กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--อาร์.เอส.ฯ
แวะเวียนมาบรรจบ ครบรอบวันคล้ายวันเกิด 23 ปี ของอดีตนักร้องดัง ค่ายอาร์เอสฯ “บิ๊ก ดีทูบี” ในวันนี้วันที่ 2 ธ.ค. ในขณะที่เจ้าของวันเกิดยังรับรู้หรือเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้มากมายนักจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่วันเกิดวันนี้บรรดาแฟนคลับพากันมาให้กำลังใจเป็นอย่างมาก ในวันนี้เราก็ได้มาสัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่รวมไปถึงเพื่อนร่วมวงอย่าง “แดน” และ “บีม” ถึงความคืบหน้าอาการของ “บิ๊ก ดีทูบี” ในวันคล้ายวันเกิดในวันนี้
ถาม : อาการตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
คุณพ่อ : อาการตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีโรคแทรกซ้อน ร่างกายสมบูรณ์ แล้วก็ระบบขับถ่ายก็ดีขึ้น สรุปโดยรวมแล้วอาการตอนนี้ OK.......รู้สึกว่าดีใจเพราะว่าอาการของน้องพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ แขนขาก็ขยับได้ดีขึ้น
ถาม : แต่ว่าตอนนี้น้องอ้วนขึ้นด้วยใช่ไหม
คุณพ่อ : ก็คิดว่าอ้วนขึ้น..... เพราะว่าเวลายกกับแม่แล้วรู้สึกว่ามันไม่ไหว (หัวเราะ)
ถาม : แล้วการรับรู้ล่ะเป็นยังไงบ้าง
คุณพ่อ : การรับรู้นี้ยังบอกไม่ได้นะครับ.....เพราะว่าบางอย่างยังไม่แน่ใจว่าเค้ารับตอบสนองเรารึเปล่า
ถาม : วันนี้น้องบิ๊กครบรอบกี่ปีแล้ว
คุณพ่อ : ครบ 23 ปีครับ
ถาม : รู้สึกยังไงบ้างในการดูแลน้องในครั้งนี้กับการเป็นพ่อ
คุณพ่อ : มันก็ต้องดูแลเค้ามาตลอดนะครับแต่ว่าต้องใส่ใจเค้านิดหนึ่ง ก็อยากจะฝากบอกไปถึงคนที่มีพ่อแม่ในลักษณะอย่างนี้ หรือ ที่มีลูกในลักษณะอย่างนี้ ให้เอาใจใส่ดูแลนิดหนึ่ง อย่าพึ่งท้อใจ
ถาม : เคยรู้สึกท้อแท้ไหม
คุณพ่อ : รู้สึกท้อแท้นี้ไม่เคยมี แต่ว่าถ้าพูดถึงร่างกายของเรานี้มันมีเมื่อยล้า....แต่ไม่ท้อ
ถาม : พ่อมีกำลังใจอะไรตรงไหนที่ทำให้เราต้องต่อสู้แล้วก็ไม่ท้อกับการเลี้ยงน้องบิ๊ก
คุณพ่อ : ก็ลูกนะครับ....แล้วก็ตัวเค้าไง ค่อยๆ ดูแลกันไป
ถาม : ตรงนี้คือกำลังใจสำคัญ
คุณพ่อ : ก็อยากให้เค้าหาย....เค้ามีพัฒนาการดีขึ้นทีล่ะนิดๆ
ถาม : แล้วตอนนี้การดูแลรักษาน้องบิ๊ก คุณพ่อมีการดูแลรักษายังไงบ้าง... ในการรักษาในปัจจุบัน
