กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘กรุงเทพประกันชีวิต’ ประกาศแผนก้าวเข้าสู่การดำเนินงานปีที่ 58 เน้นพัฒนาบุคลากรเพื่อการเติบโตแบบอย่างยั่งยืน ชูจุดแข็งขายประกันผ่านแบงก์กรุงเทพ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พร้อมขยายเครือข่ายตัวแทนในช่องทางการจำหน่ายผ่านพนักงานของบริษัทนายหน้านิติบุคคล และช่องทางไปรษณีย์ รองรับแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตปี 51 โต 5-6% เผยไตรมาสแรกเบี้ยประกันโต 140%
นายชวลิต ธนะชานันท์ ประธานกรรมการ บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2551 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทฯ ก้าวเข้าสู่การดำเนินงานปีที่ 58 นั้น บริษัทฯ ได้วางแนวนโยบายการบริหารงานที่เน้นการเติบโตอย่างมั่นคง และมีเสถียรภาพ โดยจะยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นให้บริการที่ครบถ้วน สะดวก รวดเร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ทั้งนี้ นโยบายหลักของบริษัทฯ ในปีนี้ จะมุ่งพัฒนาศักยภาพพนักงานของบริษัทฯ ให้มีคุณภาพในเรื่องของการให้บริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะจัดฝึกอบรมบุคลากรตัวแทนให้มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมกับพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการจัดการให้ดียิ่งขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายหลัก 2 ช่องทาง คือ ขายผ่านตัวแทน (Agent) และขายผ่านธนาคาร (Bank assurance) นอกจากนี้ ยังมีช่องทางจำหน่ายอื่น เช่น พนักงานของบริษัท นายหน้านิติบุคคล (Broker) และผ่านช่องทางไปรษณีย์ (Direct Mail) ซึ่งทำให้บริษัทฯ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และการกระจายกรมธรรม์ของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีสาขาทั้งหมดทั่วประเทศจำนวน 65 สาขา เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2550 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 12,295.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.84 มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอัตราเบี้ยประกันภัยของธุรกิจซึ่งเติบโตร้อยละ 16.35 ขณะที่ทางด้านการลงทุน บริษัทฯ มีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,115.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 389.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 22.59 ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยร้อยละ 6.10 ทำให้ในปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 769.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.64 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.03
นายชาญ วรรธนะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในปี 2551 จะมีอัตราการขยายตัวของเบี้ยประกันภัยรับรวม ใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งประมาณการไว้ที่ 5-6% เนื่องจากฐานเบี้ยประกันภัยรับรวมในปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้น บวกกับสภาวะทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป จึงคาดว่าการขยายตลาดเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ (New Business) ในปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อนแน่นอน
“การเติบโตในปีนี้ มีปัจจัยมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มมากขึ้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการออมของรัฐ ซึ่งขยายวงเงินทำประกัน เพื่อไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา บวกกับการประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์องค์กรของหลายบริษัท ทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อธุรกิจประกันชีวิต ตลอดจนการปรับปรุงรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เสมอ ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคารพาณิชย์ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขวางมากขึ้น” นายชาญกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกรมธรรม์สามารถเสนอให้ลูกค้ามากกว่า 50 แบบ โดยแบ่งเป็นออกเป็น 2 กลุ่มหลักใหญ่ๆ ได้แก่ ประกันชีวิตสามัญ (Ordinary Life Insurance) และประกันชีวิตกลุ่ม (Group Life Insurance) ซึ่งปี 2550 มีสัดส่วนผลผลิตรายใหม่ หรือเบี้ยปีแรก ของกลุ่มประกันชีวิตสามัญ คิดเป็น 2,566.76 ล้านบาท และในประเภทประกันชีวิตกลุ่ม คิดเป็น 675.15 ล้านบาท
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทประกันชีวิตและสถาบันการเงินชั้นนำ ที่มุ่งเน้นความมั่นคงและมีความเป็นเลิศในการบริการ โดยมีระบบการจัดจำหน่าย ระบบการจัดการที่มีคุณภาพ และยึดมั่นในจรรยาบรรณ
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ในนามบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: วารุณี คำไชย (แนน) โทร: 0-2248-7967-8 ต่อ 23 หรือ 08-1496-6762
e-mail : c_mastermind@hotmail.com