LPN รุกพระราม 9 เปิดโครงการไฮไลต์ที่สุดในรอบ 20 ปี ด้วยราคาพิเศษเฉพาะวันที่ 21 มิ.ย. เท่านั้น

ข่าวอสังหา Monday June 16, 2008 10:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์
LPN ผู้นำตลาดซิตี้คอนโด รุกทำเลใหม่ย่านพระราม 9-รัชดา เจาะลูกค้าวัยทำงาน ด้วยทำเลเด่นติดรถไฟฟ้าใต้ดิน โครงการรูปแบบใหม่มูลค่ากว่า 5 พันล้าน พร้อม คอนเซ็ปท์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม “LPN GREEN” และการบริหารจัดการที่สมบูรณ์แบบที่สุดในรอบ 20 ปี ทั้งยังปรับกลยุทธ์การขายรับมือน้ำมันแพง เอาใจคนเมืองด้วยราคาพิเศษเฉพาะวันที่ 21 มิถุนายนนี้เท่านั้น ผ่อนดาวน์เพียงเดือนละ 7 พันกว่าบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายนนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการ “ลุมพินี เพลส พระราม 9 — รัชดา” ที่มีมูลค่าการลงทุนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินงานมา โดยมีมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปท์ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งหลังจากการเผยแพร่ข่าวออกไป ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คนทำงานในระดับผู้บริหารระดับต้นในย่านพระราม 9 รัชดาภิเษก ลาดพร้าว และห้วยขวาง ที่ต้องการใช้ชีวิตในเมืองเพื่อเลี่ยงปัญหาจราจรและนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งอาคารชุดพักอาศัยดังกล่าวนับเป็นโครงการที่มีความโดดเด่นเนื่องจากมีทำเลอยู่กลางใจเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 สะดวกในการเดินทางไปยังเขตธุรกิจชั้นในเนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบนดินได้ โดยขายในราคาเริ่มต้นเพียงตารางเมตรละ 51,000 บาท ผ่อนดาวน์เพียงเดือนละ 7 พันกว่าบาท ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่จูงใจสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักอาศัยในเขตเมืองที่ให้คุณภาพชีวิตที่ดีท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ต้นทุนและวัสดุก่อสร้างได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เนื่องจากสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันที่ผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้าง ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาด้านการควบคุมต้นทุนและไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปรับราคาขายได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตอบรับความต้องการจองซื้อของลูกค้าเก่าและลูกค้าในย่านนี้ที่ได้แสดงความจำนงไว้ก่อนหน้า บริษัทฯ จึงจะเปิดขายห้องชุดในราคาพิเศษเฉพาะวันที่ 21 มิถุนายน 2551 เพียงจำนวน 30% ของ ห้องชุดทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทฯ จำเป็นต้องมีการประเมินสถานการณ์และต้องมีการปรับราคาขายเพื่อให้สอดรับกับต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นต่อไป”
โครงการลุมพินี เพลส พระราม 9 — รัชดา ประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยในเฟส 1 จำนวน 1,165 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการรวมประมาณ 15 ไร่ ซึ่งจะเป็นโครงการในแบรนด์ “ลุมพินี เพลส” อีกเพียงโครงการเดียวสำหรับปีนี้ ที่นอกจากจะน่าสนใจในด้านทำเลและราคาแล้ว ยังได้นำแนวคิดด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมภายใต้คอนเซ็ปท์ “LPN Green” มาใช้ในการพัฒนาโครงการ นับตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ Green Design กล่าวคือ มีการออกแบบโครงการโดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงานและลดผลกระทบจากสภาวะแวดล้อม เช่น การใช้กระจกสองชั้นกันความร้อนและเสียงแบบ Insulated Glass เพื่อลดความร้อนสำหรับห้องทิศตะวันตกซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า การบำบัดน้ำเสียจากอาคารนำกลับมาใช้ในการดูแลพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ เพื่อระบายของเสียจากอาคารออกสู่ธรรมชาติให้น้อยที่สุด Green Material & Equipment คือการใช้วัสดุอุปกรณ์ เช่น หลอดประหยัดไฟเพื่อประหยัดพลังงาน Green Energy คือการใช้พลังงานทดแทน เช่น การใช้ โคมไฟที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในบางพื้นที่ของโครงการ และ Green Community Management คือการรักษามาตรฐานการบริหารและการใช้ทรัพยากรให้คงสภาพเดิมเพื่อคุณภาพชีวิตของทุกคนในชุมชนและชุมชน รอบข้าง” นายโอภาสกล่าว