คุณพ่อ : หมายถึงว่าในส่วนของทางด้านร่างกายใช่ไหมครับ....ก็เช้าก็มีการเช็ดตัวให้เรียบร้อยดูเวลา เค้าถ่ายหรือ ปัสสาวะ ตรงนี้ก็ต้องใส่ใจเค้านิดหนึ่ง ว่าปัสสาวะเค้าจะมีแสดงอาการอะไรบอกเรา เราก็จะรู้ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะทำให้เค้าไม่สบายตัว ถึงต้องบอกว่าตรงนี้ต้องใส่ใจ พอเอาออกแล้วเค้าก็จะหลับสบาย อุจจาระก็รู้ๆเอาแล้วก็ทำความสะอาดล้างให้เรียบร้อย ให้ร่างกายเค้าแห้งแล้วทาแป้ง...เค้าจะได้สบาย
ถาม : แล้วการรักษาทางการแพทย์....ยาที่ใช้รักษาในตอนนี้ ใช้ยาอะไร
คุณพ่อ : ตอนนี้....ยาวอร์ลิโคนาโซน ไม่ได้ใช้แล้วนะครับหยุดไปแล้ว หยุดไปหลายเดือนแล้ว...หยุดไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้วล่ะครับ ตอนนี้ก็...คุณหมอให้ลดลงบางตัว ก็มียาส่วนใหญ่เป็นยาบำรุงสมองนะครับ แล้วก็....ยาคลายกล้ามเนื้อที่มีอยู่ตอนนี้ ที่ช่วยให้เค้าอาการดีขึ้น
ถาม : ตอนนี้ถือว่าร่างกายแล้วก็อาการของน้องทำให้คลายกังวลไปบ้างรึยัง
คุณพ่อ : มันก็คลาย...คลายไปบางส่วน แต่เราต้องคอยดูแลเค้าอย่างใกล้ชิด.....ตรงนี้ที่เราต้องเอาใจใส่ เพราะถ้าอะไรที่เรายังขาดตกบกพร่องอะไรอย่างนี้ แต่โดยทั่วไปแล้วก็ดี. ร่างกายเค้าหลับได้ไม่มีแผลอะไรก็ OK.
ถาม : วัน..วันหนึ่งหลักๆ คุณพ่อต้องทำอะไรให้กับตัวน้องบิ๊กบ้าง
คุณพ่อ : อันดับแรกก็คือตื่นเช้ามาต้องเช็ดตัวทำความสะอาด ทำแผล ให้เรียบร้อย ให้อาหาร คุณแม่เช็ดปาก ถูปาก หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เค้าตามสบาย จับตะแคงตัวเมื่อถึงเวลา หมายถึงถ้าให้เค้านอนนานๆ หงายนานๆ มันร้อนเค้าก็จะมีเหงื่อ เราก็จับพลิกตะแคง ในลักษณะของการตะแคงตัวนี้ก็คือไม่ให้เค้าร้อนนั้นเอง ถ้าร้อนเค้าจะจุ๊กจิ๊ก หรือเค้าตื่นบ้างตื่นเฉย เราจะก็รู้ ว่าเค้าไม่สบายตัว
ถาม : ความหวังในตัวน้องบิ๊กตอนนี้
คุณพ่อ : ก็รอทางการแพทย์นะครับ เท่าที่แพทย์เจ้าของไข้ ได้แจ้งไปทางโทรทัศน์ว่ามีวิธีที่จะปลูกถ่ายเซลล์สมอง.....ก็คือจะใช้เซลล์สมองของตัวเค้าเอง ตอนนี้ก็ยังอยู่ในขั้นทดลอง ในทางอเมริกาเค้ากำลังทดลองอยู่
ถาม : ในส่วนนี้มันทำให้คุณพ่อมีความหวังขึ้นรึเปล่า
คุณพ่อ : ใช่(คุณแม่) มันทำให้มีความหวัง มันทำให้สบายใจและคิดว่ามันมีวิธีรักษา ยังดีกว่าว่ามันไม่มีวิธีเลย ความหวังตรงนี้มันทำให้เราสบายใจขึ้น
