กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
"สุพันธุ์ มงคลสุธี" ยืนยัน SYNEX เหมาะลงทุนยาว เหตุปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและประเมินทิศทางอุตสาหกรรมยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1/51 มีกำไรสุทธิ 40.07 ลบ. เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปี 2550 คาดสิ้นปีนี้รายได้ยังเติบโตปีที่ผ่านมาได้ไม่น้อยกว่า 15-20%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) กล่าวถึงหุ้น SYNEX ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นครั้งแรกว่า ขอยืนยันว่า SYNEX ถือเป็นหุ้นที่เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยถือเป็นบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการเป็นกำไรต่อเนื่องมายาวนาน โดยล่าสุดผลประกอบการประจำงวด 3 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2551 บริษัทมีรายได้รวม2,395.73ลบ. เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปี 2550 ที่มีรายได้ 2,464 ลบ. และมีกำไรสุทธิ 40.07 ลบ. เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 30.08 ลบ.
"ยอมรับว่าภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัทพอสมควร แต่ขอยืนยันว่า SYNEX ถือเป็นหุ้นที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว จากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง และมีทิศทางการเติบโตที่ดีในอนาคต ซึ่งในปีนี้เชื่อว่าหลังจากที่บริษัทฯ เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาด การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเพิ่มการให้บริการหลังการขาย การเพิ่มตัวแทนและช่องทางการจำ ตลอดจนการเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้สินค้าของบริษัท ได้รับการตอบรับมาตรฐานเช่นเดียวกับสินค้าอินเตอร์แบรนด์อื่น ๆ ทั่วโลก จะสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตได้ในอัตรา 15-20% จากปี 2550 ที่มีรายได้ 10,800 ลบได้สำเร็จ”
นายสุพันธุ์ กล่าวต่อว่า ในอนาคต บริษัทฯ มีเป้าหมายสูงสุดในการก้าวสู่การเป็น One Stop Shopping ที่รวบรวมสินค้าไอทีคุณภาพระดับโลกไว้แบบครบวงจร มุ่งมั่นในการพัฒนาและบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบมืออาชีพ และลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำระดับโลก โดยจะทำการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบของซีเน็ค ช็อป (CNEX Shop) ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบการทำสัญญาร่วมลงทุนระหว่างบริษัทฯ กับผู้ที่ต้องการลงทุน (Franchise) โดยคาดว่าจะดำเนินการขยายสาขาให้ได้ทั้งหมด 250 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี และสำหรับในปี 2551 นี้ คาดว่าจะเปิดสำนักงานสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และอีก 2 สาขาในต่างจังหวัด
นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว โดยการขยายตราสินค้าและฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการผลิตสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์แบบสั่งประกอบ (CTO: Configuration-to-Order) ภายใต้เครื่องหมายการค้า Lemel มากขึ้น โดยปัจจุบัน มีกำลังการผลิตประมาณ 4,000 เครื่อง/เดือน และมีแผนจะเพิ่มสินค้าประเภทโน้ตบุ๊คเพิ่มขึ้น จากเดิมที่จัดจำหน่ายเฉพาะคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี)
ติดต่อสอบถาม : สิริน วิวัฒน์เจริญพงศ์ โทร : 02-554-9353 ,089-728-6389