MJD มั่นใจพื้นฐานแกร่งดันหุ้นติดโผดัชนี SET100 เชื่อกระตุ้นนักลงทุนสถาบันไทย-เทศสนใจเพิ่ม

ข่าวอสังหา Wednesday June 18, 2008 14:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
หุ้น ‘MJD’ ติดรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET100 หลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียง 6 เดือน ผู้บริหาร ‘เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์’ มั่นใจกระตุ้นความสนใจนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน หลังติดโผหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง พร้อมตอกย้ำพื้นฐานแน่น ยันความผันผวนของเศรษฐกิจ —การเมือง ไม่กระทบธุรกิจ ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน จับระดับไฮเอนด์ กำลังซื้อสูงหนุนรายได้
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้คัดเลือกหุ้น MJD ให้เป็นหนึ่งในหุ้นที่ใช้คำนวณดัชนีราคาหุ้น 100 หลักทรัพย์ หรือ SET100 ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2551 (1 กรกฎาคม — 31 ธันวาคม 2551) นั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า MJD เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมหรือ Market Capitalization สูง และมีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนที่เข้ามาลงทุน โดยเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทฯ นั้น นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี
“การที่หุ้น MJD ถูกนำไปคำนวณรวมใน SET100 นั้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากจะทำให้นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบัน สนใจหุ้น MJD มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทุนในประเทศที่มีการลงทุนในลักษณะตามดัชนี ก็จะกระจายการลงทุนมาในหุ้น MJD มากยิ่งขึ้นด้วย” นายสุริยน กล่าว
ทั้งนี้ หุ้น MJD เพิ่งเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งที่ผ่านมาบรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ อาจจะยังไม่ได้เข้ามาติดตามข้อมูลของ MJD อย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไปที่หุ้นในกลุ่มที่ใช้คำนวณ SET50 และ SET100 ก่อน โดยคาดว่าหลังจากนี้ นักวิเคราะห์จะติดตามข้อมูลของ MJD ไปนำเสนอมากขึ้นด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันสภาพเศรษฐกิจ และการเมืองที่ผันผวนในขณะนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ แต่อย่างใด เนื่องจากว่า MJD มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก เพราะโครงการของบริษัทฯ เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งที่ผ่านมายอดขายก็เป็นที่น่าพอใจ เพราะว่าทุกโครงการของบริษัทฯ มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง บวกกับความน่าเชื่อถือในเรื่องศักยภาพของทำเลที่ตั้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย
นอกจากนี้ ในส่วนของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้างมากนัก ซึ่ง MJD เน้นการควบคุมต้นทุนการผลิต โดยที่ทุกโครงการบริษัทฯ ทำสัญญาให้ผู้รับเหมาก่อสร้างหลักรับเหมาและ เป็นคนรับภาระในการคำนวณต้นทุนการก่อสร้างไปหมดแล้ว ทำให้บริษัทฯ สามารถกำหนดราคาขาย และตั้งเป้ากำไรของแต่ละโครงการได้ใกล้เคียง ซึ่งในส่วนนี้นับว่าเป็นการลดความเสี่ยงให้กับบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี บวกกับบริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐอีกด้วย สาเหตุเหล่านี้ทำให้กลุ่มลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ
ล่าสุด MJD ได้เปิดตัวโครงการ "รีเฟล็คชั่น จอมเทียน บีช พัทยา" คอนโดมิเนียมสูง 55 ชั้น และ 42 ชั้น จำนวน 332 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท ซึ่งเป็น ซุปเปอร์ ลักชัวรี่ คอนโดมิเนียม แห่งแรกในเมืองพัทยา และเป็นโครงการที่ 3 ของปีนี้ จะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับ A+ ปัจจุบันมียอดขาย Presale เป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้ทางบริษัทฯ มีแผนจะไปนำเสนอข้อมูลของโครงการ (โรดโชว์) ในประเทศกลุ่มเป้าหมายของตลาดเมืองพัทยา ในแถบสแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีน
ส่วนอีก 2 โครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ โครงการรอยซ์ไพรเวท เรสซิเดนท์ส สุขุมวิท 31 ซึ่ง MJD ได้ร่วมทุนกับบริษัทในเครือ เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท อินเวสต์เม้นต์ (AIG) มูลค่า 3,000 ล้านบาท และโครงการ Marrakesh หัวหิน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันทั้ง 2 โครงการมียอดขายแล้วเป็นที่น่าพอใจ
“สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2551 บริษัทฯ คาดว่าน่าจะออกมาดีกว่าไตรมาสที่ 1/2551 ที่มีรายได้รวม 614.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 107.60 ล้านบาทโดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้จากการขายโครงการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/51 เนื่องจากทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และมีความเชื่อมั่นในตลาดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็นลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อมาก ประกอบกับบริษัทมีการปรับขึ้นราคาขายทุกโครงการที่เปิดดำเนินการขายอยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเน้นการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม เนื่องจากยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย ในขณะที่การพัฒนาโครงการในต่างจังหวัด จะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการในเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เช่น หัวหิน และพัทยา เนื่องจากมีความต้องการที่พักตากอากาศและกำลังซื้อสูงตามจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
วารุณี คำไชย (แนน) โทร: 0-2248-7967-8 ต่อ 23 หรือ 08-1496-6762
e-mail : c_mastermind@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