ถาม : คุณบอกรึเปล่าว่าวิธีปลูกถ่ายเซลล์สมองตรงนี้ทำได้เมื่อไร
คุณพ่อ : ยังครับ....ตรงนี้รู้สึกว่าจะต้องรอทางการแพทย์ที่เค้าทดลองและก็ศึกษาอยู่ ....ทดลองอยู่ ตอนนี้เค้าอาจจะดูถึงผลข้างเคียงบ้าง....อะไรบ้าง แต่ว่าระยะเวลานี้ยังไม่ทราบ เพราะว่ายังอยู่ในขั้นทดลอง
ถาม : ให้คุณพ่อพูดถึงปฏิกิริยาที่น้องบิ๊กมีตอนนี้คือปฏิกิริยาตอบสนองต่างๆ ที่ตั้งแต่ออกมาอยู่บ้านมีอะไรที่ดีขึ้นบ้างแล้ว และมีการตอบสนองอะไรบ้าง
คุณพ่อ : ก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆนะค่ะ(คุณแม่) แต่โดยรวมแล้วการตอบสนองบางอย่างอาจยังบอกไม่ได้เพราะบางทีเรียกก็มีการตอบกลับ บ้างก็ไม่มี เราก็เลยไม่รู้ว่าเค้า OK รึยังไง แต่เค้าได้ยินเวลามีเสียงดัง ...บางทีเราก็อธิบายไม่ได้ ....แต่เวลาเจ็บเค้าก็จะร้องไห้ เช่นเวลาทำกายภาพบำบัดในส่วนไหนที่เค้าตรึง หรือเค้าเจ็บเค้าก็จะร้อง...คล้ายๆ ร้องไห้...เค้ามีเสียง ก็แสดงว่าเค้าเจ็บ แบบนี้เค้ารู้
ถาม : กับการดูแลเอาใจใส่ของคุณพ่อ กับน้องบิ๊กนี่ ทำให้ถึงบางคนใช้คุณพ่อเป็นแบบอย่าง คุณพ่อรู้สึกยังไงบ้าง
คุณพ่อ : นี่ไง....ที่คุณหมอเคยบอกไว้ว่าต้องเอาใจใส่ดูแลนิดหนึ่งนะครับ อย่าไปถอดใจ คือคนที่ถอดใจนี้เข้าใจว่าอาจจะไม่ได้ไปศึกษากับคุณหมอว่ามันมีวิธีการรักษา.....เราจะพบว่า เราต้องทำตัวของเค้าให้ดี ไม่มีแผลกดทับ ร่างกายของเค้าก็สบายมันไม่มีอะไร โอกาสที่จะฟื้นหรือการตอบสนองก็เร็ว คือคนเราจะสบายนี่อะไรก็ดี ตามเนื้อตามตัวไม่มีแผล คอยพลิกตัวบ่อยๆ แต่ถ้ามีแผลนี่..มันก็ทำให้เค้าเจ็บ มันก็ไม่สบาย .....เราต้องทำให้ตัวเค้าสบาย คือเค้าจะได้ไม่ต้องมาทรมาน คือจะต้องใส่ใจนิดหนึ่ง
ถาม : แล้วตัวคุณพ่อรู้สึกยังไงบ้าง ที่มีคนเอาคุณพ่อมาเป็นแบบอย่าง
คุณพ่อ : ก็....ก็ภูมิใจ ก็...ก็ดีนะครับ ถ้าอยู่ตามโรงพยาบาลแล้วบอกว่าเป็นแผลนี้ ไม่จริง...ต้องใส่ใจนิดหนึ่ง ทุกคนถ้าใส่ใจอะไรก็ดี 2 ปี น้องบิ๊กไม่มีแผลเลย.... แพทย์เจ้าของไข้ก็พูด
ถาม : ทุกวันนี้คุณพ่อทำหน้าที่ คุณพ่อได้ถึงที่สุดรึยัง
คุณพ่อ : มันต้องทำไปเรื่อยๆ ทำไปจนกว่าเค้าจะหาย
ถาม : คุณพ่อวันนี้วันเกิดน้อง มีการพูดหรือบอกอะไรรึเปล่า
