ทริสเรทติ้งประกาศเตือน “เครดิตพินิจ” อันดับเครดิตของแอ๊ดวานซ์ อะโกร

ข่าวทั่วไป Thursday November 17, 2005 09:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเครดิตพินิจ แนวโน้ม “Developing” หรือ “ยังไม่ชัดเจน” ให้แก่อันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ “BBB” เนื่องจากทั้งบริษัทและบริษัทลูกในต่างประเทศคือ Advance Agro Capital B.V. ได้ทำผิดเงื่อนไขบางประการในสัญญาของหุ้นกู้ที่ออกในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัทได้เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ค้ำประกันให้แก่ Advance Agro Capital B.V. และอาจส่งผลให้บริษัทผิดนัดชำระหนี้ภายใต้สัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีกับธนาคารในประเทศไทย
โดยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 ทริสเรทติ้งได้รับแจ้งจากบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร ว่าบริษัทได้ทำจดหมายแจ้งแก่ Bank of New York ซึ่งเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้มีประกันมูลค่าคงเหลือ 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2550 (อัตราดอกเบี้ย 13%) เกี่ยวกับการกระทำผิดเงื่อนไขบางประการที่ระบุไว้ในสัญญาหุ้นกู้ของผู้ออกหุ้นกู้คือ Advance Agro Capital B.V. และผู้ค้ำประกันคือ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) โดยการทำผิดเงื่อนไขดังกล่าวแยกออกเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1) ผู้ออกหุ้นกู้ไม่ได้ส่งแบบฟอร์ม 20-F ให้แก่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้หลายครั้งนับตั้งแต่หุ้นกู้ดังกล่าวได้ยกเลิกการจดทะเบียนกับ ก.ล.ต. ของประเทศสหรัฐฯ และ 2) บริษัทได้ทำธุรกรรมบางอย่างกับบริษัทที่เกี่ยวข้องโดยที่ยังไม่ได้รับอนุมัติจากกรรมการอิสระส่วนใหญ่และ/หรือได้รับการประเมินจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
บริษัทแอ๊ดวานซ์ อะโกรแจ้งแก่ทริสเรทติ้งว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงชำระหนี้ที่มีอยู่ตามกำหนดเวลา และจนบัดนี้บริษัทยังไม่ได้รับคำตอบจากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้แต่อย่างใดหลังจากที่บริษัทได้แจ้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2548 อย่างไรก็ตาม บริษัทได้แจ้งว่าผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้แจ้งเรื่องข้อผิดพลาดทางเทคนิคดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นกู้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2548 และคาดว่าผู้ถือหุ้นกู้คงจะไม่ถือเอากรณีดังกล่าวเป็นเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งพิจารณาเห็นว่าการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นอาจทำให้ผู้ถือหุ้นกู้ถือเป็นเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้และจะเร่งให้มีการชำระหนี้หุ้นกู้ดังกล่าว ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสภาพคล่องแก่บริษัทได้ นอกจากนี้ ในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบริษัทที่มีกับธนาคารในประเทศ 3 แห่งก็ระบุว่าหากบริษัทมีการผิดนัดชำระหนี้กับบุคคลอื่นในจำนวนที่มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปโดยไม่มีการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันหลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าหนี้ก็จะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้ภายใต้สัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วย
ปัจจุบันบริษัทกำลังเจรจากับธนาคารในประเทศแห่งหนึ่งเพื่อกู้ยืมเงินจำนวน 14,000 ล้านบาทมาใช้ชำระคืนหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร บริษัทก็จะมีเงินทุนสำรองเพียงพอที่จะใช้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ดังกล่าว โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถสรุปสัญญากู้เงินได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของบริษัทอย่างใกล้ชิด--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