กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--ททท.
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานั้น ทาง ททท.และภาคเอกชนต่างรู้สึกเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังว่าเหตุการณ์ในบาหลีจะคลี่คลายได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันประเทศไทยโดยรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญในมาตรการรักษาความปลอดภัย มาโดยตลอด ได้ประกาศที่จะเพิ่มความเข้มงวดและระมัดระวังเป็นพิเศษในการป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่ที่เป็นจุดล่อแหลม สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากรายงานของสำนักงาน ททท.ในประเทศแจ้งว่า แม้ว่าทางภาคเหนือและจังหวัดใกล้เคียงจะได้รับผลจากอิทธิพลของพายุติดต่อกัน ซึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ประกอบกับยังอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว ยกเว้นในบางพื้นที่ที่แหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางคมนาคมไม่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ เช่น ดอกหงอนนาคที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ กิจกรรมการล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก กิจกรรมล่องเรือ แพเหนือเขื่อนภูมิพล ระหว่างจังหวัดตาก ถึงอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นธุรกิจท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายคอร์ปอเรตจากภาครัฐ ให้ความนิยมมาก ซึ่งขณะนี้คณะนักท่องเที่ยวยังคงยืนยันการเดินทางเป็นปกติกว่า 1,200 คน ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น การท่องเที่ยวและสถานประกอบการต่าง ๆ เริ่มดำเนินกิจการอย่างเป็นปกติ มีการเคลื่อนไหวของการเดินทางทั้งจากสายการบิน การขนส่งทางบก และรถไฟ มียอดการสำรองที่นั่งเฉลี่ยร้อยละ 60-65 รวมทั้งอัตราเข้าพักร้อยละ 65 ทางด้านอีสานในภาพรวม ยังคงมีการเดินทางจากกลุ่มประชุมสัมมนาของภาครัฐและภาคเอกชน สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นพวกที่เดินทางอิสระ มาจาก ตลาดญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ อเมริกา รวมถึงชาวเนเธอร์แลนด์อีกส่วนหนึ่งที่มากับบริษัทนำเที่ยว ส่วนนักท่องเที่ยวแถบเอเชีย เกาหลี จีน ฮ่องกง เวียดนาม เริ่มเข้ามามากขึ้น โดยกระจุกตัวอยู่ในเมืองพัทยา ซึ่งมีอัตราการเข้าพัก 60 % แล้ว
แหล่งข่าว กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท. โทร.0-2250-5500 ต่อ 1555 - 1563 โทรสาร 0-2250-5681-3 Web Site :ข่าวประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://www.tat.or.th/pr--จบ--