่มเป็น 900 คัน ภายในปี 2551 และเพิ่มเป็น 3,150 คันภายในปี 2555 รวมถึงการแยกสถานีบริการออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้มาใช้บริการ ได้แก่ สถานีค้าปลีกทั่วไป (สำหรับผู้ใช้รถยนต์ทั่วไป) สถานีค้าปลีกขนาดใหญ่ (20-30 ตู้จ่าย สำหรับกลุ่มรถตู้ / รถแท็กซี่) และสถานีเฉพาะ Fleet รถขนาดใหญ่ กลุ่มรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะ
พลโทหญิง พูนภิรมย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ “โครงการ NGV ทั่วถึงทั่วไทย” เกิดขึ้นได้ จะมีการสร้างท่อก๊าซ 3 สาย เงินลงทุนทั้งสิ้น 51,650 ล้านบาท เพื่อกระจายการใช้ NGV ให้คลอบคลุม ทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1.ท่อสายเอเชีย (สีเหลือง) ความยาว 250 กิโลเมตร จากวังน้อยถึงนครสวรรค์เงินลงทุน 19,120 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสแรกของปี 2554 2.ท่อสายมิตรภาพ (สีแดง) ความยาว 170 กิโลเมตร จากแก่งคอยถึงนครราชสีมา เงินลงทุน 13,810 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 และ 3. ท่อสายเพชรเกษม (สีส้ม) ความยาว 270 กิโลเมตร จากราชบุรีถึงประจวบคีรีขันธ์ เงินลงทุน 18,720 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 2 ปี 2555
นอกจากนี้ เตรียมขยายจำนวนอู่ติดตั้งและดัดแปลง NGV ที่ได้มาตรฐานจากปัจจุบันที่มีจำนวน 103 สถานี เป็น 200 สถานีทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกติดตั้งได้สะดวก รวมทั้งเพิ่มหน่วยงานตรวจสอบและทดสอบรถยนต์ NGV ให้มากขึ้น จากปัจจุบัน 46 ราย เพิ่มเป็น 65 ราย ภายในปี 2552 กระทรวงพลังงานจะร่วมมือกับอาชีวศึกษา และสถานบันการศึกษาต่างๆ เพื่อพัฒนาผู้ตรวจสอบให้มากขึ้น รองรับการใช้บริการของประชาชนในอนาคต
ปัจจุบันมีผู้หันมาให้ความสนใจใช้จำนวนมาก ทั้งจำนวนรถที่ติดตั้ง และปริมาณการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น สิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 ที่ผ่านมา มีผู้ติดตั้ง NGV แล้วจำนวน 76,608 คัน ประกอบด้วย รถเบนซิน 62,833 คัน รถดีเซล 10,928 คัน และรถที่ผลิตจากโรงงาน จำนวน 2,847 คัน ซึ่งมีปริมาณการใช้ NGV ขณะนี้วันละ 57.9 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเนื่องจากราคาติดตั้งในปัจจุบันยังมีราคาสูงอยู่ กระทรวงพลังงานจึงมีการส่งเสริมการผลิตถังก๊าซ NGV และชุดอุปกรณ์ในประเทศ ซึ่งสามารถลดค่าติดตั้งได้ประมาณ 10,000 บาท
“ยืนยันว่าในเดือนกรกฎาคม 2551 การใช้ NGV จะสะดวกขึ้น รวดเร็วขึ้น โดยจะมีปั๊มให้บริการอย่างเพียงพอเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. 200 สถานี กำลังการผลิต 1,670 ตันต่อวัน เพิ่มเป็น 245 สถานีในเดือน ก.ค. มีกำลังการผลิต 2,881 ตันต่อวัน ทั้งนี้ เป้าหมายการจัดทำ NGV Roadmap ครั้งนี้ เมื่อถึงปี 2555 คาดว่า NGV จะช่วยทดแทนการการใช้น้ำมันในภาคขนส่งได้ถึง 20% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการทดแทนน้ำมันได้ถึง 94,570 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังช่วยประชาชนผู้ใช้ NGV สามารถประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิงจากการเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันมาใช้ NGV รวมกันได้ถึง 106,770 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัด NGV ไปจัดทำแผนปฏิบัติและรายละเอียดเพิ่มขึ้น รวมถึงการประสานงานกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต่อไป” พลโท หญิง พูนภิรมย์ กล่าว