คุณพ่อ : ก็บอกเค้าพอเค้าสบายตัวเค้าก็หลับ (หัวเราะ).......ก็บอกเค้าว่ามันนี้วันเกิดเค้า....วันนี้จะไปทำสังฆทานไปทำบุญให้ที่วัด...ก็บอกเค้า เค้าก็ลืมตาขึ้นแล้วตะแคง......แล้วก็หลับ แต่วันนี้หลับจัง โบกมือยังไงก็ไม่ตื่น แสดงว่าเค้าสบายตัว เค้าอารมณ์ดี มือไม้ที่จับเค้าวันนี้ก็OK ก็มีการปรับยา มีการคุยกับหมอ คิดว่าเค้าดีขึ้นเรื่อยๆ ในความรู้สึกของเรา......ตรงแขนที่ฉีดยาตอนนี้ก็ไม่ต้องฉีดแล้ว
ถาม : ถ้าตอนนี้คุณพ่อบอกกับน้องบิ๊กได้ถ้าเค้ารับรู้ คุณพ่ออยากจะบอกอะไร
คุณพ่อ : ก็อยากจะบอกว่าได้เวลาแล้วตื่นได้แล้ว ให้เค้าลุกขึ้นมา......ก็จะบอกว่าวันนี้วันเกิดแล้วตื่นได้แล้วตื่นสักที (หัวเราะ)
ถาม : ความหมายของคำว่าพ่อ ใกล้วันพ่อแล้วของคุณพ่อคิดว่ายังไงบ้าง
คุณพ่อ : คือสิ่งที่อยากจะบอกว่า ให้ลูกๆเป็นคนดี ของคุณพ่อ คุณแม่ เวลาท่านป่วย หรือท่านไม่สบายก็ให้คอยดูแล อย่าไปปล่อยให้ท่านว้าเหว่ ได้คุยอะไรกันบ้างในครอบครัว
ถาม : อยากให้แดนและบีมอวยพรอะไรในวันเกิดนี้ของบิ๊ก
แดน : ส่วนแดนในวันนี้ก็ไม่ขออะไรมากในวันนี้ก็อยากจะขอให้พี่บิ๊กกลับมาพูดคุยกันได้ รู้ว่ามองหน้ามองตาเราพูดคุยกันสนุกสนานเหมือนเดิมอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเดิมครับ
บีม : บีมก็ขอให้ลุกขึ้นมาพูดคุยกันได้ ถ้าอยากได้อะไรก็บอก
ถาม : มาวันนี้แล้วนึกถึงภาพบรรยากาศดีทูบี ตอน3 คนในสมัยเก่าไหม
แดน : คือจริงๆ แล้วไม่มาก็นึกถึงตลอดเวลาอยู่แล้วครับ
ถาม : ดีใจไหมที่เค้าแข็งแรงขึ้น
แดน : จริงๆ ดีใจมันดีใจอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่เป็นห่วงก็เป็นห่วง แล้วก็เป็นห่วงคุณพ่อคุณแม่ด้วยว่าท่านเหนื่อยขนาดไหน แต่ว่าพ่อแม่กำลังใจดีมากนะครับ ก็ยิ่งทำให้เรามีกำลังใจขึ้นไปอีกรวมไปถึงพี่บิ๊กด้วย ที่ทำให้เรามีความหวัง ก็อยากให้คนที่เป็นกำลังใจให้กับพี่บิ๊ก ก็ขอให้มีความหวังต่อไปเรื่อยๆ นะครับ อย่างที่คุณพ่อบอกว่ายังมีโอกาสหายอยู่
สำหรับสองหนุ่ม “แดนกับบีม” เพื่อนร่วมวงดีทูบี กล่าวว่า อยากอวยพรให้บิ๊กฟื้นขึ้นมาเร็วๆ จะได้มาร้องเพลงและทำงานร่วมกันอีกครั้ง เพราะทุกครั้งที่มาเยี่ยมบิ๊กที่บ้าน ก็จะนึกทึกบรรยากาศเก่าๆเสมอ ถ้าปาฏิหารย์มีจริง ก็ขอให้บิ๊กลุกขึ้นมาพูดคุยได้เหมือนเดิม ก็ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวกิตติกรเจริญ ต่อไป
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--