กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--บอร์ดบีโอไอ
บอร์ดบีโอไอเห็นชอบเปิดให้การส่งเสริมกิจการผลิตเครื่องยนต์และอุปกรณ์ NGV กิจการการประกอบรถ NGV กิจการสถานีบริการ NGV พร้อมส่งเสริมกิจการผลิตพลังงานทดแทน คือ ก๊าซชีวมวลและเซลเชื้อเพลิง โดยจัดเป็นกิจการที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และขยายเวลาการนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ประหยัดพลังงานแก่ภาคอุตสาหกรรมไปถึงสิ้นปี 2552
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนน้ำมันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และผลักดันให้เกิดการผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์และสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ (NGV: Natural Gas for Vehicle ) รวมทั้งจูงใจให้เกิดการใช้ก๊าซ NGV ในภาคขนส่ง ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้บีโอไอเปิดให้การส่งเสริมกิจการใหม่ ประกอบด้วย 1) กิจการผลิตเครื่องยนต์ NGV และอุปกรณ์สำหรับ NGV (ถังบรรจุ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วน อุปกรณ์สำหรับยานยนต์ที่ใช้ NGV เครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับสถานีบริการ NGV) โดยกิจการนี้จัดเป็นกิจการที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด คือ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
2) กิจการประกอบรถ NGV และกิจการสถานีบริการ NGV จะให้ได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกเขตที่ตั้ง
สำหรับส่วนกิจการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นกิจการที่บีโอไอให้การส่งเสริมอยู่แล้ว ที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายขอบเขตการส่งเสริมให้ครอบคลุมกิจการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquified Natural Gas — LNG) ด้วย เพื่อส่งเสริมการขนส่งก๊าซธรรมชาติไปยังสถานีบริการ ในระยะทางไกลที่ไม่มีท่อก๊าซไปถึง และจำเป็นต้องเปลี่ยนสถานะของก๊าซธรรมชาติ (NGV) ให้เป็นของเหลว LNG) เพื่อให้สามารถบรรจุปริมาณมากกว่าในถังบรรจุที่เท่ากัน
นายสุริยะ กล่าวต่อไปว่าเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซ NGV ในภาคขนส่งมากขึ้น โดยรัฐได้ตั้งเป้าหมายว่าจะให้มีการใช้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซ NGV จำนวน119,705 คัน ภายในปี 2551 จากปัจจุบันที่มีรถที่ใช้ NGV จำนวน 4,889 คัน ดังนั้นเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง และลดการใช้น้ำมันในระยะยาว ที่ประชุมจึงเห็นควรให้มีมาตรการสนับสนุนด้านภาษีอากรเป็นการทั่วไป โดยให้ผู้ประกอบการขนส่งเปลี่ยนมาใช้รถ NGV โดยให้กระทรวงการคลังปรับลดอากร ขาเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ต้องนำเข้า เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้การส่งเสริมแก่กิจการผลิตพลังงานทดแทน 2 ประเภท คือ ก๊าซชีวมวล (Biogas) และเซลเชื้อเพลิง (Fuel Cell) โดยจัดให้เป็นกิจการที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงินที่ได้ยกเว้น
รวมทั้งยังเห็นชอบให้บีโอไอขยายระยะเวลาของมาตรการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานออกไปถึงสิ้นปี 2552 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ได้ปรับปรุงเครื่องจักรและโรงงานเพื่อลดการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นด้วย--จบ--