กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ประกาศผลงานการบริหารกองทุนภายใต้การจัดการ 5 เดือนแรกของปี2551 เติบโตตามเป้า โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ พฤษภาคม 2551 เท่ากับ 228,512 ล้านบาท เดินหน้าออกกองทุนอย่างต่อเนื่องเดือนละ 2 กองทุน เพื่อสร้างทางเลือกการลงทุน ที่หลากหลายตอบสนองนักลงทุนทุกกลุ่ม
ดร. พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่เอ็มเอฟซีตั้งเป้าหมายเป็นบริษัทชั้นนำด้านการบริหารความมั่งคั่งและการให้บริการที่เป็นเลิศในระดับภูมิภาคภายในปี 2555 และเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำที่มีอัตราการเติบโตเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี หรือมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการกว่า 450,000 ล้านบาทในปี 2555 โดยในปีนี้เนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุน บริษัทได้ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิไว้ที่ 240,000 ล้านบาท ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2551 บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทภายใต้การจัดการ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2551 เท่ากับ 228,512.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.61 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2550 ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 202,918.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.41 เมื่อเทียบกับธันวาคม ปี 2550 ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 218,857.20 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 กองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 152,457.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.28 เมื่อเทียบกับธันวาคม 2550 ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 146,186.59 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 54,730.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.77 เมื่อเทียบกับธันวาคม 2550 ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 51,742.13 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 21,324.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับธันวาคม 2550 ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 20,928.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดขายกองทุนใหม่ไปแล้วรวม 8 กองทุน และสามารถระดมเงินลงทุนได้รวม 12,187 ล้านบาท โดยนำเสนอกองทุนรวมหลากหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ได้แก่ กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 2 กองทุน กองทุนรวมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์นักลงทุน 4 กองทุน กองทุนรวมตราสารหนี้ 1 กองทุน และกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุน 1 กองทุน
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเวสท์ เอเชีย อินฟราสทรัคเจอร์ ฟันด์ (I-ASIA INFRA) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน INVESCO Asia Infrastructure Fund-C Share Class (Master Fund) ที่ลงทุนในหุ้นธุรกิจสาธารณูปโภคทั่วเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเบิ้ล อินคัม ฟันด์ (I-MSI) ที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจของเกาหลีใต้
กองทุนในกลุ่ม Smart Wealth Solution Family กองทุน 4 แบบ 4 สไตล์ ที่นักลงทุนสามารถกำหนดอัตราผลตอบแทนตามความต้องการภายในระยะเวลาที่กำหนดภายใต้เกณฑ์ความเสี่ยงที่รับได้ โดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กอง ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เดอะ สมาร์ท คอลเลกเตอร์ (The Smart Collector) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เดอะ สมาร์ท เอนแฮนซ์เซอร์ (The Smart Enhancer) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เดอะ สมาร์ท แอดเวนเจอร์เรอร์ (The Smart Adventurer) และ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เดอะ สมาร์ท แมกซิไมเซอร์ (The Smart Maximizer)
กองทุนตราสารหนี้ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีกาญจนทรัพย์ 6/2 หรือ MK62 อายุโครงการ 6 เดือน ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำผลตอบแทนดี และมั่นคง
กองทุนรวมผสมได้แก่ กองทุนรวมออมสิน M-GSB เป็นความร่วมมือระหว่างบลจ.เอ็มเอฟซี และธนาคารออมสิน อายุโครงการ 5 ปี เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุน ที่ธนาคารออมสินถือครองเป็นหลักในช่วงแรก ที่เหลือลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนตลอดจนหลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่น
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์Multi-National Residence Fund (MNRF) มูลค่า 1,075 ล้านบาท ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชุมชนชาวต่างชาติ โดยซื้อบ้านเดี่ยว และห้องชุดพักอาศัยที่ถนนแจ้งวัฒนะ และบ้านเดี่ยวในจังหวัดชลบุรี ใกล้อีสเทิร์นซีบอร์ด (Eastern Seaboard) โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิของกองทุน ซึ่งจะจดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้
สำหรับกองทุนที่จะเปิดขายในเดือนมิถุนายน 2551 จำนวน 2 กองทุนคือ กองทุนเปิดPRO10 Premium ซึ่งเป็นกองทุน Target Fund ที่จะสร้างโอกาสทำกำไรทั้งในช่วงตลาดหุ้นขาขึ้นและขาลง โดยลงทุนใน SET50 Index Futures และตั้งเป้าผลตอบแทนร้อยละ 10 และกองทุนรวม M-GOV 7S1 ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนออกกองทุนอีกประมาณ 12 กองทุน เฉลี่ยเดือนละ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ 3-6 กองทุน กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 3-6 กองทุน กองทุนตราสารทุน 3-6 กองทุน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 2-3 กองทุน
ในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทมีแผนงานที่จะขยายไปสู่ภาคเอกชนมากขึ้น และกองทุนส่วนบุคคลจะขยายไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยขณะนี้ได้มีการขยายทีมงานในส่วนของ Private Wealth และ Private Banking เพิ่มมากขึ้น
ส่วนกองทุน MFC Energy Fund มีแผนงานที่จะลงทุนในโครงการด้านพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอีก 2 โครงการในไตรมาสสาม และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะจัดตั้ง 2-3 กองทุนในปีนี้ ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม คลังสินค้า หรืออาคารสำนักงาน ตั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด มูลค่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศริญญา แสนมีมา /ตรึงฤทัย สันโดษ
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
โทร. 0-2204-8552, 0-2204-8078 โทรสาร 0-2259-9246
คุณสุทรรศิกา คูรัตน์, คุณสุวรรณา ชีวนันทชัย
บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
โทร.0-2649-2230, 0-2649-2232