กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ดังนี้
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ‘BBB-’ (BBB ลบ) แนวโน้มมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น ‘F3’
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ‘C/D’
- อันดับเครดิตสนับสนุน ‘3’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ‘BB+’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของตราสารหนี้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Tier 1) ‘BB-’ (BB ลบ)
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ‘BB’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Ratings) ‘A+(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ‘F1(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ‘A(tha)’
ในไตรมาส 1 ปี 2551 TMB มีกำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 220 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2550 สำหรับกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกเกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายจากการขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ และขาดทุนจากประมาณการหนี้สินจากการโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น ธนาคารมีผลขาดทุนจำนวนมากจากรายการดังกล่าวรวมถึงการขาดทุนจากการด้อยค่าค่าความนิยม สำหรับผลประกอบการในปี 2551 นี้ คาดว่าในช่วงแรกของการปรับปรุงและควบรวมระบบงานกับ ING Bank NV หรือ ING (AA/F1+) และสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างอ่อนแอ จะเป็นปัจจัยหลักที่จะจำกัดการขยายตัวของสินเชื่อและผลประกอบการของธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าธนาคารจะสามารถกลับมามีกำไรสุทธิได้ในปี 2551 และสามารถเริ่มจ่ายดอกเบี้ยของตราสารหนี้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Tier 1) ที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากที่ได้งดจ่ายดอกเบี้ยในเดือน มิถุนายน และ ธันวาคม 2550
สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารยังคงอยู่ในระดับสูง ที่ 74.2 พันล้านบาท หรือ 15.1% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2551 อย่างไรก็ตาม ระดับสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อนหน้าไปอยู่ที่ระดับ 48.9 พันล้านบาท หรือ 65.8% ของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2551 และระดับสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่สูงขึ้นนี้ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารสามารถเร่งรัดจัดการกับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ได้รวดเร็วขึ้นภายในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยการขายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และการปรับโครงสร้างหนี้ ในส่วนของเงินกองทุนรวมและเงินกองทุนขั้นที่ 1 ของธนาคาร ได้ปรับตัวแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากการเพิ่มทุนจำนวน 37.7 พันล้านบาทในเดือนธันวาคม 2550 ทั้งนี้อัตราส่วนเงินกองทุนรวมและเงินกองทุนขั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคาร อยู่ที่ 15% และ 11.2% ตามลำดับ โดย ตราสารหนี้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Tier 1) คิดเป็น 15% ของเงินกองทุนขั้นที่ 1
ธนาคารทหารไทยเป็นธนาคารพาณิชย์อันดับที่ 6 ของประเทศไทย โดยมีสินทรัพย์รวม 621.9 พันล้านบาท (18.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ปัจจุบัน ING เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ในสัดส่วน 30% ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่น คือกระทรวงการคลัง 26% และ DBS Bank 7% สำหรับ ING เป็นธนาคารพาณิชย์อันดับ 2 ในประเทศเนเธอแลนด์ โดยมีสินทรัพย์รวม 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคนี้ในประเทศอินเดียและจีน
ติดต่อ
Vincent Milton, พชร ศรายุทธ กรุงเทพฯ +662 655 4759/4761