กรรมการผู้จัดการ LPN ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ซิตี้คอนโดนับเป็นสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับ LPN ผู้จุดประกายซิตี้คอนโดให้เติบโตขึ้น การพัฒนาโครงการในรูปแบบนี้จึงเป็นความถนัดและเสมือนเครื่องรับรองที่ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้ “บ้าน” คุณภาพ ภายใต้สังคม สิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการที่ดี อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 นี้ LPN จะยังคงบุกเบิกการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ “ลุมพินี คอนโดทาวน์” เพื่อเป็นเรือธงของบริษัทที่จะสามารถบุกเบิกฐานลูกค้ากลุ่มกลาง-ล่าง ซึ่งมีอยู่จำนวนมากและกระจายอยู่ตามเขตรอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วในการบุกเบิกซิตี้คอนโด
รายละเอียดโครงการ
ลุมพินี เพลส พระราม 9 — รัชดา LUMPINI PLACE RAMA 9 — RATCHADA
ประเภท ส่วนที่เป็นฐานของอาคารตั้งแต่ชั้น G — ชั้น 5 ใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นส่วนใหญ่ทั้งอาคาร A และ B
ส่วนของอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 2 อาคาร แบ่งเป็น
อาคาร A สูง 25 ชั้น
อาคาร B สูง 30 ชั้น
โดยส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 6 จำนวนยูนิตรวมประมาณ 1,165 ยูนิต (รวมร้านค้า)
เนื้อที่ 15 ไร่ 1 งาน
ที่ตั้ง ถนนพระราม 9 ห่างจากแยก อสมท. ประมาณ 100 เมตร ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน พระราม 9
และจุดขึ้นลงทางด่วน สะดวกในการเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ โลตัส และโรบินสัน รัชดา
ลักษณะโครงการ อาคาร A และ B
ชั้น G ร้านค้า สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด ห้องอเนกประสงค์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ชั้น 2-5 ที่จอดรถ (ใช้ร่วมกันทั้งอาคาร A และ B)
ชั้น 6 ห้องชุดพักอาศัย และส่วนสันทนาการ
ชั้น 7-30 ห้องชุดพักอาศัย
ขนาดห้องชุด 1) ร้านค้า
2) ห้องชุดพักอาศัย แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33.5-45.0 ตร.ม.
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 70.0-72.0 ตร.ม.
กำหนดการเปิดขาย เดือน มิถุนายน 2551
กำหนดเริ่มงานก่อสร้าง เดือน มิถุนายน 2551
สำนักงานขายโครงการ โทรศัพท์ 02-248-1555
บทวิเคราะห์
โครงการลุมพินี เพลส พระราม 9-รัชดา
โครงการลุมพินี เพลส พระราม 9-รัชดา ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 9-อสมท. ซึ่งมีการคมนาคมที่สะดวกด้วยถนนสายหลัก คือ ถนนพระราม 9 และถนนรัชดาภิเษก อีกทั้ง ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน สามารถเดินทางไปได้ทุกมุมเมือง ประกอบกับมีรถไฟฟ้าใต้ดินเสริมศักยภาพทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถเดินทางเข้าสู่ถนนสุขุมวิท และ สีลม ได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ สถานีพระราม 9(บริเวณแยกฟอร์จูน) ประกอบกับในอนาคตอันใกล้ยังมีโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ที่คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2552 โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ สถานีมักกะสัน(ซึ่งจะเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน บริเวณสถานีเพชรบุรี) โดยแอร์พอร์ตลิงค์จะอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ หรือนักธุรกิจที่เดินทางบ่อยครั้ง ซึ่งสามารถ check-in ได้ที่สถานีดังกล่าว สำหรับผู้ที่ทำงานในจังหวัด ชลบุรี และฉะเชิงเทรา สามารถเดินทางโดยเส้นทางพระราม 9 ออกสู่มอเตอร์เวย์ ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า เช่น ห้างฟอร์จูน คาร์ฟู โลตัส โรบินสัน esplanade และ โรงพยาบาล เช่น รพ.พระราม 9 รพ.กรุงเทพ รวมถึง สถานศึกษา อันได้แก่ มศว.ประสานมิตร โรงเรียนสาธิตประสานมิตร เป็นต้น
