กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--อมตะ
“อมตะ” ประสานองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น จ.ชลบุรี ร่วมแก้วิกฤตน้ำท่วมภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และครัวเรือน ผันน้ำส่วนเกินกว่า 10 ล้านคิวเข้าอ่างเก็บน้ำนิคมอมตะนคร จ.ชลบุรี ขุดร่องน้ำเชื่อมต่อบริเวณเสี่ยงภัยน้ำท่วม มั่นใจอ่างเก็บน้ำนิคมอมตะ ยังรองรับปริมาณน้ำได้อีกเต็มอัตรา กรณีฝนตกต่อเนื่องถึงเดือนหน้า พร้อมเสนอขายน้ำป้อนมาบตาพุดผ่านอีสท์วอเตอร์ หากภัยแล้งยังยืดเยื้อ ย้ำแผนช่วยลดภาระภาครัฐ สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีสเทิร์นซีบอร์ด
นาย วิบูลย์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (Mr.Viboon Kromadit, Senior Vice President of Amata Corporation PCL.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่องช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันในบริเวณพื้นที่เขตอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และพื้นที่ครัวเรือน ของจังหวัดฉะเชิงเทรา และในอำเภอบ้านบึง อำเภอพานทอง และอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งในเรื่องนี้บริษัทอมตะได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในส่วนขององค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น เข้าไปบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ดังกล่าว โดยวางแผนขุดร่องคลอง กว้างประมาณ 6-8 เมตร เพื่อผันน้ำส่วนเกินเข้าสู่อ่างเก็บน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ซึ่งทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มเข้าสู่ระบบ ประมาณ 10 ล้านคิว การดำเนินการดังกล่าวสามารถเอื้อประโยชน์ได้ในสองทาง ได้แก่ 1.บรรเทาปัญหาภัยน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง โดยภายในนิคมอมตะเองยังไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้น 2.เพิ่มปริมาณน้ำใช้ในการประกอบการอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะสามารถเสนอขายน้ำปริมาณราว 1-2 ล้านคิวให้กับบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรืออีสท์วอเตอร์ เพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมในบริเวณมาบตาพุดที่อาจประสบปัญหาในกรณีวิกฤติภัยแล้งยืดเยื้อ
“จากศักยภาพการจัดการระบบสาธารณูปโภคภายในนิคมอมตะ จึงเชื่อมั่นว่านอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมีปริมาณน้ำเพียงพอใช้ในภาคการผลิตแล้ว ในกรณีที่ฝนตกชุกจนทำให้เกิดภาวะอุทกภัย บริษัทยังสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาให้กับท้องถิ่นใกล้เคียงได้ เนื่องจากเรามีความพร้อมด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผันน้ำส่วนเกินเข้าสู่นิคม ดังนั้นจึงเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของทั้งภาคครัวเรือนที่มีกว่าหมื่นหลังคาเรือน ภาคเกษตรกรรม และภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของภาครัฐในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยอ่างเก็บน้ำของนิคมอมตะ ขณะนี้ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกหากยังเกิดภัยน้ำท่วมต่อเนื่องในช่วงฤดูฝนที่จะยาวนานไปถึงเดือนหน้า” นายวิบูลย์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทได้วางแผนการพัฒนาระบบจัดการน้ำในภาคอุตสาหกรรมในนิคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถรองรับปัญหาวิกฤติต่างๆได้ ทั้งจากภัยน้ำท่วม และในช่วงที่เกิดภาวะภัยแล้ง ซึ่งบริษัทสามารถบริหารทรัพยากรน้ำในนิคมได้อย่างเพียงพอ จึงเป็นส่วนที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมา ในช่วงที่เกิดภาวะภัยแล้ง บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการลอกคลองเพื่อสูบน้ำใช้เพื่อสาธารณูปโภค ให้กับโรงเรียน องค์การบริหารส่วนตำบล ค่ายทหาร และกรมทางหลวง ซึ่งเป็นแนวทางในการบริหารของบริษัทฯที่ต้องการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับสถานที่สำคัญ และชุมชนใกล้เคียง เพื่อให้บริเวณโดยรอบพื้นที่การลงทุนได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
มุก โทร.038-213-007, 01-734-3651
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--