ด้านดีมานด์นั้นเนื่องด้วยทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ระหว่างรอยต่อระหว่างเขตดินแดงและห้วยขวางซึ่งมีประชากรที่อาศัยจำนวนมากประมาณ 220,000 คน คิดเป็น 4% ของจำนวนประชากรในกรุงเทพมหานคร โดยมีความหนาแน่นอยู่ที่ 2.5 คน/หลัง โดยเฉพาะเขตดินแดงนั้น มีความหนาแน่นค่อนข้างสูงถึง 2.91 คน/หลัง นอกจากดีมานด์ของผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้แล้ว ยังมีดีมานด์ที่มาจากผู้ที่ทำงานในย่านรัชดาภิเษก และห้วยขวาง รวมถึงผู้ที่ทำงานในละแวกใกล้เคียง เช่น ลาดพร้ว สีลม สุขุมวิท เนื่องมาจากเส้นทางการคมนาคมที่เชื่อมต่อกันด้วยรถไฟฟ้า โดยผู้ที่ทำงานในบริเวณนี้ มีจำนวนประมาณ 228,000 คน ส่วนผู้ที่ทำงานในย่านสีลมและสุขุมวิท มีจำนวนประมาณ 496,000 คน เมื่อรวมกลุ่มผู้ที่ทำงานทั้งหมดแล้ว จะมีจำนวนถึง 724,000 คน คิดเป็น 24% ของผู้ที่ทำงานในกรุงเทพมหานคร
ด้านซัพพลาย จากข้อมูลการวิจัยของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท พบว่า จำนวนโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าในปี 2550 ส่วนใหญ่มีราคาขายที่มากกว่า 55,000 บ./ตร.ม. โดยโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าบริเวณปทุมวัน สีลม-สาทร และสุขุมวิทนั้น ส่วนใหญ่มีราคาขายสูงกว่า 75,000 บ./ตร.ม. ส่วนบริเวณเส้นพญาไท มีราคาขายอยู่ที่ 55,001 - 65,000 บ./ตร.ม.สำหรับคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าบริเวณรัชดา ลาดพร้าว-จตุจักร ราคาขายในปีที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 45,001 - 55,000 บ./ตร.ม. ซึ่งในปัจจุบันที่ทั้งวัสดุก่อสร้างและค่าแรงได้ปรับตัวสูงขึ้น การจะคงราคาขายให้เท่ากับปีที่ผ่านมาจึงเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก LPNมีจุดแข็งด้านการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งต้นทุนทางตรงและทางอ้อม ทำให้ LPN ยังคงสามารถกำหนดราคาขายที่ใกล้ เคียงกับปีที่ผ่านมาได้
กราฟแสดงสัดส่วนราคาขายคอนโดเปิดตัวใหม่แนวรถไฟฟ้า(500 ม.) ปี 50
ตารางแสดงระดับราคาขายคอนโดเปิดตัวใหม่แนวรถไฟฟ้า(500 ม.) ปี 50 แยกตามโซน
ดังนั้นโครงการลุมพินี เพลส พระราม 9-รัชดา จึงมีความโดดเด่นทั้งศักยภาพของทำเล และการกำหนดราคาขายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีอยู่จำนวนมาก
ด้านรูปแบบการพัฒนาโครงการลุมพินีเ พลส พระราม 9-รัชดา มีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในบริเวณเดียวกัน ภายใต้แนวคิด “LPN GREEN” ที่คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) Green Design : การออกแบบโครงการโดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การออกแบบกันสาดที่ช่วยบังแดดและฝน ช่วยลดความร้อนเข้าสู่อาคารเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ สำหรับในด้านทิศตะวันตกจะใช้กระจก 2 ชั้น กันความร้อนและเสียง แบบ Insulated Glass นอกจากนั้นบริเวณที่จอดรถยังมีสวนแนวตั้ง(Green wall) ช่วยลดมลพิษจากฝุ่นและควัน
2) Green Material & Equipment : การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม โดยการใช้วัสดุเลียนแบบธรรมชาติเช่นพื้นลามิเนตเพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อมและการเลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
3) Green Energy : การใช้พลังงานทดแทน ในส่วนที่มีความเหมาะสม
4) Green Community Management : การบริหารชุมชนโดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของทุกคนในชุมชนและชุมชนรอบข้าง เพื่อความสุขที่ยั่งยืน ด้วยการรักษามาตรฐานการบริหารและการใช้ทรัพยากรให้คงสภาพเดิม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 02-285-5011-6 ต่อ 500, 505, 506

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